เหมือนจับงูพิษข้างหาง_สนทนาธรรมไทย-ฮินดี วันเสาร์ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๗
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 285-286
[๒๗๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษ บางพวกในพระธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ โมฆบุรุษเหล่านั้น เล่าเรียนธรรมนั้นแล้ว ย่อมไม่ไตร่ตรองเนื้อความแห่งธรรมเหล่านั้นด้วยปัญญา ธรรมเหล่านั้น ย่อมไม่ควรซึ่งการเพ่งแห่งโมฆบุรุษเหล่านั้น ผู้ไม่ไตร่ตรองเนื้อความด้วยปัญญา โมฆบุรุษเหล่านั้น ข่มผู้อื่นเป็นอานิสงส์ หมายเปลื้องคํากล่าวร้ายของผู้อื่นเป็นอานิสงส์ จึงเล่าเรียนธรรม ก็กุลบุตรทั้งหลาย ย่อมเล่าเรียนธรรมเพื่อประโยชน์อันใด โมฆบุรุษเหล่านั้น ย่อมไม่ได้เสวยประโยชน์นั้นแห่งธรรมนั้น ธรรมเหล่านั้น อันโมฆบุรุษเหล่านั้นเรียนไม่ดีแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน ข้อนั้นเป็นเพราะอะไร เพราะธรรมทั้งหลายอันตนเรียนไม่ดีแล้ว ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีความต้องการด้วยงูพิษ เสาะหางูพิษ เที่ยวแสวงหางูพิษ เขาพึงพบงูพิษตัวใหญ่ พึงจับงูพิษนั้นที่ขนดหรือที่หาง งูพิษนั้นพึงแว้งกัดเขาที่มือ ที่แขน หรือที่อวัยวะใหญ่น้อยแห่งใดแห่งหนึ่ง เขาพึงถึงความตาย หรือความทุกข์ปางตาย มีการกัดนั้นเป็นเหตุ ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุอะไร เพราะงูพิษตนจับไม่ดีแล้วแม้ฉันใด ภิกษุทั้งหลาย พวกโมฆบุรุษบางพวกในพระธรรมวินัยนี้ ก็ฉันนั้นนั่นแล ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ ... อัพภูตธรรม เวทัลละ โมฆบุรุษเหล่านั้น เล่าเรียนธรรมนั้นแล้ว ย่อมไม่ไตร่ตรองเนื้อความแห่งธรรมเหล่านั้น ด้วยปัญญา ธรรมเหล่านั้นย่อมไม่ควรซึ่งการเพ่งแห่งโมฆะบุรุษเหล่านั้น ผู้ไม่ไตร่ตรองเนื้อความด้วยปัญญา โมฆบุรุษเหล่านั้น หมายข่มผู้อื่นเป็นอานิสงส์ หมายเปลื้องคํากล่าวร้ายผู้อื่นเป็นอานิสงส์ จึงเล่าเรียนธรรม ก็กุลบุตรทั้งหลายย่อมเล่าเรียนธรรมเพื่อประโยชน์อันใด โมฆบุรุษเหล่านั้นย่อมไม่ได้เสวยประโยชน์นั้นแห่งธรรมนั้น ธรรมเหล่านั้น อันโมฆบุรุษเหล่านั้นเรียนไม่ดีแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุอะไร เพราะธรรมทั้งหลายอันตนเรียนไม่ดีแล้ว.
ท่านอาจารย์: ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นกุศล อกุศล ดับแล้ว แต่เพราะจิตที่เป็นอกุศลขณะใด ขณะนั้นก็เปลื้อนจิต ทำจิตนั้นให้เป็นอกุศล ซึ่งตราบใดที่ไม่มีความเข้าใจถูก ไม่มีทางจะเอาอกุศลนั้นออกไปได้
เพราะฉะนั้น ไม่รู้ว่า จิตสะสมอะไรมามากน้อยในสังสารวัฏฏ์ แต่ทุกวันทุกขณะที่อะไรเกิดขึ้น แสดงให้เห็นการสะสมของฝ่ายกุศลหรืออกุศลมากน้อยแค่ไหน
เพราะฉะนั้น ชาตินี้สะสมมาที่จะได้ยิน คำว่า อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า บางคนมีการสะสมมาที่จะศึกษา คำ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่เพียงเพื่อตนเอง
เพราะฉะนั้น คนที่เห็นคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะฟังธรรมเพื่อรู้ความไม่ดีของตัวเอง
เพราะฉะนั้น ถ้าฟังธรรมเพื่อสมบัติ เพื่อเกียรติยศ เพื่อชื่อเสียง เพื่อความเป็นเราเก่งเราดี อันนั้นเป็นอันตรายมาก เหมือนจับงูพิษข้างหาง เพราะขณะนั้น ไม่รู้ว่าเป็นการเพิ่มกิเลส ไม่ใช่การละกิเลส
ถ้ากิเลสยังเพิ่มขึ้นๆ มากๆ ก็จะทำอกุศลกรรม ถ้าอกุศลกรรมที่กำแล้วให้ผลเมื่อตายแล้วไปไหน?
มานิช: ในนรกครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น เห็นคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไหมว่า เข้าใจความจริงเข้าใจธรรมเมื่อไหร่ ขณะนั้นเป็นเหตุให้เป็นกุศลกรรมที่ไม่นำไปสู่อบาย
เพราะฉะนั้น ทุกคนที่ได้ฟัง คำ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีชีวิตอยู่เพราะไม่รู้ว่า ความตายจะมาถึงเมื่อไหร่ มีชีวิตอยู่เพื่อเข้าใจความจริงที่พระองค์ทรงแสดง
เพราะฉะนั้น ต้องไม่ลืมว่า ฟํงธรรมโดยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่จะฟัง และเข้าใจ และประพฤติปฏิบัติตาม
ขอเชิญอ่านได้ที่ ...
ผู้ทำอกุศลกรรม เป็นผู้ที่น่าสงสาร
ขอเชิญฟังได้ที่ ...
จะเห็นพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อไหร่
หนทางที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสาวกดำเนิน
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ และกราบยินดีในกุศลของคุณสุคิน ผู้ถ่ายทอดคำท่านอาจารย์เป็นภาษาฮินดีค่ะ