ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๖๔

 
khampan.a
วันที่  11 ก.ย. 2559
หมายเลข  28184
อ่าน  2,841

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๖๔

~ สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมอบให้เป็นมรดกที่ล้ำค่ากับชาวพุทธ ก็คือ คำจริงทุกคำที่เป็นประโยชน์ทั้งพระธรรมและพระวินัย เพราะฉะนั้น ทุกคนถ้าเห็นคุณอย่างนี้ บูชาคุณด้วยความเป็นผู้ตรง ศึกษาธรรมให้เข้าใจ ประกาศคำสอนที่ถูกต้องเพื่อให้คนอื่นได้มีโอกาสได้รู้ได้เข้าใจถูก ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในชาติต่อๆ ไป

~ ถึงเวลาหรือยังที่จะศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจให้ถูกต้องเพื่อดำรงรักษาพระศาสนา เพราะชีวิตสั้นมากสิ่งที่ประเสริฐที่สุดคือได้เข้าใจธรรมแล้วก็ได้ประพฤติปฏิบัติทุกอย่างที่จะเป็นการสืบต่อ ทะนุบำรุงพระศาสนาที่ถูกต้อง ให้ยั่งยืนต่อไป

~
ไม่ใช่ว่าบวชแล้ว จบเลย จะทำอะไรก็ได้ ไม่ใช่อย่างนั้นเลย พระภิกษุจะต้องประพฤติปฏิบัติตามพระวินัยตลอดเวลาที่เป็นพระภิกษุ

~ พระภิกษุเป็นผู้ที่ได้ฟังธรรมเหมือนอย่างเราๆ แต่มีอุปนิสัยที่เคยสะสมมาที่จะอบรมเจริญปัญญาในอีกเพศหนึ่ง เพศที่บรรพชา หมายถึงสละ บรรพชา คือ สละ อุปสมบทในพระธรรมวินัย คือ สละบ้าน สละพ่อแม่ สละความสนุก ซึ่งทุกคนก็รู้จักตัวเองตามความเป็นจริง ไม่มีการบังคับว่า ให้คนฟังทั้งหมดไปบวช หรือไปอุปสมบท ไปบรรพชา ในพระพุทธศาสนาไม่มีคำว่า "ต้อง" หรือ ไม่มีคำว่า "อย่า" แต่ทรงแสดงเหตุและผลทั้งหมดให้คนฟังพิจารณาให้เป็นความเข้าใจของคนนั้น

~ สิ่งใดที่ควรสำหรับพระภิกษุ และสิ่งใดที่ไม่ควร เพราะเพศต่างกัน พระภิกษุจะมาอยู่บ้าน ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือพิมพ์ เล่นเทนนิส ได้ไหม? ไม่ได้ นั่น ไม่ใช่นิสัย ไม่ใช่อุปนิสัย พระภิกษุก็ต้องเป็นผู้ที่สงบ ผู้ที่สละ

~ ผู้ที่เข้าใจพระธรรมวินัย มีความสงสาร มีความเป็นมิตรมีความต้องการที่จะให้ผู้ประพฤติผิด ละเลิกความประพฤติผิดจะเป็นประโยชน์กับตัวเขาด้วยและเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วย

~
ทุกท่านที่เข้าใจพระธรรมก็จะเป็นกำลังหนึ่งที่จะทำให้มีคนที่ได้เข้าใจพระธรรมเพิ่มขึ้นด้วยการสนทนาและเผยแพร่สิ่งที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ ไม่ใช่เฉพาะบุคคลเดียวแต่เป็นประโยชน์กับคนทั่วไปด้วย

~
เกิดมาแล้วต้องตายแน่ แต่ว่า ระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ คงไม่ลืม จะเอาอะไรไป ดีหรือชั่ว ไม่มีใครทำให้ได้เลย, ให้เข้าใจจริงๆ ว่า เกิดมา ชั่วคราว ทุกขณะ และแต่ละขณะ นั้น เป็นเหตุที่จะติดตามไปเมื่อเป็นกุศลและอกุศล แค่นี้ก็พิจารณาได้ แล้วจะสะสมกุศลหรืออกุศล? ถ้าจะสะสมกุศลก็ต้องมีความเข้าใจธรรมด้วย เพราะเหตุว่าถ้าไม่มีความเข้าใจธรรม ก็มีกุศลที่ไม่ทำให้ถึงการดับกิเลส ก็ยังคงเกิดตาย เกิดตาย เกิดตาย ชาติแล้วชาติเล่า

~
สิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร สิ่งใดเป็นคุณสิ่งใดเป็นโทษ ปัญญาสามารถที่จะเข้าใจได้ และปัญญานำไปในกิจคือ กุศลทั้งปวงได้

~
ไม่มีอะไรที่ไม่ดีเลยในเมื่อเป็นปัญญาต้องนำไปในทางที่ดี ไม่ได้ทำผิดอะไร

~
พิจารณาในเหตุผลแล้วทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยไม่หวั่นไหว เพราะเหตุว่าถ้าเป็นสิ่งที่ดี เป็นประโยชน์แล้ว ก็ควรทำ

~
ความเข้าใจถูกต้องจะนำความดีอื่นๆ มาด้วย เพราะได้เข้าใจว่าอะไรถูก อะไรผิด

~ มีวัด แต่ไม่มีภิกษุตามพระธรรมวินัย ก็ยังดีกว่ามีโจร (ในผ้าเหลือง) ใช่ไหม?

~ ที่สำคัญที่สุดที่จะดำรงพระศาสนาอยู่ที่ความเข้าใจถูกความเห็นถูกตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว ก็ต้องช่วยกันที่จะเป็นผู้ที่ตรงที่จะรู้ว่าจะรักษาพระศาสนาได้อย่างไร มิฉะนั้นแล้ว ไม่สำเร็จ เหมือนกับความคิดที่ว่า "เมื่อไหร่คนจะไม่ทุจริต" จะสำเร็จได้อย่างไร ถ้าไม่เข้าใจธรรม เพราะเป็นอกุศล แต่ถ้าเป็นกุศล ก็ตรงกันข้าม และกุศลนี้จะมาจากไหน ถ้าไม่เข้าใจธรรม เกิดได้ไหม เพราะวันนี้อกุศลก็มาก แค่ลืมตาก็เป็นอกุศลแล้ว แต่ไม่รู้

~ ท่านผู้ฟัง จะเห็นถึงความเคารพ นอบน้อมของพระอรหันต์ทั้งหลาย ที่มีต่อพระผู้มีพระภาค แม้ว่าจะทรงอนุญาตให้ถอน "สิกขาบทเล็กน้อย" แต่พระอรหันตเถระทั้งหลาย ท่านก็มีความเคารพในสิกขาบทที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงบัญญัติแล้ว เพราะฉะนั้น พระอรหันตเถระทั้งหลาย ก็ไม่ถอนพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติแล้วและไม่บัญญัติ สิ่งที่ไม่ทรงบัญญัติ

~ โทษผิดใดๆ จะไม่มาหาผู้ที่ทำถูกต้องและทำความดี เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องหวั่นไหว ไม่ต้องหวั่นเกรง

~ วัดวาอาราม สถานที่ สามารถที่จะให้ความจริงหรือเปล่า? หรือ ต้องเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีผู้ที่ได้ศึกษาสืบทอดกันมาที่ไม่คลาดเคลื่อน จึงจะดำรงรักษาคำสอนไว้ได้

~ เกิดมาแล้ว ไม่เข้าใจทุกอย่างที่เป็นธรรม จากโลกนี้ไปก็ยังคงไม่เข้าใจทุกชาติ เพราะฉะนั้น จะเริ่มเข้าใจ ก็ต่อเมื่อเริ่มฟังพระธรรม

~ คนที่เห็นประโยชน์จริงๆ ในชีวิต ทรัพย์สมบัติเอาไปไม่ได้ ทุกอย่างเอาไปไม่ได้ แต่ความดี ความเข้าใจธรรม ก็จะนำ (ทาง) ต่อไปให้เป็นคนที่สะสมที่จะเป็นคนที่ดีในชาติต่อๆ ไป จนกว่ากิเลสจะหมด

~ ควรที่จะคิดถึงว่า อกุศลมากจนเกินกว่าที่จะดับได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น ก็จะต้องอบรมเจริญกุศลทุกประการ เพื่อที่จะละอกุศลนั้นได้เป็นสมุจเฉท (ถอนขึ้นได้อย่างเด็ดขาด) ในวันหนึ่ง

~ ถ้ารู้ตัวเองว่า "กุศลใดๆ ที่ทำ ยังไม่พอ ยังน้อยเหลือเกิน เมื่อเทียบกับอกุศล" ก็จะเป็นกำลังใจที่จะทำให้มีศรัทธา ที่จะทำกุศลมั่นคงขึ้น

~ เพื่อน ไม่ใช่ศัตรู เพื่อนต้องหวังดี พร้อมที่จะทำประโยชน์เกื้อกูลได้ ในทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ ไม่แข่งดี ไม่ริษยา ไม่เป็นศัตรู ทุกอย่างที่ไม่ดี จะไม่มีในขณะที่เป็นเพื่อน

~ อกุศล กล้าในทางอกุศล กล้าฆ่า กล้าเบียดเบียน กล้าประทุษร้าย แต่ว่าถ้าเป็นทางฝ่ายที่ดี แล้ว ก็กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำสิ่งที่ดี

~ พระธรรม นำไปสู่ความเข้าใจถูกเห็นถูก

~ พระธรรมยิ่งเปิดเผย ยิ่งรุ่งเรือง เพราะฉะนั้นทางใดที่จะเป็นทางให้คนได้เข้าใจถูกต้อง ก็เป็นการเท่ากับว่า รักษาพระศาสนา รักษาพระธรรมไว้

ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๖๓

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
peem
วันที่ 11 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 11 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
thilda
วันที่ 11 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เมตตา
วันที่ 11 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิต ของ อ.คำปั่น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เข้าใจ
วันที่ 11 ก.ย. 2559

พระธรรมยิ่งเปิดเผย ยิ่งรุ่งเรือง เพระฉะนั้นทางใดที่จะเป็นทางให้คนได้เข้าใจถูก

ต้อง ก็เป็นการเท่ากับว่า รักษาพระศาสนา รักษาพระธรรมไว้

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อาจารย์คำปั่นครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Boonyavee
วันที่ 12 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
swanjariya
วันที่ 12 ก.ย. 2559

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์วิทยากรและท่านผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆ ท่าน

พระธรรมยิ่งเปิดเผยยิ่งรุ่งเรือง กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
intra
วันที่ 12 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Noparat
วันที่ 12 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
j.jim
วันที่ 12 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
j.jim
วันที่ 12 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
jaturong
วันที่ 12 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
rrebs10576
วันที่ 12 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
siraya
วันที่ 13 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 13 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
Thanapolb
วันที่ 13 ก.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สืบทอดศาสนา ได้ด้วยความเข้าใจพระธรรม

ขอบพระคุณและอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
aurasa
วันที่ 15 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 16 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
kukeart
วันที่ 16 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
chatchai.k
วันที่ 12 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ