เกี่ยวกับพระอนาคามี - ยังติดข้องในชาติภพ
กราบเรียนถามครับ
ขอความรู้เกี่ยวกับความไม่ติดในรูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส แต่ยังติดข้องในชาติภพหรือในความมีความเป็นด้วยครับ คือ ไม่ติดในรูป เสียงและตามลำดับ ผมยังพอเข้าใจได้ แต่ไม่ติดข้องในชาติภพหรือในความมีความเป็นนี้ รู้และเข้าใจยากมากครับ ขอความกรุณาให้ความรู้ความเข้าใจอย่างละเอียดด้วยครับ
กราบขอบพระคุณอย่างสูงครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นการกล่าวถึงพระอริยบุคคล (บุคคลผู้ห่างไกลจากกิเลสที่ดับได้แล้ว) ขั้นที่ ๓ คือ พระอนาคามีบุคคล, พระอนาคามีบุคคลเป็นพระอริยบุคคลขั้นที่ ๓ เป็นผู้ที่ดับความยินดีพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ได้ เป็นผู้ที่ดับความโกรธได้ แต่ท่านยังไม่สามารถดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากว่ายังมีโลภะ ความติดข้องในภพในความเกิด เพราะผู้ที่จะดับความติดข้องในภพได้ นั่นหมายความว่า ต้องไม่มีการเกิดอีก คือถึงความเป็นพระอรหันต์ แต่พระอนาคามีไม่ใช่พระอรหันต์ จึงมีความติดข้องในภพอยู่ ยังมีการเกิดและยังมีมานะ และยังมีอวิชชา รวมถึงอกุศลธรรมที่เกิดร่วมกันด้วย เช่น อหิริกะ (ความไม่ละอาย) อโนตตัปปะ (ความไม่เกรงกลัว) เป็นต้น กิเลสเหล่านี้จะถูกดับได้อย่างเด็ดขาด เมื่อถึงความเป็นพระอรหันต์ ครับ
ขอเชิญคลิกฟังและอ่านคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
เพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ ...
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบขอบพระคุณ อ.คำปั่นครับ
ต้องขออภัยด้วยครับ ที่ใช้คำว่า รู้และเข้าใจ ในคำถามเบื้องต้น ต่อเมื่อได้อ่านและฟังคำบรรยายจากท่านอ.สุจินต์แล้วก็จะได้รู้ได้เข้าใจว่า ความรู้ความเข้าใจของผมเมื่อเบื้องต้นนั้นคิดเอง ตื้นเขินและไม่ตรงเสียทีเดียว จากนี้ไปจะนำข้อความของท่านอ.สุจินต์มาไตร่ตรองเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องสืบต่อไปครับ
น้อมกราบและขออนุโมทนาในพระสัทธรรมครับ
แล้วเป็นพระอนาคามีนั้น ยังมีความข้องติดอยู่กับการเสพกามคุณไหมครับ และอะไรที่บ่งบอกว่าบุคคลเหล่านั้นได้บรรลุเป็นพระอนาคามี และการบรรลุธรรมตั้งแต่พระโสดาบันถึงพระอรหันต์นั้นจะรู้ตัวเองอยู่เสมอหรือไม่รู้ตัวเองครับ และการที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งบรรลุธรรมจะมีอะไรบ่งบอกครับว่าได้บรรลุธรรมถึงขั้นไหนแล้วครับ
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่นี่ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...