เห็นแสงในดวงจิต

 
แก้วธรรมา
วันที่  16 พ.ค. 2554
หมายเลข  18365
อ่าน  2,972

นั่งสมาธิแล้วเห็นแสงในดวงจิต เกิดจากอะไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 16 พ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของปัญญา ความเข้าใจถูก ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไร สิ่งใด

สำคัญคือในขณะนั้นทำให้ปัญญารู้อะไร เข้าใจถูกขึ้นหรือไม่ หรือกับเพิ่มความสงสัย

ความไม่รู้เพิ่มขึ้น เพราะสิ่งใดก็ตามเมื่อทำแล้วทำให้เกิดความสงสัย ความไม่รู้จะกล่าว

ว่าการกระทำสิ่งนั้นเป็นการเจริญขึ้นของปัญญาไม่ได้ ซึ่งพระธรรมของพระพุทธองค์ที

ทรงแสดงเพื่อให้ผู้ที่ได้ศึกษา ประพฤติปฏิบัติตามเจริญขึ้นด้วยปัญญาครับ

ขณะที่นั่งสมาธิ ขณะนั้นปัญญารู้อะไร และขณะที่เห็นแสงสว่างทำให้ปัญญาเกิดขึ้น

หรือไม่ ผู้ที่ทำจะต้องค่อยๆ พิจารณาในเหตุผลครับว่าการจะทำอะไรซักอย่างจะต้องรู้จุด

ประสงค์ว่าทำเพื่ออะไร หากเพื่อให้ปัญญาเกิด แต่ขณะที่เป็นแสงสว่างใช่ปัญญาหรือไม่

และขณะที่สงสัยเป็นปัญญาหรือไม่ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 16 พ.ค. 2554

สำคัญคือจะต้องเริ่มจากความเห็นถูกขั้นการฟังว่า พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง

นั้นปัญญาจะต้องรู้อะไร ซึ่งพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงทรงสอนให้เข้าใจความ

จริงที่เป็นสัจจะว่า ทุกอย่างเป็นธรรมไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ บุคคลและก็ต้องเข้าใจว่า

อะไรคือธรรม เพราะในเมื่อต้องการถึงธรรมก็ต้องเริ่มจากขั้นการฟังว่าธรรมคือะไร หาก

ไม่รู้จักแม้ขั้นการฟังแล้วว่าธรรมคืออะไร จะถึงตัวธรรมจริงได้อย่างไร จะจับโจร จะต้อง

รู้ลักษณะของโจรด้วยครับว่าเป็นอย่างไร ธรรมคือสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ เห็นมีจริง เสียง

มีจริง คิดมีจริง แต่เราสำคัญผิดคิดว่ามีเราที่เห็น มีเราทีได้ยิน มีเราที่คิด ดังนั้นหนทาง

ในการอบรมปัญญาก็คือการไถ่ถอนความเห็นผิดว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคล เพราะในความ

เป็นจริงมีแต่ธรรม และธรรมก็มีจริงอยู่แล้วในขณะนี้ ดังนั้นหนทางในการจะถึงความเป็น

ธรรม หนทางนั้นทำอย่างไร นี่ก็คือเข้ามาสู่กระบวนการที่เรียกว่า การปฏิบัติก็ได้ครับว่า

ปฏิบัติอย่างไรจึงจะถูกต้องครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 16 พ.ค. 2554

ขณะนี้มีสภาพธรรม เห็นมีจริงมีอยู่ในชีวิตประจำวัน ได้ยินมีจริงเป็นธรรมมีในขณะนี้

คิดมีจริงมีในขณะนี้ การปฏิบัติที่ถูกที่จะถึงตัวธรรมที่ผมกล่าวมาจึงไม่ใช่ไปหาสถานที่

หรือเข้าห้องปฏิบัตินั่งสมาธิเลย เหตุผลเพราะในเมื่อธรรมมีอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน

สำคัญคือยังขาดปัญญาขั้นการฟังที่ยังไม่มากพอ แต่หากมีปัญญามากพอก็สามารถเกิด

ปัญญารู้ความจริงในขณะะนี้ได้ครับ รู้ความจริงว่าเป็นธรรมไม่ใช่เราดังนั้นจะต้องเข้าใจ

ใหม่ว่าการจะรู้ ปัญญาจะเกิดไม่ได้หมายถึงจะต้องไปนั่งสมาธิ ซึ่งจะทำให้เกิดความ

สงสัยเพิ่มขึ้นซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญญาเลยครับ แต่หนทางในการอบรมปัญญาคือเริ่มจาก

การฟังให้เข้าใจว่าขณะนี้มีธรรม ฟังว่าธรรมคืออะไร เมื่อฟังจนเข้าใจ ขณะที่เข้าใจขึ้น

ปัญญาก็เกิดขึ้นระดับหนึ่ง และเมื่อเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ ย่อมเป็นปัจจัยให้รู้ความจริงที่

เป็นธรรมในขณะนี้ รู้ว่าเป็ฯธรรมไม่ใช่เรา ขณะนั้นปฏิบัติแล้วครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 16 พ.ค. 2554

ถามว่าใครปฏิบัติไม่มีใครครับ มีแต่ธรรมที่ปฏิบัติหน้าที่คือสติและปัญญานั่นเอง

ดังนั้นปัญญาจะเกิดขึ้นไม่ใช่เพราะเหตุอื่นนอกจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เมื่อ

ฟังพระธรรมมากขึ้นปัญญาเกิด ปัญญาปฏิบัติเองครับ ขอให้เริ่มจากการฟังพระธรรม

ก่อนหากไปทำอย่างอื่นก็มีแต่จะเพิ่มความสงสัย ที่สำคัญไม่ใช่ปัญญาของเราเอง

แม้จะมีผู้บอกว่าอย่างนั้นอย่างนี้ในสิ่งที่เกิดกับเรา แต่ปัญญของเรากับไม่รู้อะไรเพราะ

ต้องอาศัยคนอื่นบอกเพราะฉะนั้นต้องเป็นปัญญาของตนเอง โดยเริ่มจากการฟังพระ

ธรรมที่ถูกต้อง เริ่มจากว่าธรรมคืออะไรครับ การเริ่มต้นที่ถูกแต่ช้าดีกว่า การเริ่มที่ผิดแต่

เต็มไปด้วยความไม่รู้และสงสัยครัขออนุโมทนาครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ...การอบรมปัญญา ไม่ใช่การนั่งสมาธิ

อยากฝึกทำสมาธิครับ

เรียนถาม เรื่องการเจริญสมาธิ

นั่งสมาธิและจิตมักคิดฟุ้งซ่านควรทำอย่างไรดี

แด่...ผู้เริ่มต้น

ธรรมะเป็นสิ่งที่มีจริง พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรม

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Thirachat.P
วันที่ 17 พ.ค. 2554

สวัสดีครับ

ผมก็เคยนั่งสมาธิครับ เมื่อยก็เมื่อย ปวดก็ปวด ร้อนก็ร้อน แถมคันตามตัว

นั่งหลับไม่ก็สัปหงก คิดอะไรๆ เคลิ้มไปจนไม่รู้สึกตัวก็มี ไม่เห็นว่าสมาธิเกิดยังไง

ก็นั่งไปงั้นๆ สรุปแล้วไม่นั่งไม่เนิ่งมันแล้ว นั่งสมาธิหรือไม่นั่งก็พอๆ กัน กับเดิน ยืน

นอนกินข้าว ซักผ้า กวาดบ้าน ถูบ้าน ดูหนัง ฟังเพลง คุยโทรศัพท์ ชอปปิ้ง ฯลฯ

ปัจจุบันหันมาศึกษาธรรมเป็นหลัก เพื่อเข้าใจความจริง เพราะสมาธิ

เป็นเพียงบางส่วนของความจริงครับ ผมเลือกที่จะเข้าใจทั้งหมด ไม่เลือกเข้าใจ

สมาธิอย่างเดียวครับ

เพราะเมตตา สงสาร เห็นใจ ที่ไปผิดทาง เขียนมาอาจมีประโยชน์ต่อท่าน

นะครับ

ด้วยความเคารพอย่างสูง

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 17 พ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เป็นเหตุเป็นผล ทำให้ผู้มีโอกาสได้ฟังได้ศึกษา มีความเข้าใจถูก เห็นถูก เป็นปัญญาของตนเอง จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงเห็นประโยชน์ของพระธรรม ถึงแม้ว่าจะลึกซึ้งละเอียดมาก แต่ผู้ที่สะสมปัญญาสะสมบุญมาตั้งแต่ชาติปางก่อน สามารถที่จะเข้าใจตามความเป็นจริงได้ พระองค์จึงทรงแสดงพระธรรมประกาศพระศาสนาเกื้อกูลแก่สัตว์โลก เป็นเวลาถึง ๔๕ พรรษา พระธรรมแต่ละคำมีคุณค่ามาก เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก แสดงให้เข้าใจถึงสิ่งที่มีจริง ที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า เป็นธรรม เพราะธรรมมีจริงในชีวิตประจำวัน แต่เพราะถูกปกคลุมอย่างมิดชิดด้วยอวิชชา (ความไม่รู้) จึงไม่เข้าใจธรรมตามความเป็นจริง พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ได้ทรงสอนให้ใครไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ เนื่องจากว่าถ้าเริ่มต้นด้วยความไม่รู้ ด้วยความเข้าใจผิดแล้ว ก็จะเป็นการเพิ่มพูนความไม่รู้และอกุศลธรรมประการต่างๆ ต่อไป เพราะฉะนั้น จึงควรตั้งต้นด้วยการเริ่มฟังพระธรรม ว่า สิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง นั้น คือ อะไร พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาหรือคำสอนของผู้ที่มีปัญญาสูงสุด คือ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า หนทางที่จะเป็นไปเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงตามพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง โดยไม่ผิด โดยไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงนั้น คือ ต้องฟัง ต้องศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบ ค่อยๆ สะสมปัญญาไปตามลำัดับ ชาวพุทธที่ดี ต้องฟังพระธรรม ไม่ควรไปทำอะไร ด้วยความไม่รู้ ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chaiyut
วันที่ 17 พ.ค. 2554

ขณะนี้ไม่นั่งสมาธิ แต่ก็มีสีมากมายหลายสี มีความสว่าง มีการเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตามีอยู่ต่อหน้าเลยนะครับ .....สิ่งเหล่านี้น่าสนใจที่จะเรียนรู้กว่าไหมครับ ว่าทั้งหมดเป็น

ความจริงแต่ละอย่างในชีวิตประจำวันโดยปกติของเราเอง ที่เราไม่ต้องขวนขวาย ไม่ต้องแสวงหา ไม่ต้องเหนื่อยสร้าง หรือไปทำอะไรกับสิ่งเหล่านี้เลย แต่ก็มีจริง อยู่กับตัวอยู่ที่ตัว อยู่ใกล้ตัว แต่ที่เราไม่รู้ คือ ไม่รู้ว่าไม่ใช่ตัว เพราะเป็นธรรมะ ธรรมะคือสิ่งที่มีจริง ธรรมใดก็ตามที่มีจริง เมื่อเกิด ต้องเกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่เป็นของใครทั้งสิ้น เกิดแล้วก็ดับ ไม่เที่ยง ดับแล้วก็หมดไป สูญจากความเป็นตัวตน แล้วก็มีธรรมะใหม่เกิดอีก ธรรมะเป็นสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ มีให้เรียนให้ศึกษาให้เข้าใจครับ สนใจเรียนไหมครับ ถ้าสนใจ ผมแนะนำให้ลองฟังธรรมในเว็บนี้บ่อยๆ ดูนะครับ มีประโยชน์แน่นอนถ้าเห็นประโยชน์ เห็นประโยชน์เมื่อไร จะตั้งใจฟัง จะอดทนฟัง จะฟังด้วยความเคารพจะฟังด้วยจุดประสงค์อย่างเดียว คือ เพื่อเข้าใจถูกในธรรมะที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
พรรณี
วันที่ 18 พ.ค. 2554

ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ

ถ้าต้องการรู้ว่าศาสนาพุทธสอนอะไร ต้องเริ่มต้นจากการศึกษาอบรบให้เกิดความเข้าใจก่อน ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาของท่านแล้วว่าจะปฏิบัติได้มากน้อยอย่างไร หลายๆ คนยังเข้าใจว่าศาสนาพุทธสอนให้นั่งสมาธิเพื่อทำให้จิตสงบ แล้วเวลาที่ไม่ได้นั่งละกิเลสรุมเร้าจะทำอย่างไร?

ทั้งนี้และทั้งนั้นดิฉันได้เริ่มฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ จึงได้ถึงบางอ้อ และจะขอฟังพระธรรมให้เกิดความเข้าใจต่อไปค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ