ถามเรื่องอะไรคือ อิริยาบถปิดบังทุกข์

 
ธรรมรักขิต
วันที่  20 ส.ค. 2551
หมายเลข  9619
อ่าน  3,292

อิริยาบถปิดบังทุกข์ ในคัมภีร์สัจจสังเขป ข้อ ๓๓๖ มีว่า

ส่วนเมื่ออิริยาบถ อันพระโยคาวาจร มนสิการความเบียดเบียนสมบัติเนืองๆ เพิกเสียแล้ว ทุกขลักษณะย่อมปรากฏตามหน้าที่ของตนตามความเป็นจริง จริงอย่างนั้นทุกขลักษณะย่อมไม่ปรากฏเพราะถูกอิริยาบถปิดบังเสีย ก็แลอิริยาบถเหล่านั้น 4 บังเกิดเป็นตัวปิดบังได้ เพราะไม่มนสิการความเบียดเบียนสมบัติเนืองๆ (สมบัติในที่นี้คงจะหมายถึงเวทนาทางกาย) เพราะอิริยาบถอื่น เป็นตัวบรรเทาความทุกข์อันบังเกิดในอิริยาบถหนึ่ง ย่อมเป็นประดุจเป็นตัวปิดบังทุกข์นั้น

ที่ผมสงสัยคือ ลักษณะของอิริยาบถมีลักษณะอย่างไรครับ เพราะเมื่ออ่านแล้วในตอนแรกก็เข้าใจว่าเมื่อยืนเมื่อยเป็นทุกข์ เราจึงเปลี่ยนอิริยาบถเป็นนั่ง อิริยาบถนั่งนั่นคือทุกข์ แต่เมื่อคิดดีๆ แล้ว นั่งนั่นก็เป็นเพียงรูปๆ หนึ่งใน 28 รูป และจิตที่นั่งก็มีอยู่เต็มไปหมด เช่น โลภะหรือในขณะที่นั่งก็พิจารณาสภาพธรรมก็เป็นปัญญาแต่ก็ไม่ได้เกิดเพราะนั่ง จึงสรุปได้ว่านั่งไม่ใช่อิริยาบถที่เป็นตัวปิดบังทุกข์

ก็ได้อ่านต่อไปว่า

แต่อิริยาบถอื่นซึ่งเมื่อเปลี่ยนจากอิริยาบถหนึ่ง ย่อมเป็นประดุจเป็นตัวปิดบังทุกข์แต่ไม่ใช่ตัวปิดบังทุกข์จริงๆ เพราะว่าตัวปิดบังทุกข์จริงๆ นั้น คืออิริยาบถ ไม่ใช่การเปลี่ยนอิริยาบถ

ที่ผมไม่เข้าใจ อิริยาบถ คืออะไรครับ แต่พอจะเดาได้ว่า ทุกขณะที่จิตดัวนั้น สภาพธรรมนั้นก็เกิดแตกต่างกันล้วนแล้วไม่ใช่ตัวตนเลย เช่น ขณะที่ได้ยินก็เป็นคนละขณะที่เห็น แต่ที่ทำให้เห็นเสมือนว่าเป็นในขณะเดียวกัน เป็นเพราะตัวอิริยาบถด้วยหรือไม่ และตัวอิริยาบถคืออะไร มีลักษณะอย่างไรครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 20 ส.ค. 2551

อิริยาบถไม่มีลักษณะ เพราะไม่ใช่ปรมัตถธรรม อิริยาบถเป็นบัญญัติที่สมมติกันขึ้นเพราะใส่ใจว่า มีเรา มีคน มีสัตว์ จึงมีอิริยาบถ คือการยืน การเดิน การนั่ง การนอน แต่ถ้าใส่ใจที่ลักษณะของสภาพปรมัตถธรรมที่กำลังมีในขณะนั้น ชื่อว่าเพิกอิริยาบถ

ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่ ..

ขอให้อธิบายเรื่องอิริยาบถปิดบังทุกข์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 20 ส.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Pararawee
วันที่ 20 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 20 ส.ค. 2551

อิริยาบถปิดบังทุกข์ หมายถึง ขณะที่นั่ง นอน ยืน เดินก็เป็นเรา การรวมกันเป็นกลุ่มก้อนของรูปต่างๆ ที่ทรงอยู่ในอาการนั่ง หรือนอน หรือยืน หรือเดินนั้นชื่อว่า อิริยาบถปิดบังทุกข์ ถ้ารูปธรรมแต่ละกลุ่ม แต่กลาปนั้นไม่ประชุมรวมกัน ที่รูปจะปรากฏเป็นอิริยาบถต่างๆ ก็ไม่ได้ ฉะนั้น ถ้ายังไม่แยกฆนะออก คือยังไม่พิจารณาลักษณะของรูปแต่ละอย่างซึ่งเกิดขึ้นแล้วดับ ก็ไม่มีทางที่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดับ นั่นเองเป็นทุกข์ เพราะไม่เที่ยงและไม่ใช่ตัวตน เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมค่ะ ..

รู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรม ..จึงเพิกอิริยาบถ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
prakaimuk.k
วันที่ 20 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เมตตา
วันที่ 20 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
paderm
วันที่ 20 ส.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ตามปกติ เราก็รู้ว่าเรานั่ง นอน ยืน เดิน นั่นแสดงให้เห็นว่า มีการยึดถือว่ายังเป็นเรา ที่มีตัวตนที่นั่ง นอน ยืน เดิน แต่จริงๆ แล้วจะมีนั่ง นอน..เดินได้ก็ต้องมีการประชุมของรูปต่างๆ จึงจะมีการนั่ง นอน ..เดิน แต่เราไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่เกิดทีละอย่างกับเรา จึงยึดถือว่ามีนั่งนอน..เดิน ดังนั้น การเพิกอิริยาบถคือ การที่สติระลึกสภาพธรรมทีละอย่าง เช่น ขณะที่เห็นสติก็ระลึกสภาพธรรมที่เห็นว่าเป็นธรรม ขณะนั้นสติรู้แค่เห็นเท่านั้น ไม่มีท่านั่ง นอน ..เดินเลย ขณะที่เรานั่งเก้าอี้ เราก็สำคัญว่ามีการนั่ง แต่ขณะที่นั่งมีสภาพธรรมอะไรที่มีจริง เช่น แข็ง ขณะที่สติระลึกที่แข็งขณะนั้นก็รู้ที่แข็งเท่านั้น ไม่มีท่านั่ง อะไรเลย จึงเรียกว่าเพิกอิริยาบถครับ

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ
รู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรม ..จึงเพิกอิริยาบถ

ปัญญาไม่เลือกอิริยาบถ เพราะธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา

เพิกอิริยาบถคืออย่างไร

อิริยาบถ เดิน ยืน นั่งนอน เจริญสติภาวนาอย่างไร?

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
khampan.a
วันที่ 21 ส.ค. 2551

สภาพธรรม เป็นสิ่งที่มีจริง เกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอดเวลา เมื่อยังไม่รู้ ไม่เข้าใจในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง จึงมีความเห็นยึดถือในสิ่งที่กำลังปรากฏว่า เป็นเรา เป็นตัวตน แต่เมื่อได้ศึกษา ได้ฟังพระธรรม ได้อบรมเจริญปัญญา มีความเข้าใจถูก เห็นถูก จนกระทั่งสติเกิดขึ้นระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ไม่ว่าจะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน (ที่สมมติกันว่าเป็นอิริยาบถ) สติก็สามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนั้น ทีละลักษณะตามความเป็นจริงได้ เพราะในขณะนั้นไม่มีท่านั่ง ท่านอน ท่ายืน ท่าเดิน แต่มีสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pornpaon
วันที่ 21 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ธรรมรักขิต
วันที่ 22 ส.ค. 2551

สติปัญญารู้การเกิด-ดับของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตาไม่เที่ยง จึงเป็นทุกข์ ที่เรียกว่าอิริยาบถปิดบังทุกข์เพราะในขณะที่กำลังนั่ง เดิน ฯลฯ ถ้าเมื่อไรไม่มีสติเกิด จึงไม่รู้สึกทุกข์ เพราะอิริยาบถปิดบังไว้ ครับ

ขอบคุณครับ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เมตตา
วันที่ 26 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ