เอาความเป็นเราออกได้อย่างไร?

 
เมตตา
วันที่  22 ธ.ค. 2567
หมายเลข  49149
อ่าน  185

[เล่มที่ 31] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 422

[๑๖๗๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ญาณทัสสนะ (ความรู้ความเห็น) ตามความเป็นจริง มีวนรอบ ๓ อย่างนี้ มีอาการ ๑๒ ในอริยสัจ ๔ เหล่านี้ของเรา ยังไม่บริสุทธิ์เพียงใด เราก็ยังไม่ปฏิญาณตนว่าเป็นผู้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณะ พราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ เพียงนั้น ก็เมื่อใด ญาณทัสสนะ (ความรู้ความเห็น) ตามความเป็นจริง มีวนรอบ ๓ อย่างนี้ มีอาการ ๑๒ ในอริยสัจจเหล่านี้ของเรา บริสุทธิ์ดีแล้ว เมื่อนั้น เราจึงปฏิญาณตนว่าเป็นผู้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณะพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ ก็ญาณทัสสนะได้บังเกิดขึ้นแก่เราว่า วิมุตติของเราไม่กำเริบ ชาตินี้เป็นชาติที่สุด บัดนี้ภพใหม่ไม่มี ฯลฯ

คำว่า มีวนรอบ ๓ คือวน ๓ รอบ ด้วยอำนาจวนรอบ ๓ กล่าวคือ สัจญาณ กิจญาณ และกตญาณ. ก็ในวนรอบ ๓ นี้ ญาณตามความเป็นจริงในสัจจะ ๔ อย่างนี้ คือ นี้ทุกขอริยสัจจะ นี้ทุกขสมุทัย ชื่อว่าสัจญาณ ญาณที่เป็นเครื่องรู้กิจที่ควรทำอย่างนี้ว่า ควรกำหนดรู้ ควรละในสัจจะเหล่านั้นเทียวชื่อว่า กิจญาณ. ญาณเป็นเครื่องรู้ภาวะแห่งกิจนั้น ที่ทำแล้วอย่างนี้ว่า กำหนดรู้แล้ว ละได้แล้ว ดังนี้ ชื่อว่า กตญาณ.

คำว่ามีอาการ ๑๒ ความว่า มีอาการ ๑๒ ด้วยอำนาจอาการสัจจะละ ๓ นั้น

คำว่า ญาณทัสสนะ คือ การเห็น กล่าวคือญาณที่เกิดขึ้นแล้วด้วยอำนาจวนรอบ ๓ อย่าง อาการ ๑๒ อย่างเหล่านี้.


ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ฟังทุกคำเพื่อละเมื่อเห็นความลึกซึ้ง เมื่อเข้าใจถูกต้องก็จะรู้ได้ว่า แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงความจริงของสิ่งที่กำลังมีทุกอย่าง เพื่อค่อยๆ รู้ ค่อยๆ ประจักษ์แจ้ง นี่คือความเคารพสูงสุดในการมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง

กำลังพึ่งพระองค์ทุกขณะ ทุกคำที่ได้ฟังด้วยความเคารพ

อ.วิชัย: ก็กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ ไพเราะอย่างยิ่งที่จะเริ่มเห็นคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณของพระธรรม และคุณของพระสงฆ์ครับ ที่ท่านอาจารย์กล่าวถึงความลึกของความไม่รู้ คืออวิชชา นี่ก็ยากจริงๆ ที่จะค่อยๆ ขึ้นมาจากเหวของอวิชชาครับ หรือแม้แต่การเริ่มต้นต่อการที่จะเป็นผู้ตรงที่จะรู้ความเป็นจริงนะครับ ท่านอาจารย์ก็กล่าวถึงการรู้อริยสัจจะถึง ๓ รอบด้วยกัน ก็กราบเรียนท่านอาจารย์เพิ่มเติมในประเด็นเรื่องของการที่จะเป็นผู้ตรงที่จะรู้ความเป็นจริง ก็ดูเหมือนว่า ขั้นฟังครับก็ไม่สงสัยที่จะรู้ว่าเป็นธรรมหรือเปล่า อย่างจับแข็งก็เป็นธรรม เห็นก็เป็นธรรม เพราะก็รู้ว่า กำลังมีอยู่อย่างนี้ครับท่านอาจารย์ การที่จะตรงขึ้นๆ ครับ กราบท่านอาจารย์ให้ความละเอียดขึ้นครับดูเหมือนกับก็ยังต้องค่อยๆ ฟัง แล้วก็ได้ศึกษาความเป็นจริงอย่างนี้เป็นปกติอย่างนี้ครับ

ท่านอาจารย์: นั่นแหละ หนทาง เห็นไหม นั่นแหละ หนทาง มั่นคงไหมในหนทางนั้น ไม่มีอื่น

อ.วิชัย: ครับ

ท่านอาจารย์: เห็นไหม สักนิดสักหน่อย แต่ละคำลึกซึ้งอย่างยิ่งที่ไม่ประมาทที่จะรู้ว่า สิ่งที่มีทุกวันเป็นธรรม แต่ไม่รู้ความจริงอะไรเลยทั้งสิ้น และที่สำคัญที่สุด คือคุณวิชัยกล่าวว่า ฟังแล้วก็ไม่รู้ใช่ไหม โน่น นี่ นั่น ก็เรารู้ทั้งนั้นแหละ เห็นไหม?

ก็เรารู้ทั้งนั้นแหละ แล้วจะเอาเราออกได้อย่างไร? ไม่ใช่ไปเอาอื่นออก เอาความเป็นเราที่รู้นั่นแหละออกได้อย่างไรว่า นั่นไม่ใช่เรา ถ้าไม่ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะรู้ไหมว่าอะไร ถึงรู้ว่าอะไร จะออกแบบไหน จะอย่างไร มีหนทางไหม? เห็นไหม? มีแต่ความลึกซึ้งจริงๆ ที่ฟังด้วยความเข้าใจถูกต้อง ไม่ใช่ฟังด้วยความอยาก ฟังด้วยความสนใจตรงนี้เป็นอย่างนี้ และตรงโน้นเป็นอย่างไร ก็เป็นเราไปเรื่อยๆ ไม่ได้ออกจากเราเลย

อ.วิชัย: ครับ ก็รู้ว่าความเป็นเราสะสมมานานมาก แล้วละเอียดมาก ยากที่จะรู้ได้แม้แต่ขณะที่ฟังธรรม หรือศึกษา ก็คิดว่าเข้าใจแล้ว แต่ความเป็นเราที่ลึกไปกว่านั้น ที่ยังเป็นเราที่ได้ศึกษาได้เข้าใจครับ ก็ยังรู้ไม่ทั่วถึงครับท่านอาจารย์ ก็ยังละเอียดลงไปอีกครับ

ท่านอาจารย์: ถ้าอย่างนั้น คิดถึงแสนโกฏฏ์กัปป์ข้างหน้า จะรู้มากกว่านี้หรือเปล่า หรือว่าเป็นอย่างนี้ทีละเล็กทีละน้อยเพิ่มขึ้นมากขึ้น หรือว่าค่อยๆ ละ แล้วก็อีกแสนโกฏกัปป์ข้างหน้าเราจะรู้ไหม ถ้าปัญญาสามารถเจริญถึงการประจักษ์แจ้งได้ จะรู้ไหมว่า วันนี้ในแสนโกฏกัปป์กำลังฟังเรื่องนี้อยู่ด้วยความไม่ประมาท แต่ถ้าไม่มีความเข้าใจในความละเอียดเพิ่มขึ้น แสนโกฏกัปป์ก็เพิ่มความไม่ละเอียดต่อไป

อ.วิชัย: โอ้โห!! ครับ ก็อย่างที่ท่านอาจารย์กล่าวใน อัญเชิญปัจฉิมโอวาท ความเป็นผู้ที่ไม่ประมาทครับในแต่ละคำจริงๆ แม้แต่การที่จะศึกษาก็ต้องด้วยความเข้าใจจริงๆ เพิ่มขึ้นครับ

ท่านอาจารย์: ก็สบายใจได้ใช่ไหม จะต้องไปเดือดร้อนอะไร แต่ธรรมที่มีนั่นแหละ เกิดเพราะเหตุปัจจัยทั้งนั้น จนกว่าจะค่อยๆ เข้าใจขึ้น

ขอเชิญฟังได้ที่..

รอบรู้ในแต่ละคำ

ถ้าไม่รู้ว่าขณะนี้เป็นเพียงรูปารมณ์ รู้แจ้งอริยสัจจธรรมไม่ได้

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ

กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.วิชัย ด้วยความเคารพค่ะ


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ