ภพภูมิที่มีขันธ์5 จะมีรายละเอียดของขันธ์เหมือนกันไหมครับ

 
ผู้มาใหม่
วันที่  8 มิ.ย. 2558
หมายเลข  26613
อ่าน  2,443

A. ภพภูมิที่มีขันธ์ 5 มี 1) .อบาย 4 2) .มนุษย์1 3) .เทวดา 6 4) .รูปพรหม 16 ถูกต้องไหมครับ

B. ภพภูมิที่มีขันธ์ 5 จะมีรายละเอียดของขันธ์เหมือนกัน เช่นรูปก็มี 28 เจตสิก 52 จิต 89 (121) ถูกต้องไหมครับ

C. ภูมิที่เกิดแล้วค่อยๆ โตคือ มนุษย์ เดรัจฉาน และบางจำพวกของเทวดาชั้นต่ำสุด ที่เหลือเกิดแล้วโตเลย ถูกต้องไหมครับ

D. พวกเปรตที่เกิดแล้วโตทันที จะถือว่าเป็นกายละเอียดไหมครับ

กราบขอบพระคุณอาจารย์มากครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 8 มิ.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่น ต้องเข้าใจถึงความหมายของขันธ์ ก่อนว่า หมายถึง อะไร

ขันธ์ หมายถึง สภาพธรรมที่ทรงไว้ซึ่งความว่างเปล่า เกิดเพราะเหตุปัจจัย แล้วก็ดับไป ไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน ขันธ์ ทั้งหมด มี ๕ ได้แก่ รูปขันธ์ (รูปทั้งหมด) เวทนาขันธ์ (ความรู้สึก) สัญญาขันธ์ (ความจำ) สังขารขันธ์ (ได้แก่เจตสิก ๕๐ มี ผัสสะ เจตนา เป็นต้น) และวิญญาณขันธ์ ได้แก่ จิตทั้งหมด ดังนั้น ขันธ์ มี ๕ ไม่ขาด และ ไม่เกิน

แต่ที่กล่าวว่า ขันธ์ ๕ ขันธ์ ๔ และ ขันธ์ ๑ นั้น ก็ตามควรแก่ภพภูมินั้นๆ เช่น ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ เกิดเป็นเทวดา เกิดเป็นรูปพรหมบุคคล (เว้นอสัญญสัตตาพรหม) ก็มีขันธ์ ๕ ครบ เรียกว่า มีขันธ์ ๕ ส่วนผู้ที่เป็นเป็นอรูปพรหมบุคคล มีแต่นามธรรม ไม่มีรูปธรรมเกิดขึ้นเลย ก็มีเพียงขันธ์ ๔ เฉพาะที่เป็นนามธรรม ได้แก่ เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ สำหรับผู้ที่เกิดเป็นอสัญญสัตตาพรหม มีเฉพาะรูปธรรม ก็มีเพียงขันธ์ ๑ ที่เป็น รูปขันธ์ เท่านั้น

ดังนั้น ขันธ์ ไม่พ้นไปจาก ๕ ไม่ว่าจะเป็นภพภูมิที่มีขันธ์ครบ ๕ ขันธ์ ไม่ว่าจะเป็นภพภูมิที่มีขันธ์เดียว คือ อสัญญสัตตาพรหมที่มีแต่รูปธรรม หรือในภพภูมิที่มีขันธ์ ๔ คือ มีเฉพาะนามธรรม (เวทนา สัญญา สังขารขันธ์และวิญญาณขันธ์) ก็คือ ขันธ์ นั่นเอง ซึ่งเป็นธรรมที่มีจริง ที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย เกิดแล้วดับ ไม่กลับมาอีกเลย

A. ภพภูมิที่มีขันธ์5 มี1) .อบาย4 2) .มนุษย์1 3) .เทวดา6 4) .รูปพรหม16 ถูกต้องไหมครับ

-ถูกต้องครับ

B. ภพภูมิที่มีขันธ์5 จะมีรายละเอียดของขันธ์เหมือนกัน เช่นรูปก็มี28 เจตสิก52 จิต89 (121) ถูกต้องไหมครับ

-โดยทั่วไป เป็นเช่นนั้น ครับ

C.ภูมิที่เกิดแล้วค่อยๆ โตคือ มนุษย์ เดรัจฉาน และบางจำพวกของเทวดาชั้นต่ำสุด ที่เหลือเกิดแล้วโตเลย ถูกต้องไหมครับ

-ใช่ ครับ แต่บางครั้ง บางเวลา มนุษย์ปฐมกัปก็เกิดโตทันที เป็นโอปปาติกะ และ สัตว์เดรัจฉาน บางพวก บางเวลาก็เกิดโต เป้นโอปปาติกะได้เช่นกัน ครับ

D. พวกเปรตที่เกิดแล้วโตทันที จะถือว่าเป็นกายละเอียดไหมครับ

-ตามเหตุ ที่ไม่ถึงเทวดาครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 8 มิ.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ต้องอาศัยการฟังการศึกษาพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย จึงจะเป็นเหตุให้เข้าใจถูกตรงตามความเป็นจริงของธรรมได้ แม้แต่ขันธ์ก็เช่นเดียวกัน มีจริงๆ ในขณะนี้ ที่กล่าวถึงสัตว์บุคคลในภพภูมิต่างๆ นั้น ก็เพราะมีความเกิดขึ้นเป็นไปของขันธ์ นั่นเอง, ขันธ์ ไม่ได้ไกลจากชีวิตประจำวันเลย แต่ขันธ์มีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะกล่าวถึงธรรมใดที่เกิดแล้วดับไป ล้วนเป็นขันธ์ ทั้งนั้น เห็นเป็นขันธ์ รูป เป็นขันธ์ โกรธ เป็นขันธ์ ความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นขันธ์ เป็นต้น เมื่อเป็นขันธ์ ก็ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด ครับ

ขอเชิญคลิกฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้ที่นี่ครับ

ขันธ์ ๕ ได้แก่ปรมัตถธรรม ๓

ขันธ์ ๕ - ปรมัตถธรรม ๓

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ผู้มาใหม่
วันที่ 9 มิ.ย. 2558

กราบขอบพระคุณอาจารย์มากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
tanrat
วันที่ 10 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
peem
วันที่ 10 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
papon
วันที่ 11 มิ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Jarunee.A
วันที่ 4 พ.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ