ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๗๖

 
khampan.a
วันที่  4 ธ.ค. 2559
หมายเลข  28401
อ่าน  2,067

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๗๖

~ ขอให้ได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อพระพุทธศาสนา

~ สิ่งใดก็ตาม ที่เข้าใจกันผิดๆ ว่า เป็นการส่งเสริม สิ่งนั้น ทำลายทั้งหมด เมื่อไม่ใช่ความจริง

~ คฤหัสถ์ต่างหาก ที่มีเรื่องที่เกี่ยวกับเงินและทอง แต่พระภิกษุและสามเณร ทั้งหมดไม่รับ และไม่ยินดีในเงินและทอง ด้วย

~ การที่จะสละเพศคฤหัสถ์สู่เพศบรรพชิต เพื่ออะไร? ถ้าไม่เป็นการเพื่อที่จะขัดเกลากิเลส โดยศึกษาพระธรรม และประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย ไม่ใช่พระภิกษุ แน่นอน

~ สิ่งที่มีค่าที่ควรที่จะได้เข้าใกล้ ก็คือ การได้ยินได้ฟังคำ ซึ่งเป็นคำจริง บ่อยๆ เนืองๆ

~ เพศคฤหัสถ์ก็ฟังธรรม ศึกษาธรรม สนทนาธรรมได้ อบรมเจริญปัญญาในเพศคฤหัสถ์ได้

~ คนที่กล่าวว่า "ยุคสมัยเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้น พระภิกษุต้องรับเงินทอง ไม่อย่างนั้น จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร" เขา เคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า ผู้ทรงบัญญัติสิกขาบท (บทที่จะต้องศึกษาและประพฤติตาม) ซึ่งคำใด ที่ตรัสแล้ว เปลี่ยนไม่ได้

~ มิใช่ให้ถวาย (เงิน) โดยตรง (กับพระภิกษุ) แต่มอบไว้ในมือกัปปิยการก (คฤหัสถ์ผู้กระทำในสิ่งที่สมควร) ผู้ที่ดูแล ผู้ที่สมควรที่จะจัดของสำหรับถวาย พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตให้ยินดีของอันเป็นกัปปิยะที่สมควรจากกัปปิยภัณฑ์ จากเงินทองที่เขาให้แก่กัปปิยการกนั้น แต่พระผู้มีพระภาคมิได้กล่าวว่า พึงยินดี พึงแสวงหาทองและเงินโดยปริยายไรๆ เลย

~ จุดประสงค์ของพระธรรมวินัย เพื่อละ เพื่อขัดเกลากิเลส

~ ถ้ามีชีวิตที่เป็นอยู่แล้ว รับเงิน นั่น ไม่ใช่พระภิกษุ

~ ความไม่ละอายเป็นสภาพธรรมซึ่งเป็นเจตสิก เกิดพร้อมกับอกุศลจิตทุกดวง เพราะความไม่ละอายในอกุศลธรรมระดับนั้น ขั้นนั้น ยังมี จิตจึงเกิดเป็นอกุศลในขั้นนั้น ปัญญาที่รู้ความจริงอย่างนี้บ่อยๆ เนืองๆ จะขัดเกลาละอหิริกะ (ความไม่ละอาย) ในอกุศลธรรมเท่าที่ระดับขั้นของปัญญาจะเป็นไปได้ แล้วแต่ว่าปัญญาขั้นใดจะเกิดขึ้นรู้ลักษณะของสภาพธรรมขั้นใด ก็ขัดเกลาละคลายอกุศลธรรมระดับนั้นๆ

~ พระธรรม เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด ไม่ใช่แต่เฉพาะในบ้าน ในเมือง แต่ทั้งโลกด้วย ควรหรือไม่ที่เราจะเห็นประโยชน์สูงสุด ที่จะรักษาความถูกต้อง และให้คนอื่นได้มีความเข้าใจถูกด้วย ถูก ต้อง ถูก และผิด ก็ต้องผิด เพราะฉะนั้น ชาวพุทธหรือพุทธบริษัท ตัดสินใจหรือยังว่า ถึงเวลาที่ (แม้) คนอื่นเขาไม่ทำ แต่เราทำ ทีละคน สองคน สามคน ก็แล้วแต่จำนวน ก็ยังดีกว่าที่เกิดมาแล้ว ไม่ได้ทำอะไรที่จะเป็นประโยชน์

~ ละอายไหม ที่จะมีความไม่รู้ต่อไป ฟังธรรมด้วยความเคารพหรือเปล่า ไม่เอาความเห็นส่วนตัวหรือความคิดเดิมๆ มาเปลี่ยนแปลงทำให้พระธรรมคลาดเคลื่อน แต่ต้องตรงต่อความเป็นจริงว่าฟังธรรม ตรง ต่อคำว่า ฟังธรรม





~ ขณะใดที่จิตอ่อนโยน มีความเป็นมิตร แล้วช่วยเหลือคนอื่น ขณะนั้นก็เป็นบุญ หรือเป็นกุศลจิต หรือ ขณะที่จิตอ่อนโยน สละสิ่งที่มีให้เป็นประโยชน์สุขแก่คนอื่น ขณะนั้นก็เป็นกุศลจิต

~ ต้องเป็นผู้ตรงจริงๆ มีความนอบน้อมต่อพระรัตนตรัย แม้แต่พระธรรม นอบน้อมด้วยการศึกษา ด้วยการพิจารณาด้วยความละเอียด ที่จะให้ไม่บิดเบือน ไม่เข้าใจผิดในพระธรรม เพราะว่าถ้าเราเข้าใจผิดจะผิดกันไปตลอด ไม่ตรงกับที่ทรงแสดงไว้ เท่ากับไม่เคารพในพระธรรม แต่ถ้าเคารพในพระธรรม สิ่งใดที่ถูกคือถูก สิ่งใดที่ผิดคือผิด แล้วต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ

~ พระธรรมแต่ละคำที่แต่ละคนได้ยินได้ฟังนี้ มาจากการบำเพ็ญพระบารมีนานแสนนานของผู้ที่จะได้ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ละคำคือพระมหากรุณาคุณตั้งแต่ครั้งทรงบำเพ็ญพระบารมีเป็นพระโพธิสัตว์จนกระทั่งได้ทรงตรัสรู้ มีค่ามากสำหรับที่จะทำให้คนอื่นได้มีความเข้าใจจริงๆ

~ ธรรมที่จะเป็นที่พึ่งได้จริงๆ นั้นต้องเป็นกุศล แต่ว่ายากที่จะเกิด เพราะเหตุว่าเมื่อสะสมอกุศลมามาก ก็ย่อมมีปัจจัยให้อกุศลธรรมเกิดมากกว่ากุศลธรรม เพราะฉะนั้น ผู้ที่เห็นว่าธรรมใดเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง ก็จะเข้าใจในคุณของธรรมนั้น กล่าวคือคุณของกุศลธรรม ก็ย่อมจะเป็นปัจจัยให้ได้เจริญกุศลในชีวิตประจำวัน

~ อกุศล เกิดบ่อยๆ เรื่อยๆ เกิดขึ้นเมื่อใด ก็ขัดขวางการเจริญขึ้นของกุศลเมื่อนั้น

~ ไม่ควรที่จะมีความคิดไม่ดีกับใครๆ เลย เพราะเหตุว่าเป็นโทษสำหรับตนเอง และโทษนี้ถ้าเป็นอกุศลกรรม ก็จะทำให้เกิดในอบายภูมิได้

~ ขณะที่โกรธ ไม่ใช่มิตร ขณะที่หวังร้าย ไม่ใช่มิตร ขณะที่เป็นอกุศลทั้งหมด ไม่ใช่มิตร

~ บุคคลที่มีโอกาสได้ฟังพระธรรม เพราะได้สะสมบุญในอดีตพอที่จะผันชีวิตให้มามีโอกาสได้ยินได้ฟังสิ่งที่ทำให้เกิดความเข้าใจถูกเห็นถูก ซึ่งเป็นคำสอนที่ประเสริฐเพราะมาจากการตรัสรู้ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง กุศล เป็นกุศล อกุศล เป็น อกุศล ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นได้ ใครๆ ก็หลอกลวงสภาพธรรมไม่ได้ เมื่ออกุศลเกิดขึ้น แม้คนนั้นจะบอกว่าเป็นกุศล ก็ไม่เป็นไปตามนั้น เพราะเป็นอกุศล จะเป็นกุศลไปได้อย่างไร

~ เมื่อมีอวิชชา (ความไม่รู้) เป็นอย่างมาก แล้วจะให้ปัญญาเจริญขึ้นมากๆ ในทันทีทันใด ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

~ ฟังให้เข้าใจว่าขณะนี้เป็นธรรม เมื่อไม่ขาดการฟัง ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น การฟังพระธรรม เป็นเหตุให้ปัญญาเจริญขึ้น ขอเพียงไม่ปล่อยมือจากพระธรรม

~ ถ้าไม่มีปัญญา ย่อมไม่สามารถที่จะพ้นจากความเห็นผิดและไม่สามารถที่จะสละอะไรๆ ได้เลย

~ ยังไม่ดี เพราะความเข้าใจยังไม่เพียงพอ ปัญญานี้เอง เป็นปัจจัยให้กุศลธรรมประการต่างๆ เจริญขึ้น

~ มีความไม่รู้ แต่จะเริ่มรู้ เริ่มเข้าใจสิ่งที่มีจริงได้ ก็ต่อเมื่อได้ฟังคำจริงจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ ที่จะดำรงรักษาพระธรรมวินัย ได้ ก็อยู่ที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกของแต่ละบุคคล

~ ถ้าเชื่อคนเลว ก็เลวตามกันไปหมด

~ ทิ้งความเห็นผิดเก่า แล้วมาหาความผิด ใหม่ อีก เพราะไม่เข้าใจพระธรรม

~ ชาวพุทธจะขาดความเข้าใจพระธรรมและพระวินัย ไม่ได้

ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๗๕

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
peem
วันที่ 4 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
thilda
วันที่ 4 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
รู้จบลงที่รู้
วันที่ 4 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
j.jim
วันที่ 5 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
mammam929
วันที่ 5 ธ.ค. 2559

กราบอนุโมทนาค่ะ ขอความเจริญในพระธรรมวินัยดำรงค์มั่นในผู้ศึกษาและเข้าใจพระธรรมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 5 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Boonyavee
วันที่ 5 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
jaturong
วันที่ 6 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Tommy9
วันที่ 6 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Noparat
วันที่ 6 ธ.ค. 2559

ถ้าเชื่อคนเลว ก็เลวตามกันไปหมด

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 7 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
เมตตา
วันที่ 7 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
kukeart
วันที่ 7 ธ.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
chatchai.k
วันที่ 7 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ