คนตายแล้ว วิญญาณยังวนเวียน?

 
เจริญในธรรม
วันที่  12 มี.ค. 2559
หมายเลข  27556
อ่าน  4,465

รบกวนสอบถามครับท่านผู้รู้ ขอความกระจ่างหน่อยครับ สับสน

1. คนตายแล้ว วิญญานยังวนเวียน หรือไปเกิดเลย หากไปเกิดเลยทันที ซึ่งก็ได้ทราบมาบ่อยๆ แต่ทำไมบางท่านหรือหลายท่านที่รู้ธรรมบอกว่ายังวนเวียนระยะนึงก่อนไปเกิด และก็คนส่วนใหญ่มักเห็นญาติตัวเองที่ตายมาหา

ในพระไตรปิฎกมีกล่าวไว้ในบท พระสูตรไหน ที่ยืนยันว่าตายแล้วไปเกิดเลยในภพภูมิต่างๆ

ขอบคุณมากครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 13 มี.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การมีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน ย่อมเป็นช่วงเวลาที่ประเสริฐของชีวิต เพราะเหตุว่านำมาซึ่งความเข้าใจถูก เห็นถูก ตามความเป็นจริง เมื่อมีความเข้าใจที่ถูกต้อง มั่นคง ในเหตุในผล ย่อมจะไม่เอนเอียงในคำพูด ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เข้าใจ แบบผิดๆ ตามๆ กันมา วิญญาณ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นจิต เป็นสภาพธรรมที่เป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ วิญญาณ หรือ จิต เป็นนามธรรม ไม่มีรูปร่าง ไม่มีการล่องลอยแต่เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เกิดดับสืบต่อกันในชีวิตประจำวัน ทุกขณะของชีวิต มีจิตเกิดดับสืบต่อกันอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยปราศจากจิตเลยแม้แต่ขณะเดียว ไม่ว่าจะเห็น ได้ยิน ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก ขณะที่จิตเป็นกุศล หรือ เป็นอกุศล หรือแม้กระทั่งขณะแรกของชีวิต ก็เป็นจิต ผู้ที่ไม่ได้บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์ดับกิเลสได้ทั้งหมด เมื่อตายไป (จิตขณะสุดท้ายของชีวิตในชาตินี้ เกิดขึ้นทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้) ย่อมเกิดทันที (ปฏิสนธิจิต) แต่จะไปเกิดเป็นอะไร ที่ไหนนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับกรรมที่กระทำแล้ว แต่เกิดแน่นอน สังสารวัฏฏ์ก็ยังดำเนินต่อไป (มีจิต เจตสิก รูป เกิดขึ้นเป็นไป อย่างไม่ขาดสาย) ถ้าเป็นผลของกุศลกรรม ก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิ เกิดเป็นมนุษย์หรือเป็นเทวดา ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม ก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ ส่วนผู้ที่บรรลุเป็นพระอรหันต์ เมื่อดับขันธปรินิพพานแล้ว (ตาย) ย่อมไม่มีการเกิดอีกในสังสารวัฏฏ์

ในประเด็นที่กล่าวในคำถาม คือ เห็นญาติซึ่งตายไปแล้วมาหา นั้น ก็คือ ผู้นั้นต้องเกิดแล้ว เกิดเป็นสัตว์ในภพภูมิอื่นแล้ว ไม่ใช่วนเวียนรอการเกิด เพราะความจริงคือตายแล้วเกิดทันที ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

นาวาวิมาน [ตติยนาวาวิมาน]

ว่าด้วยสงสารกำหนดเบื้องต้นเบื้องปลายเหมือนท่อนไม้ [ทัณฑสูตร]

ธรรมจริยสูตร ... พระสูตรวันเสาร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
apiwit
วันที่ 13 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณและกราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 13 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Noparat
วันที่ 14 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 15 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Tommy9
วันที่ 18 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Tommy9
วันที่ 19 มี.ค. 2559

ขอเรียนถามเพิ่มเติมครับ ในเมื่อจิตเป็นนามธรรม ไม่มีรูป ขณะที่จิตสุดท้ายที่ดับไป (ตาย) มีการเคลื่อนของจิตไปเกิดในภพภูมิอื่น ในการเคลื่อนของจิตนี้ จีงทำให้เข้าใจว่าจิตวิญญาณเป็นรูปธรรมและได้เคลื่อนออกจากกาย (คล้ายมีสิ่งของหรือวัตถุเคลื่อนออกไป) ขอความเข้าใจเพิ่มเติมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
thilda
วันที่ 22 มี.ค. 2559

จิตเป็นสภาพรู้ ดังนั้นไม่ได้เคลื่อนออกจากกายค่ะ

ขอเชิญอ่านและฟัง

บ้านธัมมะ ม.ค. ๒๕๕๒ ตอนที่ 35

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 23 มี.ค. 2559

มัทกุลลี ท่านเป็นลูกชายเศรษฐีก่อนตายมีจิตเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าไปเกิดเป็นเทพบุตร ก็เห็นบิดาร้องไห้เสียใจ ก็มาอนุเคราะห์บิดา ภายหลังบิดาก็หายเศร้าโศกเสียใจค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Tommy9
วันที่ 25 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
wirat.k
วันที่ 26 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 22 มิ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ