วิรตี
เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน
"วิรตีเจตสิก" ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยกรุณาให้อรรถาธิบายในคำนี้ด้วยครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ก่อนอื่นก็เข้าใจวิรตีเจตสิกให้ละเอียดก่อนครับว่าคืออะไร
วิรตีเจตสิก วิรตี (การงด การเว้น การวิรัติ) + เจตสิก (สภาพที่เกิดกับจิต) เจตสิกที่ทำให้เกิดการงดเว้นจากบาป หมายถึง โสภณเจตสิก ๓ ดวง คือ สัมมาวาจา ๑ สัมมากัมมันตะ ๑ สัมมาอาชีวะ ๑
๑. สัมมาวาจาเจตสิก เป็นสภาพที่งดเว้นจากวาจาทุจริต ๔
๒. สัมมากัมมันตเจตสิก เป็นสภาพที่งดเว้นจากกายทุจริต ๓
๓. สัมมาอาชีวเจตสิก เป็นสภาพที่งดเว้นจากอาชีพทุจริต ที่เป็นไปทางวาจา ๔ และทางกาย ๓
วิรตีเจตสิกทั้ง ๓ ดวง นี้ เกิดได้กับจิตเพียง ๑๖ ดวงเท่านั้น คือ เกิดได้กับมหากุศลจิต ๘ ดวง และโลกุตตรจิต ๘ ดวง วิรตีที่เกิดกับมหากุศลจิตจะเกิดได้ทีละดวง ซึ่งเป็นไปในกุศลขั้นศีล เพราะอารมณ์ของวิรตีทั้ง ๓ นั้นต่างกัน จึงเกิดไม่พร้อมกัน ส่วนวิรตีที่เกิดกับโลกุตตรจิตจะต้องเกิดพร้อมกันทั้ง ๓ ดวง เพราะเป็นองค์ของอธิศีลสิกขา ซึ่งทำกิจประหารกิเลสเป็นสมุจเฉท และเพราะมีอารมณ์คือ พระนิพพาน อย่างเดียวกัน
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ
วิรตีเจตสิกเกิดกับมหากุศล ๘ และโลกุตตรจิต ๘
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง ไม่ว่าจะกล่าวถึงอะไรก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงเลย รวมถึงวิรตีเจตสิก ๓ ประเภทด้วย ก็เป็นธรรมที่มีจริง คือ สัมมาวาจาเจตสิก เป็นเจตสิกที่ดีงามที่วิรัติงดเว้นจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ สัมมากัมมันตเจตสิก เป็นเจตสิกที่ดีงามที่งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ และประพฤติผิดในกาม และ สัมมาอาชีวเจตสิก เป็นเจตสิกที่ดีงามที่งดเว้นจากวจีทุจริตและกายทุจริตที่เกี่ยวเนื่องด้วยอาชีพ ธรรมเป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นไปได้
ถ้าไม่ได้มีการวิรัติงดเว้นอะไร วิรตีเจตสิกแต่ละหนึ่งก็ไม่ได้เกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดกับมหากุศลหรือเกิดร่วมกับมัคคจิต สภาพธรรมเหล่านี้ก็ไม่เปลี่ยน เป็นเจตสิกแต่ละประเภทๆ เพียงแต่ว่าถ้าเกิดร่วมกับมหากุศลจิต เกิดเพียงวิรตีหนึ่งเท่านั้นจะไม่เกิดพร้อมกัน เนื่องจากอารมณ์ต่างกัน แต่ถ้าเกิดร่วมกับมัคคจิต (และผลจิต) ต้องเกิดพร้อมกันทั้ง ๓ เจตสิก ทำกิจดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น และรู้อารมณ์เดียวกันคือพระนิพพาน นอกจากนั้นแล้ว ก็จะต้องเกิดร่วมกับองค์มรรคอื่นๆ อีก ๕ องค์ด้วย คือ สัมมาทิฏฐิ (ปัญญาเจตสิก) สัมมาสังกัปปะ (วิตักกเจตสิก) สัมมาวายามะ (วิริยเจตสิก) สัมมาสติ (สติเจตสิก) สัมมาสมาธิ (เอกัคคตาเจตสิก) รวมเป็นองค์มรรคทั้ง ๘ องค์ที่ประชุมพร้อมกันในขณะที่มัคคจิตและผลจิตเกิดขึ้นครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...