กรรมนั้นชื่อว่า ยทาสันนกรรม
๔. นิทานสูตร ว่าด้วยเหตุเกิดของกรรม
อธิบายยทาสันนกรรม
ส่วนในบรรดากุศลกรรมและอกุศลกรรมทั้งหลาย กรรมใดสามารถเพื่อจะให้ระลึกถึงในเวลาใกล้ตาย กรรมนั้นชื่อว่า (๒) . ยทาสันนกรรมนั่นแหละ เมื่อกุศลกรรมและอกุศลกรรมเหล่าอื่นถึงจะมีอยู่ ก็ให้ผล (ก่อน) เพราะอยู่ใกล้มรณกาล เหมือนเมื่อเปิดประตูคอกที่มีฝูงโคเต็มคอก บรรดาโคฝึกและโคมีกำลังถึงจะอยู่ในส่วนอื่น (ไกลปากคอก) โคตัวใดอยู่ใกล้ประตูคอก โดยที่สุดจะเป็นโคแก่ถอยกำลังก็ตาม โคตัวนั้นก็ย่อมออกได้ก่อนอยู่นั่นเอง
ถัาเช่นนั้น ใกล้มรณกาลแล้วฟังเสียงสวดมนต์จะก้าวพ้นอกุศลกรรมพอประมาณที่ทำไว้ เกิดในสุคติภพได้ไหมอาจารย์
คัดจาก
๗. ธนัญชานิสูตร เรื่องธนัญชานิพราหมณ์ สา. ดูกรท่านผู้มีอายุ ธนัญชานิพราหมณ์ยังเป็นผู้ไม่ประมาทหรือ? ภิ. ที่ไหนได้ท่านผู้มีอายุ ธนัญชานิพราหมณ์ของเราจะไม่ประมาท เขาอาศัยพระราชา เที่ยวปล้นพวกพราหมณ์และคฤหบดี อาศัยพวกพราหมณ์และคฤหบดีปล้นพระราชา ... ครั้นสมัยต่อมา ธนัญชานิพราหมณ์เป็นผู้อาพาธ ได้รับทุกข์เป็นไข้หนัก ... ท่านพระสารีบุตรนุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปยังนิเวศน์ของ ธนัญชานิพราหมณ์ ... ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรมีความดำริว่า พราหมณ์เหล่านี้ น้อมใจไปในพรหมโลก ถ้ากระไร เราพึงแสดงทางเพื่อความเป็นสหายกับพรหมแก่ธนัญชานิพราหมณ์เถิด ดังนี้ แล้วจึง กล่าวว่า ดูกรธนัญชานิ เราจักแสดงทางเพื่อความเป็นสหายกับพรหม ท่านจงฟัง จงตั้งใจให้ดี เราจักกล่าว ... ครั้งนั้นแล ท่านพระสารีบุตรได้ประดิษฐานธนัญชานิพราหมณ์ไว้ในพรหมโลก ชั้นต่ำ ในเมื่อยังมีกิจที่จะพึงทำให้ยิ่งขึ้นได้ แล้วลุกจากอาสนะหลีกไป. ทันใดนั้น เมื่อท่าน พระสารีบุตรหลีกไปไม่นาน ธนัญชานิพราหมณ์ทำกาละแล้วไปบังเกิดยังพรหมโลกพระสูตรนี้เป็นกุศลกรรมและอกุศลกรรมทั้งหลาย กรรมใดสามารถเพื่อจะให้ระลึกถึงในเวลาใกล้ตาย กรรมนั้นชื่อว่า (๒) . ยทาสันนกรรม
ขออาจารย์แนะนำ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ในประเด็นคำถามแรก ถ้ากุศลจิตเกิด เกิดความเลื่อมใสในคุณของพระรัตนตรัย ก่อนตาย ก็พอที่จะเป็นกรรมที่กระทำเมื่อใกล้ตายได้ ถ้าไม่มีกรรมอื่นใด จะให้ผลก่อน กรรมที่ทำเมื่อใกล้ตาย ก็เป็นเหตุให้ผลได้ สามารถนำเกิดในสุคติภูมิ สำคัญอยู่ตรงที่ว่าขณะนั้น จะเป็นกุศลหรือไม่ ซึ่งคนอื่นรู้ไม่ได้เลย ต้องเป็นบุคคลนั้นเท่านั้นที่รู้
สำหรับในประเด็นคำถามที่ ๒ เรื่องธนัญชานิพราหมณ์ ตายไปแล้วไปเกิดในพรหมโลก แสดงว่า ฌานจิตเกิดก่อนตาย ฌานไม่เสื่อม ซึ่งฌานจิต เป็นกรรมหนัก คือ ครุกรรม ฝ่ายที่เป็นกุศล กรรมหนักจึงให้ผลก่อนกรรมอื่นๆ จึงทำให้ไปเกิดในพรหมโลกในชาติต่อไป ครับ
... ยินดีในกุศลของคุณ preechacupr และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...
การให้ผลของกรรม แล้วแต่กาละ อาจจะให้ผลในปัจจุบันชาติ หรืออาจจะให้ผลในชาติต่อไป หรืออาจจะให้ผลในชาติต่อจากนั้นไปอีกก็ได้ ซึ่งแล้วแต่ว่าอกุศลกรรมที่ได้กระทำนั้น พร้อมด้วยเหตุปัจจัยที่จะให้เกิดผลเมื่อไร
ยินดีในกุศลจิตครับ
ถ้าเราผู้ใกล้ตายรู้อย่างนี้ จะครองสำคัญอยู่ตรงที่ว่าขณะนั้น ให้เป็นกุศล อย่างไร เห็นอาจารย์หลายท่านบอก (คนdead bed มีสติ รู้เรื่อง แต่พูด,ขยับตัวไม่ได้ตามresearch) เช่นเปิดเทปพระสุตันปิดกให้ฟังให้เป็นกุศลครองสติ อาจารย์ช่วยแนะนำ
ไม่มีใครสามารถจัดสรรผลของกรรมให้เป็นไปตามความต้องการได้เลย มีวิถีทางของกรรมนั้นๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นเป็นไป ทำให้วิบากนั้นๆ เกิดขึ้นต่างๆ กันไปแต่ละขณะ แต่ละภพ แต่ละชาติ
กรรมที่ได้กระทำแล้วทั้งหมดในสังสารวัฏฏ์ กรรมหนึ่งกรรมเดียวเท่านั้น จะทำให้กรรมนิมิตอารมณ์ หรือคตินิมิตอารมณ์ หรือกรรมอารมณ์ เกิดขึ้นปรากฏเป็นอารมณ์ของชวนจิตสุดท้ายก่อนจุติ เลือกไม่ได้เลย แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นกรรมซึ่งกระทำในขณะนั้นทันที แต่จะเป็นกรรมที่กระทำใกล้กว่านั้นอีกก็ได้ คือ ก่อนที่จะถึงมรณาสันนวิถี คือ ก่อนที่จะเป็นชวนะสุดท้ายได้ อาจจะเป็นชั่วโมงหนึ่ง วันหนึ่ง สองวัน หรืออะไรก็ได้ หรืออาจจะเป็นหลายเดือนหลายปีมาแล้ว หรืออาจจะเป็นหลายชาติมาแล้ว หรืออาจจะเป็นหลายกัปมาแล้วก็ได้
สำหรับ ลำดับการให้ผลของกรรม โดยประเภทของกรรม คือ
ประเภทของกรรมที่มีกำลังในการให้ผล มี ๔ คือ ครุกกรรม ๑ พหุลกรรม ๑ อาสันนกรรม หรือ ยทาสันนกรรม ๑ กฏัตตาวาปนกรรม ๑
และลำดับการให้ผลของกรรมโดยประเภทของกรรม ครุกกรรม เป็นกรรมหนักย่อมให้ผลก่อน
อาสันนกรรม บางแห่งใช้คำว่า ยทาสันนกรรม ได้แก่ กรรมที่ทำใกล้จะจุติ
ขอเชิญรับฟัง
คัดจาก
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ [๖๑๓] ดูกรอานนท์ ในบุคคล ๔ จำพวกนั้น บุคคลที่เป็นผู้มักทำชีวิต สัตว์ให้ตกล่วง ฯลฯ มีความเห็นผิดในโลกนี้ ตายไปแล้ว เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ นี้ เป็นอันว่า เขาทำกรรมดีที่ให้ผลเป็นสุขไว้ในกาลก่อนๆ หรือในกาลภายหลัง หรือว่ามีสัมมาทิฐิพรั่งพร้อม สมาทานแล้วในเวลาจะตาย เพราะฉะนั้น เขาตาย ไปจึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ก็แหละบุคคลที่เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง ฯลฯ มีความเห็นผิดในโลกนี้นั้น เขาย่อมเสวยวิบากของกรรมนั้นในชาตินี้ หรือในชาติ หน้า หรือในชาติต่อไป ฯจะทำ มีสัมมาทิฐิพรั่งพร้อม สมาทานแล้วในเวลาจะตาย อย่างไรอาจารย์ช่วยบอกทีที
ไม่มีใครสามารถจัดสรรผลของกรรมให้เป็นไปตามความต้องการได้เลย มีวิถีทางของกรรมนั้นๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นเป็นไป ทำให้วิบากนั้นๆ เกิดขึ้นต่างๆ กันไปแต่ละขณะ แต่ละภพ แต่ละชาติ
ขอเชิญรับฟัง
การให้ผลของกรรม แล้วแต่กาละ อาจจะให้ผลในปัจจุบันชาติ หรืออาจจะให้ผลในชาติต่อไป หรืออาจจะให้ผลในชาติต่อจากนั้นไปอีกก็ได้ ซึ่งแล้วแต่ว่าอกุศลกรรม หรือกุศลที่ได้กระทำนั้น พร้อมด้วยเหตุปัจจัยที่จะให้เกิดผลเมื่อไร