การที่เราหยิบอาหารใส่ปากเพราะจิตสั่งใช่ไหม?
.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การกระทำทางกาย วาจาและใจ มีขึ้นได้เพราะอาศัย จิต เจตสิก รูป ถ้าไม่มีสภาพธรรมที่มีจริงที่เป็น จิต เจตสิก รูป แล้วก็จะไม่มีใคร ไม่มีสัตว์ บุคคล และก็ไม่มีการกระทำทางกาย วาจาและใจเลยครับ อย่างเช่น การกระทำทางใจ หรือ การคิดนึกที่เป็นกุศล หรือ อกุศล มีได้เพราะอาศัย จิตเจตสิกที่เกิดร่วมกัน และจิตที่คิดนึก จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องอาศัย ที่เกิดของจิต คือ รูป มี หทัยวัตถุ เป็นต้นครับ นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ความคิดนึกทางใจ ก็ต้องอาศัย จิต เจตสิก รูปทำหน้าที่ต่างๆ กันไปครับ
แม้การกระทำทางวาจา ที่มีการพูดเกิดขึ้น ก็ต้องอาศัย จิตที่คิดจะพูด จึงมีการไหวไปของธาตุลม ที่เป็นรูป และก็มีเจตสิกเกิดร่วมด้วยในขณะนั้น รวมทั้งก็ต้องมีรูป ที่เป็นวจีวิญญัติรูปเกิดด้วย จึงมีการพูดทางวาจาได้ นี่ก็เพราะอาศัย จิต เจตสิก รูป อีกเช่นกัน แม้การกระทำทางกาย ก็ต้องมีจิต ถ้าไม่มีจิต ก็ไม่มีการกระทำทางกาย เช่น จิตที่เป็นกุศล ที่คิดจะให้ กายจึงไหวไปตามความต้องการของจิต แต่ไม่ใช่จิตสั่ง แต่เพราะ อาศัยรูปที่เกิดพร้อมจิต ที่เป็นจิตตชรูป เป็นต้น และอาศัยวาโยธาตุที่เป็นรุป จึงมีการไหวไปที่จะทำ การกระทำทางกายได้ครับ
ดังนั้น ต้องอาศัยรูปที่อ่อน ควรแก่การงานและการประชุมของรูปอื่นๆ และ อาศัย จิตเจตสิกที่เกิดขึ้น ที่เป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง จึงมีการกระทำทางกายเกิดขึ้นครับ อันเป็นไปตามเหตุปัจจัยไม่มีเราทำ ไม่มีจิตสั่งให้ทำ ครับ
จิตไม่มีหน้าที่สั่ง แต่มีหน้าที่รู้อารมณ์เท่านั้น ครับ การเคลื่อนไหวได้ เช่น ต้องการไปหยิบอะไรซักอย่าง เพราะอาศัยจิต เกิดธาตุลมไหวไป แต่จิตไม่ได้สั่งอะไร และที่สำคัญ รูปจะรับรู้คำสั่งของจิตได้ไหม เพราะรูปเป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร ใครจะสั่งรูปได้ เพราะรูปไม่รู้อะไรเลยครับ เพราะฉะนั้น จิตทำหน้าที่รู้อารมณ์เท่านั้น และที่มีการเคลื่อนไหวไปเพราะอาศัยเหตุปัจจัยต่างๆ ประชุมรวมกัน จึงมีการเคลื่อนไหว ไม่มีใคร ไม่มีมี่จิตที่จะสั่งครับ ขณะที่เกิด ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น รูปเกิดพร้อมกับปฏิสนธิจิตแล้ว สั่งทันไหม เพราะเกิดพร้อมกับจิตในขณะอุปาทขณะแล้วครับ ส่วนรูปเกิดเพราะจิตได้ ด้วยความเป็นจิตชชรูปเพราะอาศัยจิตเป็นสมุฏฐาน แต่ไม่ใช่จิตสั่ง ครับ
เชิญคลิกอ่านทีนี่ในเรื่องจิตสั่งครับ
สติสั่งสมองหรือจิตสั่งสมองได้หรือไม่
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ถ้า รูปกายนี้ ปราศจากจิต ไม่มีจิตเกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ไม่สามารถกระทำกรรม ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ ได้ แต่ที่ยังมีการเคลื่อนไหวได้ มีการกระทำสิ่งต่างๆ ได้ เพราะมีนามธรรม กล่าว คือ จิต และเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยนั่นเอง ในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ครบ นั้น มีทั้งนามธรรม และ รูปธรรม ที่จะต้องเกิดขึ้นเป็นไป ซึ่งไม่เคยปราศจากธรรมเหล่านี้เลย แม้แต่ขณะเดียว
ธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น เป็นเหตุเป็นผล แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ จิตไม่ได้สั่งรูป และ รูปไม่ได้รับคำสั่งจากจิต แต่อย่างใด แต่ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยจริงๆ ครับ.
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...