จะรู้หรือไม่ก็ตาม วิถีจิตกำลังเกิดดับสืบต่อ
ในวันหนึ่งๆ ก็มีทั้งจิตที่ไม่ใช่วิถีจิต และจิตที่เป็นวิถีจิต สำหรับการรู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่เป็นวิถีจิตในวันหนึ่งๆ แยกออกเป็นทางปัญจทวาร และทางมโนทวาร
การรู้อารมณ์ หรือการเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ต่างๆ ของจิตในวันหนึ่งๆ ทั้งหมดแบ่งได้เป็น ๒ ประเภท คือ ไม่ใช่วิถีจิตประเภทหนึ่ง และเป็นวิถีจิตอีกประเภทหนึ่ง
สำหรับจิตที่ไม่ใช่วิถีจิต ได้แก่ ปฏิสนธิจิต ๑ ภวังคจิต ๑ จุติจิต ๑ เป็นจิตที่ไม่ใช่วิถีจิต นอกจากนั้นแล้วเป็นวิถีจิตทั้งหมด
คำว่า วิถีจิต หมายความ ถึงจิตที่เกิดขึ้นรู้อารมณ์ทางตา หรือทางหู หรือ ทางจมูก หรือทางลิ้น หรือทางกาย หรือทางใจ เพราะฉะนั้น จิตที่ไม่ใช่วิถีจิต ย่อมไม่รู้อารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ
ขณะนี้ ใครจะคิดถึงอะไร ให้ทราบว่าเป็นทางทวารไหน ถ้าเป็นการคิดถึง ต้องเป็นทางมโนทวารวิถี แต่ถ้าเป็นการรู้สิ่งที่กำลังปรากฏทางตา หรือทางหู หรือทางจมูก หรือทางลิ้น หรือทางกาย ต้องเป็นทางปัญจทวารวิถี แต่หลังจากภวังคจิตเกิดคั่นแล้ว มโนทวารวิถีก็ยังรับรู้อารมณ์นั้นต่อ
รับฟัง และ อ่านรายละเอียด
วิถีจิต รู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ*
วิถีจิต ทางรู้อารมณ์ ทางรับผลของกรรม*
การรู้อารมณ์แต่ละทวาร เป็นการประพฤติของวิถีจิต*
กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
การได้ศึกษาวิถีจิต เป็นการศึกษาที่มีคุณค่าในชีวิตที่ไม่สามารถหาได้เลยในวิชาการทางโลก หรือศาสตร์ใดๆ เพราะเป็นวิชาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประจักษ์ความจริงและแสดงความจริงให้ผู้ฟัง เข้าใจในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ทุกขณะที่ เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส คิดนึก ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ซึ่งต้องมีทุกวัน แม้แต่การฝัน นั่นไม่ใช่เราเลย! แต่เป็นการเป็นไปของจิต ที่ต้องทำกิจ ต่างๆ มากมาย ทางเดินของจิตต่างๆ เป็นสภาพที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ลึกที่สุดจึงไม่สามารถปรากฏได้กับความมืดบอด นอกจากปัญญาที่มีกำลังเท่านั้น ที่จะส่องให้เห็นลักษณะของจิต และสภาพปรุงแต่งจิต
แน่นอนว่า สิ่งที่ที่มีคุณค่าในการมีชีวิต คือความดีงามด้วยกุศลกรรม แต่สิ่งที่เหนือที่สุดในคุณค่านั้น คือการได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คำของผู้ที่ถ่ายทอดความจริงจากความเข้าใจคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วสะสมความเข้าใจในความจริงที่มีในชีวิตประจำวัน เป็นทรัพย์ที่มีค่าที่สุดเกื้อกูลไปถึงภพต่อๆ ไป เพื่อถึงเวลาที่จะได้ไม่มีภพได้จริง ดังเช่นอริยบุคคลมากมายที่ท่านประจักษ์แล้ว
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
ขอบพระคุณสมาชิกบ้านธัมมะผู้เกื้อกูลความจริงด้วยค่ะ
การได้ศึกษาวิถีจิต เป็นการศึกษาที่มีคุณค่าในชีวิตที่ไม่สามารถหาได้เลยในวิชาการทางโลก
ยินดีในกุศลจิตครับ
ศึกษาความจริง ของสิ่งที่มีจริงๆ เพื่อให้รู้ว่า..ไม่มีเรา สัตว์ บุคคลใดๆ .. มีเพียงธรรมเท่านั้นที่ทำกิจหน้าที่ และไม่มีเราที่จะไปจัดการอะไรกับธรรมได้เลย ธรรมเกิดขึ้นเพราะปัจจัยมากมาย "ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา"
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารในเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลผู้มีคุณทุกท่าน ทุกประการ