บูชาครู วันมาฆะ ปี ๒๕๕๘
ด้วยพยายามเข้าใจให้ถูกต้อง
ด้วยพยายามมีสติระลึก
ด้วยงดเว้น ปลดปล่อย ละ คลาย ไม่ส้องเสพ
ด้วยอื่นๆ เท่าที่ระลึกได้ในปัจจุบัน อันเป็นเหตุให้ ไม่ยึดมั่นไม่ยึดติด
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ครู เป็นบุคคลผู้มีพระคุณต่อศิษย์มากมาย เป็นผู้แนะนำสั่งสอนให้ศิษย์เป็นคนดี ให้ตั้งอยู่ในคุณธรรมอันดีงาม เป็นผู้มีความจริงใจที่จะพร่ำสอนศิลปวิทยาให้แก่ศิษย์โดยประการทั้งปวง ถ้าจะกล่าวอย่างกว้างๆ แล้ว ครู เป็นบุคคลผู้ที่ควรเคารพ เป็นบุคคลผู้ควรแก่การบูชา ควรอย่างยิ่งที่ศิษย์จะแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวที ตามความสามารถของแต่ละบุคคลที่จะกระทำได้ ครู มีหลายประเภท เมื่อประมวลเพื่อประโยชน์แก่การศึกษาพิจารณาร่วมกัน สามารถสรุปได้ ๔ ประเภท ดังนี้คือ
๑. ครูคนแรก หมายถึง บิดามารดา เป็นผู้ที่แนะนำในสิ่งที่ควรแนะนำ กล่าวคือ สอนให้ลูกเรียกคนนี้ว่า แม่ สอนให้เรียกคนนี้ว่าพ่อ สอนให้เรียกคนนี้ว่า พี่ ป้า น้า อา เป็นต้น พร้อมทั้งแนะนำให้ลูกตั้งอยู่ในคุณความดีประการต่างๆ ด้วย
๒. ครูคนที่สอง หมายถึง ครูอาจารย์ในโรงเรียน หรือในสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่พร่ำสอนศิลปวิทยาแขนงต่างๆ เพื่อประโยชน์แก่การประกอบอาชีพที่จะทำให้เป็นผู้มีชีวิตดำรงอยู่อย่างไม่เดือดร้อน พร้อมทั้งศิลปวิทยาที่เรียนมานั้นยังสามารถก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมโดยรวมได้อีกด้วย
๓. ครูผู้สอนธรรม หมายถึง บุคคลผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรม ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีความเข้าใจถูกเห็นถูกแล้วมีเมตตาประสงค์จะให้ผู้อื่นได้เข้าใจตามด้วย จึงมีการกล่าวธรรม มีการแสดงธรรม เพื่อประโยชน์ คือ ความเข้าใจถูก ความเห็นถูกของผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษา (มีน้อยคนที่จะเป็นครูประเภทนี้ได้ เพราะต้องมีความเข้าใจพระธรรมอย่างถูกต้องและต้องมีเมตตาด้วย)
๔. ครูผู้ยิ่งกว่าครูทั้งหลายในโลก ได้แก่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นศาสดา (เป็นครู เป็นผู้สอน) ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย (ซึ่งตรงกับพระพุทธคุณบทหนึ่งคือสัตถา เทวมนุสสานัง) พระองค์เสด็จอุบัติขึ้นในโลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกให้เป็นผู้หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง อย่างที่พระองค์ได้หลุดพ้นแล้ว การเกื้อกูลสัตว์โลกนั้น ก็ด้วยการทรงแสดงพระธรรม ตามสมควรแก่อัธยาศัยของผู้ฟัง ช่วงเวลาแห่งการแสดงพระธรรมประกาศพระศาสนาของพระองค์นั้น นานถึง ๔๕ พรรษา จากพระมหากรุณาที่ทรงแสดงพระธรรมนั้น ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรมมีเป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งเทวดา พรหม และมนุษย์ทั้งหลาย จึงไม่มีครูคนใดยิ่งไปกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ความเคารพต่อบุคคลผู้ที่ควรเคารพ กล่าวคือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า (รวมถึงพระธรรม และ พระอริยสงฆ์ด้วย) หรือต่อผู้มีพระคุณมีบิดามารดา ครู อาจารย์ เป็นต้น นั้น ควรกระทำเนืองบ่อยๆ เนืองๆ พร้อมทั้งควรอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ด้วยความจริงใจ เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองด้วย
การบูชาคุณพระพุทธเจ้าผู้เป็นครูสูงสุด ด้วยความเข้าใจพระธรรม ที่จะเป็นผู้ละเอียดในการเข้าใจพระธรรม โดยเกิดจากการฟัง ศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง ซึ่งการเข้าใจถูกว่า หนทางการดับกิเลส คือ ไม่ใช่ตัวเราจะทำ ไม่ใช่เราตัวเราที่จะพยายามละกิเลส ไม่ใช่ตัวเราที่จะปล่อยวาง ไม่ยึดติด เพราะเข้าใจถูกว่ามีแต่ธรรม ไม่ใช่เรา เมื่อเป็นเช่นนี้ มีแต่ธรรมที่จะทำหน้าที่ละกิเลส มีแต่ธรรมที่จะไม่ยึดถือ ซึ่งธรรมเหล่านี้ คือ สติ และ ปัญญา จะเกิดได้ด้วยการฟังศึกษาพระธรรม อบรมอย่างยาวนาน โดยไม่มีตัวตนจะไปทำอะไรทั้งสิ้น หนทางที่ถูกคือ ฟังพระธรรมต่อไป และธรรมจะปรุงแต่งค่อยๆ เข้าใจถูกเอง โดยไม่ต้องไปละ ไปวาง ไปพยายามใดๆ ทั้งสิ้น การเข้าใจถูกเช่นนี้จึงเป็นการบูชาคุณครู คือ พระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอเชิญเปิดอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
ท่านจะบูชา...พระรัตนตรัย...ด้วยอะไร
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...