ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๕๒
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๕๒
~ พระภิกษุ ท่านบวชแล้ว เห็นภัยแล้ว ต้องประพฤติอย่างไร เพราะก้อนข้าวที่ได้จากชาวบ้านเพราะเขาเห็นความดี เมื่อเขาเห็นความดีแล้ว แต่ไม่มีความดีที่จะไปให้เขา (จะเป็นอย่างไร สมควรหรือไม่?) ลองคิดดู ถ้าระลึกได้ว่า แม้แต่ทุกคำข้าว มาจากชาวบ้าน ท่านต้องศึกษาธรรม ขัดเกลากิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิต) นั่นแหละ คือ ความดี ที่จะตอบแทนก้อนข้าว (ของชาวบ้าน)
~ อย่างไรก็ต้องตาย ก็ทำความดีให้มากที่สุด ไม่ดีกว่าหรือ? เข้าใจพระธรรมให้มากที่สุด ไม่ดีกว่าหรือ? จะได้ติดตามไปได้ จะทิ้งโอกาส (แห่งการสะสมความดีและฟังพระธรรม) ได้อย่างไร?
~ ปัญญาไม่ทำให้เกิดโทษภัยใดๆ เลย
~ ถ้าเป็นความเห็นแก่ตัวหรือเป็นเรา ไม่มีทางที่จะเห็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ได้ว่า เมื่อมีความเข้าใจ (พระธรรมวินัย) แล้ว คิดถึงคนอื่นที่เขาไม่เข้าใจบ้างไหม และโดยเฉพาะขณะนี้ประเทศชาติบ้านเมือง เราก็รู้อยู่ว่า พระพุทธศาสนาเวลานี้เป็นอย่างไร เสื่อมโทรมขนาดไหน ก็เป็นที่ประจักษ์แจ้ง เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน ก็คือว่า ไม่มีใครสามารถที่จะดำรงรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้ ก็อยู่ที่ทั้งความเข้าใจธรรม และเห็นประโยชน์ แล้วก็กุศลทั้งหลายที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่มีอะไรมายับยั้งได้เลย
~ ต้องไม่ลืมว่า คำสอนทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยิ่งเปิดเผย ยิ่งรุ่งเรืองเพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่พูด เราปกปิดไว้ ไม่กล่าวถึง ด้วยประการใดๆ ก็ตาม ขณะนั้น เราก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นได้รับประโยชน์อะไรจากพระธรรม
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ควรกล้าอย่างยิ่งที่จะเปิดเผย ให้ได้เข้าใจถูกต้อง
~ การกระทำทั้งหมดที่จะให้คนได้เข้าใจความถูกต้อง ไม่ผิด ควรทำ ถ้าใคร ไม่ทำ ก็ใจดำหรือเปล่า?
~ พุทธบริษัทด้วยกัน ก็ช่วยกันบำรุงรักษาพระพุทธศาสนา ไม่ให้มีการกระทำที่เป็นการทำลายพระพุทธศาสนา
~ คำใดที่เป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำ เป็นประโยชน์
~ เมื่อมีความเข้าใจธรรมแล้ว มีหรือที่จะไม่ขัดเกลากิเลส?
~ ชาวพุทธคือผู้รู้ ถ้าไม่รู้ จะเป็นชาวพุทธได้หรือ?
~ ฟังพระธรรมเพื่อค่อยๆ เข้าใจว่า ไม่มีเรา
~ ที่ใดมีปัญญา ที่นั่นจะไม่มีโลภะ
~ ถ้าเป็นผู้ตรง คือ มากไปด้วยความไม่รู้ อะไรๆ ก็ไม่รู้ จริงหรือไม่?
~ เบิกบานที่มีโอกาสได้เข้าใจความจริง แม้จะเพียงเล็กน้อยก็มีประโยชน์ ถ้าได้ฟังอีกก็จะค่อยๆ เข้าใจขึ้น
~ ปัญญาเท่านั้นที่จะทำให้รู้ว่า หนทางใด ถูก หนทางใด ผิด
~ เสียเวลาจริงๆ เสียประโยชน์ของตนเองจริงๆ ในขณะที่โกรธคนอื่น ตนเองเท่านั้นที่เดือดร้อนเพราะความโกรธของตนเอง
~ การที่จะเป็นคนดีได้จริงๆ ก็คือ ต้องดีถึงกับหมดกิเลส แต่ว่าเมื่อไม่สามารถจะดับกิเลสหรือหมดกิเลสได้ ก็จะต้องอบรมเจริญเหตุ คือความดีที่จะให้หมดกิเลสไปเรื่อยๆ จนกว่าปัญญาจะดับกิเลสได้ เพราะเหตุว่าการจะเป็นคนดีจริงๆ ก็คือต้องเป็นผู้ที่มีปัญญาและดับกิเลส
~ วันหนึ่งๆ จะเห็นได้ว่า ต้องอบรมเจริญกุศลต่อไปอีกๆ จนกว่ากุศลจะเพิ่มขึ้นๆ จริงๆ และในวันหนึ่งๆ ทุกคนซึ่งเป็นผู้ตรง ก็จะรู้ได้ว่า กุศลเกิดมากหรือน้อยเทียบกับเวลาของวันเวลาในวันหนึ่ง ตอนเช้ามีกุศลสักกี่ขณะ กี่เหตุการณ์ ตอนกลางวัน มีกุศลหรือเปล่าตอนเย็นมีกุศลไหม หรือว่าโลภะบ้าง โทสะบ้าง และก็ความหวั่นไหวด้วยอคติต่างๆ บ้าง
~ การศึกษาธรรมต้องเป็นเรื่องละเอียดจริงๆ ไม่ใช่เพื่อเหตุอื่น แต่เพื่อที่จะให้พิจารณาจนกว่าจะเข้าใจแจ่มแจ้งถูกต้องตามความเป็นจริง ถ้ามิฉะนั้นแล้ว การศึกษาธรรมจะไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่ใช่ศึกษาเพื่อให้เข้าใจสภาพธรรมตรงตามที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงไว้
~ ถ้าได้ศึกษาเรื่องของสภาพธรรมโดยละเอียดขึ้น เท่าที่สามารถจะเข้าใจได้ ก็จะทำให้เห็นความเป็นอนัตตายิ่งขึ้น
~ มีความสำคัญมาก ที่ว่าเมื่อศึกษาแล้ว ต้องพิจารณาจึงจะได้ประโยชน์อย่างแท้จริง มิฉะนั้นแล้ว อาจจะเข้าใจธรรมผิด เป็นเหตุให้ประพฤติปฏิบัติผิด ซึ่งเป็นโทษ เป็นทุกข์สิ้นกาลนาน เพราะฉะนั้น ถ้าศึกษาธรรมแล้วต้องพิจารณา เพื่อที่จะได้ประพฤติปฏิบัติให้ถูก ต้องเข้าใจว่าที่ศึกษานี้ เพื่อประพฤติปฏิบัติถูก หนักแน่นมั่นคงที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมเพื่อเข้าใจธรรมตามความเป็นจริง
~ สิ่งใดที่เป็นสิ่งที่มีจริง สิ่งนั้น ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้
~ ถ้ายังไม่รู้ต่อไป ก็ละความไม่รู้ ไม่ได้ ปัญญาเท่านั้นที่จะละความไม่รู้ ได้
~ ขณะนี้เป็นโอกาสของการฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งเป็นสิ่งที่คิดเอาเองไม่ได้
~ ถ้าเป็นกาล (เวลา) แห่งการฟังพระธรรม ก็ควรฟังพระธรรม
~ การฟังพระธรรม เป็นการฟังในสิ่งที่ประเสริฐที่คนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสได้ฟัง น้อยคนจริงๆ ที่จะได้ฟังซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่กระทำบุญมาแล้วตั้งแต่ชาติปางก่อนสะสมศรัทธา เห็นประโยชน์ของพระธรรม เคยได้ยินได้ฟังพระธรรมมาแล้ว จึงจะได้ฟัง
~ คนไม่ดีนั้น มีมากแน่ๆ แต่สำหรับบุคคลผู้มีปัญญาแล้ว ถึงแม้คนอื่นจะเกิดอกุศล แต่ตัวท่านเอง ก็สามารถที่จะไม่เกิดอกุศล ได้
~ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ทรงแสดงธรรมให้คนอื่นเป็นคนชั่ว หรือ เป็นคนเลว แต่เพื่อประโยชน์ของผู้ฟังเองที่ต้องเป็นผู้ที่มั่นคง หนักแน่นในการที่จะเป็นคนดี แต่ว่าจะดีขึ้นก็ต่อเมื่อได้เข้าใจพระธรรมเพิ่มขึ้นด้วย
~ คนที่มีความเห็นผิด ไม่ใช่เป็นโทษเฉพาะตนคนเดียวเท่านั้น แต่ก็ยังเผยแพร่ความเห็นผิดออกไปสู่บุคคลเป็นจำนวนมากด้วย
~ ความเห็นผิดมีโทษมากจริงๆ แม้ว่าจะได้พบพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างพวกอัญญเดียรถีย์ ก็ยังไม่สามารถที่จะพิจารณาในพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงได้ ยังคงยึดถือความเห็นผิดต่อไป
~ ถ้าเป็นหนทางที่ผิด ก็จงอย่าได้ปฏิบัติเลย เพราะเหตุว่าไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร นอกจากจะมีความยึดถือในข้อปฏิบัติที่ผิดนั้น ยิ่งขึ้น
~ ความไม่รู้ ทั้งหมด ทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ชาวพุทธควรจะได้ระลึกถึงหน้าที่ของตนในฐานะของชาวพุทธ ว่า ต้องศึกษาพระธรรม เข้าใจคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเห็นว่า เป็นคำสอนที่ประเสริฐยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ที่ควรจะศึกษาให้เข้าใจถูกอย่างต้องแล้วประพฤติปฏิบัติตามด้วย
~ เมื่อครั้งที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงตรัสรู้แล้วทรงแสดงพระธรรม มีแต่การทรงแสดงพระธรรมให้คนอื่นเข้าใจ ไม่มีการที่จะตั้งสำนักปฏิบัติให้คนไม่รู้อะไรเลยไปปฏิบัติอะไรก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สำนักปฏิบัติจึงเป็นสำนักทำลายพระพุทธศาสนา
~ พระธรรมทั้งหมด พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงความจริงของสิ่งที่กำลังมี ซึ่งถูกปกปิดด้วยอวิชชา (ความไม่รู้) ที่ใครก็รู้ไม่ได้เลยจนกว่าจะได้ฟังพระธรรม
~ ธรรม จะรุ่งเรืองก็ต่อเมื่อมีความเข้าใจถูกต้อง ไม่ใช่คำสอนผิดๆ เผยแพร่กันทั่วโลก แต่ไม่ถูกเลย แล้วก็กล่าวว่า พระศาสนาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รุ่งเรือง พูดได้อย่างไร ต้องพิจารณาก่อน พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รุ่งเรือง เมื่อมีผู้เข้าใจถูก แต่ถ้าไม่พูดคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เข้าใจ ไม่ใช่พระศาสนารุ่งเรือง กลับล่มสลาย ถูกทำลาย ด้วยความเข้าใจผิด
~ ไม่ได้ทอดทิ้งธุระในการที่จะศึกษาให้เข้าใจพระธรรม เมื่อเข้าใจพระธรรม ก็สามารถที่จะรู้ว่า การกระทำใดๆ ที่เป็นการที่จะดำรงรักษาพระศาสนาไว้ ต้องเป็นการกระทำที่ถูก ถ้าเป็นการกระทำที่ผิด ทำลายพระศาสนา ไม่ใช่ดำรงพระศาสนา
~ ฟังด้วยดีด้วยความเคารพเพื่อที่จะเข้าใจคำที่ได้ฟังจะทำให้สามารถนำไปสู่กุศลที่สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้
~ ธรรม คือ สิ่งที่มีจริง ถ้าเข้าใจ ก็คือ เดี๋ยวนี้ มีสิ่งที่มีจริง เพราะฉะนั้น พระธรรมที่ทรงแสดง ก็ทรงแสดงความจริงของสิ่งที่มีจริง
~ ทุกครั้งที่เข้าใจ คือ ฟัง (พระธรรม) ด้วยดี แต่ถ้าฟังแล้ว คิดเอง งง สงสัย แล้วก็คิดเรื่องอื่นไป ขณะนั้น ไม่ใช่ฟังด้วยดีเลย
~ บางครั้งขาดความตั้งใจฟัง (พระธรรม) เพราะไม่เห็นประโยชน์ ของแต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ถ้าเป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ ใครจะพูดว่าอย่างไรๆ ก็ไม่สนใจเลย เพราะเหตุว่ากำลังตั้งใจฟัง เขาถาม (ในระหว่างที่กำลังฟังธรรม) ก็ไม่ต้องตอบ เพราะกำลังตั้งใจฟัง เนื่องจากขณะนี้ เป็นเวลาของการฟังธรรม
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๓๕๑
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...