มือที่มองไม่เห็น [ชนสันธชาดก]
มือที่มองไม่เห็น และความจริงของกรรม
ไม่ว่าใครหรือเมื่อไร ถ้าทำกรรมนั้น ผลอย่างนั้นต้องเกิด เวลาที่ได้รับผลของกรรม เราไม่สามารถรู้จัก “มือที่มองไม่เห็น” คือ “กรรม” ที่ทำได้ทุกอย่าง ซึ่งไม่เคยคิด หรือ ไม่น่าจะเกิดขึ้นเป็นไปอย่างนั้นในจุดนั้น หรือสถานการณ์นั้น แต่กรรมก็ทำได้ทุกอย่าง ซึ่งถ้าเป็นสิ่งดีก็ให้ผลดี ถ้าเป็นสิ่งไม่ดีก็ให้ผลไม่ดี ทุจริตกรรม เช่น การเผาทำลายทรัพย์สมบัติผู้อื่น การทำร้าย ไม่ว่าจะเป็นใคร สถานที่ใดเกิดขึ้น เพราะขณะนั้นอกุศลเกิด ไม่มีคน หรือใครทั้งนั้น นอกจากธรรม ทุกอย่าง คือ จิต เจตสิก รูป แต่ถ้ากุศลเกิด ก็มีเมตตา ไม่ว่ายุคสมัยใด ธรรมก็เป็นจริงอย่างนั้น ถ้าปัญญาเกิดขึ้น ก็สามารถเห็นถูกตามจริงในอกุศลว่าเป็นอกุศล เป็นทุจริต แม้ทางกาย หรือทางวาจาเกิด ก็เว้นได้
อ่านข้อความเตือนสติ ทั้งหมดจากชนสันธ ชาดก..
[เล่มที่ 17] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๗๔๖
ข้อความบางตอนจาก
สติปัฏฐานสูตร
เมื่อพระโยคาวจร พิจารณาเห็นว่าคนและคนอื่นมีกรรมเป็นของตน อย่างนี้ว่า เจ้าโกรธเขาแล้ว จักทำอะไรได้ เจ้าจักสามารถทำคุณธรรมมีศีลเป็นต้น ของเขาให้พินาศได้หรือ เจ้ามาตามกรรมของตนแล้ว ก็จักไปตามกรรมของตนนั่นเอง มิใช่หรือ ชื่อว่า การโกรธคนอื่นเป็นเหมือนกับการที่บุคคลประสงค์จะคว้าเอาเถ้าที่ปราศจากเปลว หลาวเหล็กที่ร้อนและคูถเป็นต้น ขว้างปาบุคคลอื่น ถึงเขาโกรธเจ้าแล้วก็จักทำอะไรให้ได้ เขาจักสามารถให้คุณธรรมมีศีลเป็นต้น ของเจ้าพินาศได้หรือ เขามาตามกรรมของตน ก็จักไปตามกรรมของตนเหมือนกัน ความโกรธนั้นก็จักตกรดหัวเขานั่นแหละ เหมือนของที่ส่งไป ไม่มีใครรับ (ก็จะกลับมาหาผู้ส่ง) และเหมือนกำฝุ่นที่ซัดไปทวนลม (ก็จะปลิวกลับมาถูกผู้ขว้าง) ฉะนั้น บ้างพิจารณาเห็นว่า ทั้งตนทั้งคนอื่น มีกรรมเป็นของตนและดำรงอยู่ในการพิจารณาบ้างคบหากัลยาณมิตร ผู้ยินดีในเมตตาภาวนาเช่นพระอัสสคุตตเถระบ้าง พยาบาทอันเธอย่อมละได้.
ขอเชิญคลิกฟังได้ที่...
...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณวิทวัส ด้วยค่ะ...