การทำบุญ

 
soloyahaa
วันที่  28 ก.พ. 2564
หมายเลข  33802
อ่าน  836

ขออนุญาตสอบถามครับ

ทำบุญมีแบ่งไหมครับ​ได้บุญมาก​ บุญน้อย

แล้วทำบุญแบบไหนถึงจะเป็นบุญที่สูงสุดครับ

ขอบพระคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 28 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่น ควรจะได้เข้าใจว่า บุญคืออะไร

ข้อความใน[เล่มที่ 48] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ ๓๐

ปฐมปีฐวิมาน

อธิบายความเป็นจริงของบุญ ไว้ดังนี้

กุศลกรรมทั้งหลาย อันต่างโดยประเภท มี ทาน และ ศีลเป็นต้น ได้ชื่อว่า บุญ เพราะทำให้บังเกิดผลคือความที่น่าบูชา และ เพราะชำระชะล้างสันดานของตนเองให้หมดจด


บุญ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่ชำระจิตให้สะอาด (เพราะโดยปกติแล้วจิตสกปรกด้วยเครื่องเศร้าหมองของจิต คือ กิเลส) จากที่เป็นอกุศล ก็ค่อยๆ เป็นกุศลขึ้นในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากขณะที่จิตเป็นกุศล เป็นไปในทาน เป็นไปในศีล เป็นไปในการอบรมเจริญความสงบของจิต และเป็นไปในการอบรมเจริญปัญญา โดยที่ไม่มีตัวตนที่จะไปทำบุญ เพราะบุญอยู่ที่สภาพจิต จิตเป็นกุศล เป็นบุญ (ซึ่งก็สามารถกล่าวโดยโวหารของชาวโลกได้ว่า ผู้นั้น ผู้นี้กระทำบุญ) ในทางตรงกันข้าม ถ้าจิตเป็นอกุศล ย่อมไม่ใช่บุญ

บุญ ย่อมเกิดขึ้น เจริญขึ้นในขณะที่จิตเป็นกุศล ขณะใดที่จิตเป็นอกุศล หรือ ตรึกไปด้วยอกุศลวิตก รวมไปถึงในขณะที่นอบหลับ ขณะนั้นบุญไม่เจริญ (ในขณะที่นอนหลับ ไม่มีกุศล ไม่มีอกุศล เกิดขึ้น โลกนี้ไม่ปรากฏ เพียงแต่เป็นจิตประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นทำกิจรักษาความเป็นบุคคลนี้ไว้เท่านั้น บุญจึงไม่เจริญในขณะที่นอนหลับ) แต่เมื่อใดที่สติเกิดระลึกได้เป็นไปในกุศลประการต่างๆ ทั้งในเรื่องของทาน การให้วัตถุสิ่งของเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น ในเรื่องของศีล การวิรัติงดเว้นจากทุจริตกรรม และ การประพฤติในสิ่งที่ดีงาม ในเรื่องความสงบของจิต และในการอบรมเจริญปัญญา เมื่อนั้นบุญย่อมเจริญ ซึ่งไม่จำกัดเลย เพราะการกระทำบุญ ไม่ใช่มีแต่เฉพาะทานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มีถึง ๑๐ ประการ ด้วยกัน คือ

๑. ทาน การให้วัตถุสิ่งของเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น

๒. ศีล ความประพฤติทางกาย ทางวาจา ที่เป็นกุศล ไม่เบียดเบียนบุคคลอื่นให้เดือดร้อน

๓. ภาวนา การอบรมจิตให้สงบ (สมถภาวนา) และการอบรมให้เกิดปัญญา (วิปัสสนาภาวนา)

๔. อปจายนะ การอ่อนน้อมต่อผู้ที่ควรอ่อนน้อม

๕. เวยยาวัจจะ การขวนขวายกระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น

๖. ปัตติทาน การอุทิศส่วนกุศลให้บุคคลอื่นได้เกิดกุศลจิตอนุโมทนา

๗. ปัตตานุโมทนา การอนุโมทนาในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำ

๘. ธัมมเทศนา การแสดงธรรม กล่าวธรรมแก่ผู้ต้องการฟัง

๙. ธัมมัสสวนะ การฟังธรรมเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริง

๑๐. ทิฏฐุชุกัมม์ การกระทำความเห็นให้ตรงตามสภาพธรรมและเหตุผลของสภาพธรรมนั้นๆ

บุญเป็นความดี เมื่อถึงคราวให้ผล ก็ย่อมให้ผล เป็นผลที่ดี น่าปรารถนา น่าใคร่น่าพอใจ เท่านั้น สำหรับบุญสูงสุด ต้องเป็นบุญที่เป็นไปพร้อมกับปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูก โดยเฉพาะบุญในระดับที่สามารถดับกิเลสได้หมดสิ้น ครับ

ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ

การให้ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก

ทำบุญด้วยเหตุผลตัวเอง จะไปอยู่สวรรค์ชั้นไหน

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 1 มี.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ