ก่อนหลับไม่หลงลืมสติ...แม้ตื่นก็ระลึกสภาพธรรม

 
เมตตา
วันที่  9 พ.ย. 2553
หมายเลข  17495
อ่าน  1,341

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ในชีวิตประจำวัน ส่วนมากก็จะเพลิดเพลินไปกับรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธัมมารมณ์ จะเห็นว่าอกุศลจิตเกิดมากกว่ากุศลมาก...มากกว่าที่คิดไว้อีก มีหนทางที่จะให้กุศลจิตค่อยๆ เกิดขึ้นแทนอกุศลด้วยการอบรมเจริญสติปัฏฐาน ขณะที่สติเกิดขึ้นพิจารณาใส่ใจที่ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรมที่กำลังปรากฏ ขณะนั้นก็ไม่เพลิด-เพลินไป ไม่ติดในรูป เสียง...และธัมมารมณ์ได้เลย ผู้มีปกติอบรมเจริญสติปัฏฐาน แม้สติปัฏฐานยังไม่เกิด แต่เป็นผู้ศึกษาพิจารณาในลักษณะสภาพธรรมเนืองๆ แม้ก่อนหลับไม่หลงลืมสติ เพราะอาจกำลังพิจารณาสภาพธรรมตามที่ได้ฟังได้ศึกษามา แม้ขณะตื่นขึ้นมาก็ไม่หลงลืมสติพิจารณาสภาพธรรมที่กำลังปรากฏได้ ตรงกันข้ามกับผู้ที่ไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่ได้อบรมเจริญความเข้าใจในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ก่อนหลับก็หลงลืมสติ แม้ตื่นขึ้นมาก็อาจสงสัยว่า เราอยู่ที่ไหน....เวลาเหลือน้อยเข้ามาทุกขณะที่จะเข้าใจธรรม ท่านอาจารย์เตือนอยู่เสมอว่า คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจในสิ่งที่มีอยู่จริงๆ ที่กำลังปรากฏขณะนี้ ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อน ให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงให้ถูกต้อง

ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Yongyod
วันที่ 10 พ.ย. 2553

จะพยามยามไม่ประมาทในกุศล รึอกุศล แม้เพียงเล็กน้อย เพราะรู้ว่า ความเพียรเป็น ธรรมะอย่างหนึ่งที่ช่วยทำให้ถึงฝั่ง

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เมตตา
วันที่ 10 พ.ย. 2553

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณ Yongyod ค่ะ

ความเพียร หรือ วิริยเจตสิกนั้นเกิดร่วมกับกุศลจิตและอกุศลจิต ในขณะที่กุศลจิตเกิด ขณะนั้นก็ประกอบด้วยความเพียรคือ เพียรชอบแต่ขณะใดที่อกุศลจิตเกิด ขณะนั้นเป็นความเพียรผิดค่ะ

เชิญคลิกอ่านเพิ่มได้ที่...

ความเพียรทีแยบคายต้องเป็นปกติ

พึงทำความเพียรเสียในวันนี้ [ภัทเทกรัตตสูตร]

ปรารภความเพียรมีทั้งอกุศลและกุศล [วัชชิยสูตร]

เราไม่พักอยู่ ไม่เพียรอยู่ ข้ามโอฆะได้แล้ว [โอฆตรณสูตร]

ความเพียร ท่านเรียกว่า อารัมภะ

เชิญคลิกฟังได้ที่...

การปรารภความเพียร

ความเพียรผิด กับ ความเพียรถูก

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Noparat
วันที่ 10 พ.ย. 2553

เวลาเหลือน้อยเข้ามาทุกขณะที่จะเข้าใจธรรม

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่เมตตา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 10 พ.ย. 2553

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาด้วยครับ

เมื่อสองวันที่ผ่านมา เพื่อนที่เคยได้สนทนากัน ได้บอกว่า จากการที่เคยคิดว่า ไม่รู้จะมีชีวิตไปอยู่เพื่ออะไร ในทำนองว่า ลูกก็โตแล้ว ชีวิตก็ซ้ำซากจำเจ ไม่มีเป้าหมาย แต่หลังจากที่ข้าพเจ้าเคยบอกว่า ก็มีชีวิตอยู่เพื่อการสะสม อบรมเจริญปัญญา เขาบอกว่า เขารู้สึกว่าชีวิตมีค่า มีความหมายขึ้นมาทันที แต่ก็อย่างที่ท่านเจ้าของกระทู้ ได้กรุณาแสดงไว้ในความเห็นที่ ๒ นะครับ

แม้เข้าใจว่า มีชีวิตอยู่เพื่อการอบรมเจริญปัญญา แต่ก็ต้องเป็นไปด้วยความเห็นถูก เข้าใจถูก เพียรถูก ในหนทางปัญญาที่ได้สะสมไว้ จึงจะเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริงของแต่ละบุคคล ในสังสารวัฏฏ์ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 10 พ.ย. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chaiyut
วันที่ 10 พ.ย. 2553

ขอขอบคุณและอนุโมทนาครับ

หลับ...ตื่นขึ้นมาฟังธรรม...จนกว่าปัญญาจะรู้ว่าชีวิตนี้มีแต่ธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
สมศรี
วันที่ 12 พ.ย. 2553
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
khampan.a
วันที่ 12 พ.ย. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pamali
วันที่ 13 พ.ย. 2553

กราบอนุโมทนาท่านอจ. ขอขอบคุณ คุณเมตตา และทุกๆ ท่านค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Jans
วันที่ 15 พ.ย. 2553
ขอบคุณและขออนุโมทนาคะ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ