อารัมมณาธิปติปัจจัยและอุปนิสสยโคจร
ธรรมชาติของจิตเกิดขึ้นต้องรู้อารมณ์ เป็นชีวิตประจำวันจริงๆ ขณะนี้มีอะไรเป็นอารมณ์ บางท่านก็อยากไปเที่ยวทะล บางท่านชอบดอกไม้สวยๆ บางท่านก็มีอัธยาศัยในการฟังธรรมมากกว่าสิ่งอื่นใดเพราะได้สะสมการฟังธรรมจนเป็นอุปนิสัย การฟังธรรมจึงเป็นอารัมมณาธิปติ ซึ่งโดยปกติอารมณ์ที่เป็นไปในชีวิตประจำวันมักจะเป็น โลภเช่นหลังเห็นดอกไม้ โลภก็เกิดแล้ว ได้รับทานอาหารก็ชอบในรสอาหาร ลมเย็นมากระทบกายก็พอใจแล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าอารมณ์นั้นเป็นอารมณ์ที่ไม่ทอดทิ้ง หนักแน่น ไม่ลืมด้วยอำนาจความปราถนาหรือไม่ ถ้าเป็นก็เป็นอารัมมณาธิปติ เช่น ชอบข้าวเหนียวทุเรียนมาก เป็นอารมณ์ที่ไม่ทอดทิ้งด้วยอำนาจความปราถนา โดยปกติเป็นอารมณ์ของโลภ แต่ก็สามารถเป็นอารมณ์ของกุศลได้เช่น ขณะนี้เรากำลังฟังพระธรรม มีพระธรรมคำสอนเป็นอารมมณาธิปติ และเมื่อมีสะสมการฟังพระธรรมบ่อยๆ จนเป็นอุปนิสัย เป็นอารัมมณูปนิสสยปัจจัยแก่จิตที่เกิดขึ้นพอใจที่จะฟังพระธรรม ดังนั้นอารัมมณาธิปติเป็นได้ทั้งอารมณ์ของโลภ และกุศล แต่สำหรับ อุปนิสสยโคจร การมีเสียงพระธรรมคำสอนเป็นอารมณ์จนเป็นนิสัยไม่ต้องการอารมณ์อื่นจึงเป็นกุศลอย่างเดียว ซึ่งเมื่อฟังพระธรรมเป็นอารมณ์บ่อยๆ สิ่งที่มีจริง มี เห็น ได้ยิน.. จนเป็นความเข้าใจสิ่งที่มีจริง ขณะนั้นเป็นอารักขโคจร รักษาจิตไม่ให้ตกไปในอกุศล
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ...
...กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ..