ทรงพระมหากรุณาให้คนอื่นได้ฟังได้รู้
สนทนาปัญหาธรรม วันอังคารที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๗
[เล่มที่ 40] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 297
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว ทรงเปล่งพระอุทานนี้ในเวลานั้นว่า "โลกมีโมหะเป็นเครื่องผูกพัน ย่อมปรากฏ ดุจรูปอันสมควร, คนพาลมีอุปธิกิเลสเป็นเครื่อง ผูกไว้ ถูกความมืดแวดล้อมแล้ว จึงปรากฏดุจมี ความเที่ยง, ความกังวลย่อมไม่มีแก่ผู้เห็นอยู่"
ก็แลครั้นตรัสอย่างนั้นแล้ว ทรงแสดงธรรมว่า " ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาสัตว์ทั้งหลายเที่ยวไปในวัฏฏะ เป็นผู้ไม่ประมาทตลอดกาลเป็นนิตย์ กระทำบุญกรรมก็มี, เป็นผู้มีความประมาท กระทำบาปกรรมก็มี เหตุนั้น สัตว์ผู้เที่ยวไปในวัฏฏะ จึงเสวยสุขบ้างทุกข์บ้าง"
[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 78-79
๔. พหุการสูตร
ว่าด้วยผู้มีอุปการะมาก ๓ จำพวก
[๔๖๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล (อาจารย์) ๓ นี้ เป็นผู้มีอุปการะมากแก่บุคคล (ศิษย์) บุคคล (อาจารย์) ๓ นี้คือใคร คือ บุคคล (ศิษย์) อาศัยบุคคล (อาจารย์) ใด จึงได้ถึงพระพุทธเจ้า ... พระธรรม ... พระสงฆ์เป็นสรณะ บุคคล (อาจารย์) นี่ เป็นผู้มีอุปการะมากแก่บุคคล (ศิษย์) นี้
อนึ่งอีก ภิกษุทั้งหลาย บุคคล (ศิษย์) อาศัยบุคคล (อาจารย์) ใด จึงรู้ตามจริงว่า นี่ทุกข์ ... นี่เหตุเกิดทุกข์ ... นี่ความดับทุกข์ ... นี่ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ บุคคล (อาจารย์) นี่ เป็นผู้มีอุปการะมากแก่บุคคล (ศิษย์) นี้
อนึ่งอีก ภิกษุทั้งหลาย บุคคล (ศิษย์) อาศัยบุคคล (อาจารย์) ใด จึงกระทำให้แจ้งเข้าถึงพร้อมซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะสิ้นอาสวะทั้งหลาย ด้วยความรู้ยิ่งด้วยตนเองอยู่ในปัจจุบันนี่ บุคคล (อาจารย์) นี่ เป็นผู้มีอุปการะมากแก่บุคคล (ศิษย์) นี้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่า บุคคลอื่นจะมีอุปการะมากแก่บุคคล (ศิษย์) นี้ ยิ่งกว่าบุคคล ๓ นี่ไม่มี อนึ่ง เรากล่าวว่า บุคคล (ศิษย์) นี้ จะทำการสนองคุณแก่บุคคล (อาจารย์) ๓ นี้ไม่ได้ง่ายเลย แต่เพียงด้วยการกราบ ลุกรับ ทำอัญชลี สามีจิกรรม และคอยให้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และยาแก้ไข้.
จบพหุการสูตรที่ ๔
อ.กุลวิไล: ท่านอาจารย์ให้ความละเอียดลึกซึ้งมาก ซึ่งถ้าไม่ได้อาศัยการฟังพระธรรม ก็ไม่รู้ว่าไม่รู้ค่ะท่านอาจารย์ ยังคิดว่ารู้เลย
ท่านอาจารย์: ต้องฟังต่อไปใช่ไหม ค่อยๆ รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพิ่มขึ้น
อ.กุลวิไล: ฟังต่อไป ซึ่งก็ยาวนานมาก จนกว่าจะรู้ตามที่ทรงแสดงค่ะ
ท่านอาจารย์: ไม่เปลี่ยนแปลงไปทำอย่างอื่นใช่ไหม?
อ.กุลวิไล: ไม่แน่นอนค่ะ
:ท่านอาจารย์: ไม่ แน่นอนใช่ไหม? ไม่ใช่ ไม่แน่นอน ใช่ไหม? แล้วแต่เหตุปัจจัยจะได้รู้ตามความเป็นจริงว่า สิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ไม่สามารถจะรู้ความจริงสักอย่างได้ ถ้าไม่ฟัง คำ ของผู้ที่ได้ตรัสรู้แล้ว
อ.กุลวิไล: ค่ะ
ท่านอาจารย์: จึงนับถือในการที่ได้ประจักษ์แจ้งความจริง และทรงพระมหากรุณาให้คนอื่นได้ฟัง ได้รู้ ได้ประจักษ์แจ้งด้วย มิเช่นนั้น โลกมืดเหมือนเดิมที่ไม่มีอะไรที่จะเข้าใจได้เลย เพราะไม่เคยฟัง คำ ที่แสดงถึงสิ่งที่มีจริงๆ ผู้กล่าวต้องเป็นผู้ที่ประจักษ์แจ้งด้วย จึงสามารถที่จะกล่าวถึงความจริงที่ลึกซึ้งละเอียดอย่างยิ่งของสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏ
อ.กุลวิไล: ดิฉันชอบมากที่ท่านอาจารย์ก็เคยถามว่า นับถือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแค่ไหน?
ท่านอาจารย์: ตอนนี้ตอบเองได้ใช่ไหม ทุกคน?
อ.กุลวิไล: ค่ะ ยังน้อยนิดค่ะ ทั้งๆ ที่เห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรม
ท่านอาจารย์: จึงเข้าใจ คำว่า บารมี ใช่ไหม?
อ.กุลวิไล: ค่ะ ไม่สงสัยเลยว่า ทำไมท่านอาจารย์ถึงมีความเคารพพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก แม้แต่เดินในพระวิหารเชตวัน หรือกราบเคารพพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านอาจารย์ก็เป็นแบบอย่างสำหรับผู้ที่มีความเคารพในพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าสูงสุด แต่ดิฉันก็ยังน้อยนิดค่ะท่านอาจารย์ ต้องอาศัยการฟังพระธรรม และสะสมไป โชคดีที่มีท่านอาจารย์เป็นผู้ชี้นำค่ะ
ท่านอาจารย์: ก็รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เข้าใจธรรม
อ.กุลวิไล: ค่ะ กราบเท้าขอบพระคุณท่านอาจารย์ และบูชาคุณท่านอาจารย์ที่ได้ให้รู้จักพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแม้นิดหน่อยเล็กน้อยค่ะ
อ.อรรณพ: ซาบซึ้งในคำกล่าวของ อ.กุลวิไล ที่กล่าวมาด้วยความนอบน้อม และเห็นประโยชน์ตามฐานะสติปัญญาของพวกเราว่า รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแค่ไหน ใช่ไหมครับ ก็แค่เท่าที่ปัญญาจะมี แล้วก็ต้องกราบเท้าท่านอาจารย์เป็นผู้มีอุปการะมาก ทำให้พวกเราได้ค่อยๆ รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ว่าคืออะไร จึงเป็นผู้มีอุปการะมาก ที่ให้ได้มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง เพราะได้เข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตั้งแต่ขั้นการฟัง
ก็ยินดีในความนอบน้อมของ อ.กุ,วิไลมาก ผมก็ซาบซึ้งไปด้วย มิเช่นนั้น ชีวิตนี้ก็ไร้ค่า ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้นเลย
ขอเชิญอ่านได้ที่ ...
ขอเชิญฟังได้ที่ ...
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ