กราบแทบเท้า ท่านอาจารย์ ณ วันนี้ ๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เนื่องในวาระที่ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา มีอายุครบ ๙๒ ปี ในวันนี้ (๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒) เพื่อเป็นการรำลึกในพระคุณอันหาที่สุดมิได้ของท่านอาจารย์ตลอดระยะเวลากว่า ๖๐ ปีที่ผ่านมา ในความอดทนและความเพียร แสดงพระธรรมความจริงจากการตรัสรู้ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า อันท่านได้ศึกษาจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาจนมีความเข้าใจ เพื่อผู้ที่มีโอกาสได้ฟังจะมีความเข้าใจถูกต้อง ในหนทางที่ได้ทรงมีพระมหากรุณาแสดงไว้ ซึ่งเป็นความจริงของหนทางของการสละ ละคลายกิเลส ละความติดข้องต้องการ ละความเห็นผิด ว่ามีสัตว์ มีบุคคล มีตัวตน อันเป็นหนทางสู่การดับทุกข์อย่างแท้จริง ตรงตามที่ได้บันทึกไว้ในพระไตรปิฎกและอรรถกถา ซึ่งเป็นข้อความที่แม้ทุกคนจะอ่านได้ แต่จะหาผู้ที่สามารถเข้าใจในอรรถและพยัญชนะอันลึก ในสมัยนี้ได้นั้น แสนยากยิ่ง

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๖๙ เริ่มศึกษาพระอภิธรรม เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๖ เริ่มบรรยายและสนทนาธรรม ในอีกสามปีถัดมา คือ ในปีพุทธศักราช ๒๔๙๙ เป็นต้นมา จนถึงบัดนี้ รวมระยะเวลากว่า ๖๐ ปีแล้ว ขอเชิญคลิกอ่าน...

ประวัติ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ตลอดระยะเวลากว่า ๖๐ ปี ท่านอาจารย์แสดงให้เห็นถึงความเป็นที่ผู้เสียสละและอุทิศชีวิตเพื่อพระศาสนา อย่างแท้จริง (ขอเชิญคลิกอ่าน ... อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ผู้เสียสละและทุ่มเทเวลาให้กับศาสนาจนหมดใจ) ผู้ที่มีความใกล้ชิดท่านอาจารย์จะทราบว่า ตลอดทั้งปี ในทุกๆ ปีที่ผ่านมา จนบัดนี้ที่ท่านมีอายุถึง ๙๒ ปีแล้ว ท่านอาจารย์แทบจะไม่มีเวลาที่จะตื่นนอนในตอนเช้าแบบสบายๆ อย่างที่บุคคลทั้งหลายโดยทั่วไปกระทำเลย ท่านต้องตื่นแต่เช้าตรู่ทุกวัน และในบางวันท่านต้องตื่นตั้งแต่ ตีหนึ่ง ตีสอง หรือตีสาม เพื่อเตรียมตัวคอยผู้ที่จะมารับ เพื่อเดินทางไปสนทนาธรรมตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามที่ได้มีผู้กราบเรียนเชิญท่านไว้ ซึ่งท่านเคยเมตตาเล่าให้ฟังว่า หลายต่อหลายครั้งที่ท่านและคุณป้าจี๊ด (คุณสุจิตต์ อึ้งภากร) น้องสาวของท่าน ตื่นขึ้นมาแต่งตัวนั่งรอ โดยที่ท่านทั้งสองก็ไม่ทราบว่าใครจะเป็นผู้มารับท่านทั้งสองในวันนั้น

สหายธรรมทุกคนที่มูลนิธิฯ จะทราบดีว่า ในวันเสาร์และอาทิตย์รวมถึงวันสำคัญๆ ทางพระพุทธศาสนาท่านอาจารย์จะอยู่สนทนาธรรมที่มูลนิธิฯ สำหรับวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เป็นวันที่ท่านอาจารย์จะเดินทางไปสนทนาธรรมตามสถานที่ต่างๆ ตามที่มีผู้กราบเรียนเชิญท่านไป นั่นหมายถึงท่านต้องเดินทางออกจากบ้านทุกวันในตอนเช้า (บางวันก็เช้ามากๆ ดังได้กล่าวแล้ว) โดยไม่มีวันหยุด และกลับถึงบ้านในตอนเย็นหรือค่ำ หรือดึกมากๆ ในบางวัน และต้องตื่นแต่เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้นอีก เพื่อเตรียมตัวพร้อมสำหรับผู้ที่จะมารับท่านไปในสถานที่แห่งใหม่หมุนเวียนไปเช่นนี้ อีกทั้งเป็นเรื่องธรรมดาและคุ้นเคยมาก ที่ทุกคนจะเห็นท่านที่เพิ่งเดินทางกลับจากการไปสนทนาธรรมที่เวียดนาม ใต้หวัน หรือแม้ล่าสุดที่ท่านเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศอินเดียถึงประเทศไทยในวันนี้ (ไม่ว่าจะดึกเพียงใด) วันรุ่งขึ้นท่านก็เดินทางไปสนทนาธรรมต่อตามที่มีกำหนดการโดยมีผู้กราบเรียนเชิญท่านไว้แล้วทันที เป็นเช่นนี้แล้วๆ เล่าๆ ตลอดระยะเวลากว่า ๖๐ ปีที่ผ่านมา และบัดนี้ก็ทราบว่า มีผู้กราบเรียนขอวันเวลาจากท่านเพื่อไปสนทนาธรรม ถึงปลายปีพุทธศักราช ๒๕๖๒ แล้ว แสดงให้เห็นถึงอานุภาพของความเป็นธรรมเตชะ (ธรรมเดช) เป็นความอัศจรรย์ของพระธรรมโดยแท้

คลิกอ่าน..ธรรมเดช อานุภาพของธรรมที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป

เนื่องในวาระวันครบอายุ ๙๒ ปี ของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในวันนี้ (วันที่ ๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒) เป็นขณะที่ท่านอาจารย์และคณะฯ กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางไปกราบสังเวชนียสถานทั้ง ๔ ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งในระหว่างนี้ ท่านอาจารย์และคณะฯ กำลังพำนักอยู่ ณ เมืองสาวัตถี เพื่อกราบสักการะและสนทนาธรรม ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสาวก ยาวนานถึง ๑๙ พรรษา

(เอื้อเฟื้อภาพสดจากพระวิหารเชตวัน ณ วันที่ ๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ โดย ผศ.อรรณพ หอมจันทร์)

(เอื้อเฟื้อภาพสดจากพระวิหารเชตวัน ณ วันที่ ๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ โดยคุณนภา จันทรางศุ)

ภายในบริเวณพระวิหารแห่งนี้ จึงเต็มไปด้วยรอยพระบาทและรอยเท้าของพระอัครสาวก พระมหาสาวก และพระสาวก มากมายในอดีต อันผู้ที่มีโอกาสได้มาอยู่ ณ สถานที่นี้ จะหวนรำลึกถึงพระมหากรุณาคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกทั้งหลาย ด้วยความปีติซาบซึ้ง เป็น ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่มีค่ายิ่งในสารวัฏของตน ของตน แม้ในกาลนี้ ที่ท่านอาจารย์มีอายุครบ ๙๒ ปี ในวันที่เดินทางมากราบสักการะและสนทนาธรรม ณ พระวิหารเชตวัน แห่งนี้

และเนื่องในวาระสำคัญในวันนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์อรรณพ หอมจันทร์ ได้ประพันธ์บทกลอน เพื่อนำมากราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ณ เมืองสาวัตถี ประเทศอินเดีย ในคราวนี้ เป็นพิเศษ ดังนี้

พร้อมทั้งคุณทรงเกียรติ พิพัฒอนวัช สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ หมายเลข ๑๘๓๓ แห่งวงดนตรีบ้านธัมมะแบนด์ ก็ได้ประพันธ์ทำนองและเรียบเรียงเสียงประสาน พร้อมทั้งบรรเลงและขับร้อง บทเพลง "พระเชตวัน วันปีติ" นี้ร่วมกับคณะนักร้องของวงบ้านธัมมะแบนด์อีกสองท่าน คือ คุณวนิดา ชาติวงศ์และคุณวันชัย ภู่งาม เพื่อนำออกเผยแพร่กราบเท้ารำลึกในพระคุณของท่านอาจารย์ในวันนี้ด้วย ดังท่านจะได้ชมวีดีทัศน์ประกอบเพลง พระเชตวัน วันปีติ ดังต่อไปนี้

"...ท่านอาจารย์ อุทิศชีวิตทั้งชีวิต ทั้งกายและใจ เพื่อประโยชน์คือความเข้าใจถูก เห็นถูก สำหรับผู้อื่น อย่างแท้จริง ท่านอาจารย์ เป็นผู้เกิดมา เพื่อความเข้าใจของผู้ที่สั่งสมเหตุที่ดีมา ที่จะได้ฟังพระธรรม ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรม ได้รับประโยชน์จากใคร ก็จะมีความปรารถนาดี ให้ผู้นั้น มีอายุยืนนาน ชีวิตของผู้มีปัญญา ยิ่งมีอายุยืนนานเท่าใด ก็ยิ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น มากเท่านั้น..."

(ตอนหนึ่งของคำกล่าวบูชาคุณ โดยอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย เมื่อครั้งที่ท่านอาจารย์มีอายุครบ ๘๕ ปี ณ โครงการหลวงอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕)

กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอเชิญคลิกชมลิงค์ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่ .....

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ซาบซึ้งในหทัย ครั้งที่ ๒๒ [ตอน มานมัสการสังเวชนียสถานทำไม?]