มืดตลอดชีวิต หรือเปล่า

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  7 ก.ย. 2567
หมายเลข  48428
อ่าน  393

ทุกท่านอยู่ในโลกที่สว่างหรือว่าอยู่ในโลกที่มืดมากกว่ากัน ถ้าศึกษาปริยัติธรรมจะตอบได้ ตรงกันข้ามกับที่กำลังปรากฏนี่ ใช่ไหม เพราะว่า จักขุทวารวิถีจิตทวารเดียวที่สว่าง ดับไป ภวังคจิตเกิดคั่น มโนทวารวิถีจิตเกิดต่อหลายวาระ ขณะที่เป็นภวังคจิต มืดไหม ไม่ใช่จักขุทวารวิถี ขณะที่เป็นมโนทวารวิถี มืดไหม ขณะที่กำลังได้ยินเสียงมืดหรือสว่าง

ที่เราว่าโลกมืด มืดหลายอย่าง สำหรับผู้ไม่มีปัญญาก็ไม่รู้อะไรเลย อะไรเป็นนามธรรม อะไรเป็นรูปธรรม เป็นจิต หรือเป็นเจตสิก หรือเป็นรูป เป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ก็ไม่รู้เลย นั่น เป็นความมืดตลอดชีวิต ตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่สามารถที่จะรู้ได้ เป็นความมืดของอวิชชา ซึ่งไม่ว่าสิ่งใดจะปรากฏก็ไม่รู้ทั้งนั้น

ปัญญาเป็นแสงสว่างที่สว่างกว่าแสงสว่างอื่นใดทั้งสิ้น เพราะแม้ว่าจะเป็นธรรมที่มืดสนิท ไม่มีแสงสว่างปรากฏเลย ปัญญาก็ยังประจักษ์แจ้ง ในลักษณะที่เป็นนามธรรม และรูปธรรมได้


ที่มา อ่าน และฟังเพิ่มเติม

อยู่ในโลกที่สว่างหรือว่าอยู่ในโลกที่มืดมากกว่ากัน

สภาพธรรมใน วันหนึ่งๆ ที่ไม่ใช่ทางจักขุทวาร ทวารอื่นนั้นมืด


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Kalaya
วันที่ 7 ก.ย. 2567

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
สิริพรรณ
วันที่ 7 ก.ย. 2567

ความไม่รู้บังตลอด บังมานาน อยู่ในความมืดสนิทนะคะ อยู่ในถ้ำ ไม่เห็นอะไรมืดสนิท อย่างเด็กที่อยู่ในถ้ำ แต่ยังมีเรา ยังมีธาตุรู้ แล้วลองคิด ถ้าไม่มีจริงๆ ไม่เกิดจริงๆ จะมืดยิ่งกว่ามีเราในถ้ำไหม นั่นยังมีธาตุรู้ว่ามีความมืดที่อยู่ในถ้ำ แต่นี่ความมืดของสิ่งที่ไม่ปรากฎเลย แต่มีธาตุรู้ เพราะฉะนั้นเด็กที่อยู่ในถ้ำมีธาตุรู้และเห็นว่ามืด แต่ตัวธาตุรู้จะยิ่งกว่ามืดไหมเพราะไม่มีรูปใดๆ เลย

(จากการสนทนาที่วิลล่า วิลล่า พัทยา 11 ก.ค.2561)

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอบพระคุณในธรรมทานด้วยค่ะ

ผู้เห็นประโยชน์ของการที่จะได้ค่อยๆ รู้ความจริงที่ถูกปกปิดด้วยความมืดมานานแสนนาน จึงอดทนที่จะฟังพระธรรม ไตร่ตรองทุกคำที่แสดงให้รู้ว่า มีความจริงขณะนี้เดี๋ยวนี้ให้ได้ศึกษาพิจารณาแน่นอน

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 7 ก.ย. 2567

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
talaykwang
วันที่ 7 ก.ย. 2567

ปัญญาไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่แล้ว แต่หมายความว่า เมื่อไม่มีก็ค่อยๆ ให้มีขึ้น ทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งเติบโตขึ้น เหมือนอย่างคนที่อ่านหนังสือไม่ออก เราก็บอกให้ใช้ปัญญา แล้วเขาจะเอาปัญญาที่ไหนมาอ่านหนังสือ เพราะเขาไม่มีปัญญาเลย แต่ถ้าเขาเริ่มทีละนิดทีละหน่อย จนกระทั่งเขาค่อยๆ อ่านได้ทีละตัว สองตัว จนในที่สุดเขาก็สามารถอ่านได้ ฉันใด ปัญญาก็อย่างนี้ ...


ที่มา E-book ปกิณณกธรรม เล่มที่ ๑ หน้า ๔๑ บรรยายโดย สุจินต์ บริหารวนเขตต์

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลทุกประการค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 7 ก.ย. 2567

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nattawan
วันที่ 9 ก.ย. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ