ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  28 ก.ค. 2567
หมายเลข  48207
อ่าน  150

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา และ คณะอาจารย์ มศพ. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อรรณพ หอมจันทร์ อาจารย์วิชัย เฟื่องฟูนวกิจ อาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย และ อาจารย์ธีรพันธ์ ครองยุทธ ได้รับเชิญจากคณะกรรมการแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อไปสนทนาธรรม ณ ห้องประชุมชัยจินดา ๑ อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ (มภร) ชั้นที่ ๒๐ โรงพยาบาลตำรวจ ระหว่างเวลา ๑๓.๐๐ น. - ๑๕.๓๐ น. โดยมี พลตำรวจโท ไพบูลย์ เจียมอนุกูลกิจ นายแพทย์ใหญ่ สบ 8 โรงพยาบาลตำรวจ ที่ปรึกษาคณะกรรมการแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง โรงพยาบาลตำรวจ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ ๕๔๙๐ พลตำรวจตรีหญิง พันวดี รัตนสุมาวงศ์ นายแพทย์ สบ 7 ประธานคณะกรรมการแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมด้วยคณะทำงาน ให้การต้อนรับ

อนึ่ง การเดินทางมาสนทนาธรรม ณ โรงพยาบาลตำรวจ ของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะอาจารย์ มศพ. ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๓ (ครั้งแรก คลิก :ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ ครั้งที่ ๒ คลิก :ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ๑๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗)

ข้อความบางตอนจากการสนทนา :

ท่านอาจารย์ : คนที่ได้ฟังคำว่า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ละคน มีความรู้สึกอย่างไร คนที่ไม่สนใจเลยก็มี ใช่ไหม? แต่ว่า สำหรับคนที่สะสมมาแล้ว ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีในครั้งโน้น พอได้ฟังแล้ว ความปีติของท่าน มากแค่ไหน ประมาณไม่ได้ และเราได้ยินคำว่า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า รู้สึกอย่างไร? 

บางคนไม่สนใจเลย แล้วก็คิดว่า ได้เป็นชาวพุทธแล้ว แต่ชาวพุทธต้องเป็นผู้รู้ เพราะเหตุว่า "พุทธะ" ไม่ใช่ผู้โง่ หรือว่าผู้ไม่รู้ ถ้าเป็นชาวพุทธจริงๆ ก็ต้องรู้ว่า "พุทธะ" คืออะไร และ รู้อะไร 

เพราะฉะนั้น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ที่ทรงถคงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหนือพระปัจเจกพุทธเจ้า และใครทั้งหมด ไม่ว่าใครจะเป็นผู้รู้ปานใด พระอรหันต์ทุกรูป ก็ไม่เสมอกับพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะพระคุณที่ประมาณไม่ได้เลย 

ทรงบำเพ็ญพระบารมีที่จะรู้ความจริง แค่นี้ เราเคยสนใจไหม? เพียงคำว่า "ความจริง" กับ "ความไม่จริง" อยู่ไหน? และจะรู้ความจริงนั้นได้อย่างไร? 

ถ้าเป็นคนที่ตรึกตรอง ก็จะมีการเห็นประโยชน์ของการที่ ได้ฟังคำ ซึ่งอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แต่สะสมมา นานเท่าไหร่ในสังสารวัฏ ที่พอได้ยินแล้ว สนใจ บางท่านได้ยินแล้วก็ผ่านไป ๒๐ ปี ๓๐ ปี กลับมาฟังใหม่ 

เพราะฉะนั้น ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่สามารถที่จะคิดได้ด้วยตนเอง คนนั้นจะเป็นอย่างนี้ คนนี้จะเป็นอย่างนั้น เรื่องนั้นจะเป็นอย่างนี้ ตราบใดที่ยังไม่เกิด ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไร ที่จะทำให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิด

เดี๋ยวนี้อาจจะมีฝนตกได้ไหม? อาจจะมีความร้อนอย่างรุนแรงได้ไหม? ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่คาดคะเน พายุร้อนมาแล้ว ใครจะรู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ไหน 

เพราะฉะนั้น แม้เดี๋ยวนี้ ใกล้เข้ามาอีก จะได้ยินอะไร? ทราบไหม? เพียงแต่ว่า เราจะมีการสนทนา เพื่อรู้จักพระคุณสูงสุด ของผู้ที่ทรงพระนามว่า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ยินคำนี้แล้ว ประมาทไม่ได้เลย เราต่างกับพระองค์ระดับไหน เพียงได้ฟัง คิดเองหมดเลย คิดว่ารู้เท่ากับพระองค์ ไม่ว่าพระองค์ตรัสอะไรก็รู้ 

ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ทุกคำลึกซึ้ง ยากที่จะรู้ได้ เช่น "ความจริง" "สิ่งที่มีจริง" แค่สองคำนี้ ถ้าไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน ว่าพระองค์ตรัสถึง "สิ่งที่มีจริงๆ" เป็นความจริงถึงที่สุด ที่เปลี่ยนไม่ได้ เดี๋ยวนี้มีไหม? 

เพราะฉะนั้น ก็คงจะเริ่มสนทนาได้...  


ขอเชิญติดตามบันทึกการสนทนาที่เกี่ยวข้อง ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ๑๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ 


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ก.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
swanjariya
วันที่ 29 ก.ค. 2567

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ