พระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้แล้วในโลกมีกี่พระองค์ครับ
แล้วอะไรเป็นเหตุปัจจัยให้ท่านเหล่านั้นมาตรัสรู้ครับ
พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเหมือนกันทุกพระองค์ไหมครับ
ผมขอทราบพุทธประวัติอย่างละเอียดหน่อยนะครับ
แล้วทำไมพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ถึงต้องมีอัครสาวกด้วยครับ
มูลนิธิฯ แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ไหนครับ
สุดท้ายครับอยากทราบประวัติอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ท่านเป็นใครมาจากไหนครับ
อย่างละเอียด
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้แล้วในโลกมีกี่พระองค์ครับ
- พระพุทธเจ้าตรัสรู้มาแล้วนับไม่ถ้วน เพราะ เบื้องต้นของสังสาวรวัฏฏ์ หรือ อดีตที่ผ่านมา นับชาติไม่ถ้วน จึงมีการอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้ามาแล้วในอดีต นับไม่ถ้วน เปรียบจำนวนพระพุทธเจ้าที่อุบัติแล้วในอดีต เหมือน จำนวนเม็ดทรายในน้ำแม่น้ำคงคา
แล้วอะไรเป็นเหตุปัจจัยให้ท่านเหล่านั้นมาตรัสรู้ครับ
- เหตุปัจจัยที่ทำให้พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ก็ต้องพูดถึงเหตุไกล คือ อาศัย พระมหากรุณา ที่จะช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ด้วย จึงทรง บำเพ็ญกุศลประการต่างๆ นั่น คือ บารมี ๑๐ โดยอาศัยปัญญาเป็นหัวหน้า
สรุปได้ว่า เพราะอาศัย พระมหากรุณา จึงทำกุศลประการต่างๆ จนได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ด้วยพระปัญญา คือ การเจริญอริยมรรคมีองค์ ๘
พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเหมือนกันทุกพระองค์ไหมครับ
- พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ทรงแสดงธรรมเหมือนกัน ในส่วนที่เป็นสัจจะ ความจริง ทั้งความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา และ ข้อปฏิบัติเพื่อถึงการดับทุกข์ เป็นต้น แสดงเหมือนกันหมด เพราะ ว่า สิ่งที่พระองค์ทรงตรัสรู้ เป็นความจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ คือ สภาพธรรมที่มีจริงที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์และเป็นอนัตตา ไม่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใด ตรัสรู้ ก็ตรัสรู้ความจริงที่ไม่เปลี่ยนลักษณะไปตามกาลเวลา ครับ
พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง จึงเหมือนกัน ในส่วน หลักความจริงที่เป็นอริยสัจ ๔ หนทางการดับทุกข์ เป็นต้น แต่อาจแตกต่างกันตรงปลีกย่อย ในชื่อของบุคคล สถานที่ได้
ผมขอทราบพุทธประวัติอย่างละเอียดหน่อยนะครับ
ขอเชิญคลิกอ่านที่
เชิญคลิกฟังพุทธประวัติที่นี่ครับ
แล้วทำไมพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ถึงต้องมีอัครสาวกด้วยหละครับ
- ส่วนเหตุผลที่มี คู่อัครสาวก นั้น เหตุผลที่ว่า ความจริง เมื่อพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงตรัสรู้ที่จะให้ผู้อื่นรู้ตาม ดังนั้น ก็ต้องมีผู้ที่ตรัสรู้ตาม เรียกว่า สาวก ซึ่ง สาวก ก็มีหลายระดับ จึงเป็นอัครสาวก อัคร แปลว่าเลิศ ประเสริฐ สาวกผู้เลิศที่สุด จึงต้องมีด้วย ตามระดับของสาวก ผู้สำเร็จคุณธรรม ท่านพระสารีบุตรเป็นอัครสาวก ผู้เลิศด้วยปัญญา ท่านพระมหาโมคคัลลานะ เป็นอัครสาวกผู้เลิศทางฤทธิ์ เพราะ อาศัยสองท่านนี้เป็นกำลังหลัก ในการช่วยเผยแพร่พระธรรมให้รุ่งเรือง และ ช่วยสัตว์โลกในการเผยแพร่คำสอนและได้บรรลุธรรมตามพระพุทธเจ้า ดังนั้น การมีอัครสาวก ก็ด้วย เพื่อเผยแพร่พระธรรมและให้สัตว์โลกรู้ตาม ดังเช่น พระพุทธเจ้า ดังมีชื่อ พระสารีบุตรว่า พระธรรมเสนาบดีสารีบุตร ที่เป็นเหมือน เสนาบดีที่ช่วย กษัตริย์ คือ พระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้า ตรัสว่าสารีบุตร เป็นผู้หมุนธรรมจักร คือ ธรรมของเราให้เป็นไป คือ เผยแพร่พระธรรมของเราให้เป็นไป ครับ
ดังนั้น สรุปได้ว่า ที่มี อัครสาวก เพราะ จะต้องมีผู้สำเร็จเป็นสาวกผู้เลิศ ตามระดับของคุณธรรมของสาวก และ จะต้องมีผู้เผยแพร่พระธรรม เป็นกำลังหลัก เพื่อให้สัตว์บรรลุธรรม ด้วย ครับ
มูลนิธิแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ไหนครับ
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา เลขที่ ๑๗๔ /๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐ โทรศัพท์หมายเลข ๐๒ ๔๖๘ ๐๒๓๙
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ
ประวัติความเป็นมาของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
ข้อบังคับของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา [มศพ.]
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
สุดท้ายครับอยากทราบประวัติ อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ท่านเป็นใครมาจากไหนครับ อย่างละเอียด
ประวัติท่าน อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์
เกิด ๑๓ มกราคม ๒๔๖๙ ที่จังหวัดอุบลราชธานี เป็นบุตรีของหลวงบริหารวนเขตต์ (ฉัตร ชูเกียรติ) และนางบริหารวนเขตต์ (เจริญ ปุณสันถาร)
การศึกษา
- ระดับประถมและมัธยม โรงเรียนเซนต์แมรี่ ถนนสาธรใต้
- ระดับมัธยมตอนปลาย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ระดับอุดมศึกษา คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจนถึงชั้นปีที่ ๒
การทำงาน
- สอนหนังสือที่โรงเรียนดาราวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
- สอนภาษาไทยให้กับชาวต่างประเทศที่โรงเรียนของมิชชันนารี่
- สอนภาษาไทยที่โรงเรียนของตนเอง ชื่อ Thai Language School (โรงเรียนไทยศึกษาสัมพันธ์)
การศึกษาธรรม
- พ.ศ. ๒๔๙๖ ศึกษาพระอภิธรรมที่พุทธสมาคม กับท่านอาจารย์แนบ มหานีรานนท์, ท่านอาจารย์บุญมี เมธางกูร, คุณพระชาญบรรณกิจ, คุณหญิงระเบียบ สุนทรลิขิต
การเผยแผ่ธรรม
- พ.ศ. ๒๔๙๙ บรรยายธรรมที่สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ และทัณฑสถานหญิงคลองเปรม
- พ.ศ. ๒๕๐๖ บรรยายพระอภิธรรมที่ศูนย์ค้นคว้าทางพระพุทธศาสนาและสมาคมสงเคราะห์ทางจิต
- พ.ศ. ๒๕๑๐ - พ.ศ. ๒๕๑๙ บรรยาย “แนวทางเจริญวิปัสสนา” ที่ตำหนักสมเด็จ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์
- พ.ศ. ๒๕๑๙ - พ.ศ. ๒๕๔๓
บรรยาย ”แนวทางเจริญวิปัสสนา” ที่มหามกุฏราชวิทยาลัย วัดบวรนิเวศวิหาร
บรรยายพระอภิธรรมแก่ชมรมพุทธศาสตร์ของสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, โรงเรียนนายเรืออากาศ เป็นต้น รวมทั้งหน่วยงานราชการหลายแห่ง เช่น กองบิน ๒ จังหวัดลพบุรี, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
นอกจากนี้ยังได้ร่วมสนทนาและตอบปัญหาธรรม แก่พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งใน กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด
- พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้รับเชิญไปสัมมนาธรรมที่ประเทศศรีลังกา
- พ.ศ. ๒๕๓๔, พ.ศ. ๒๕๓๕ และ พ.ศ. ๒๕๔๓ สนทนาธรรมที่ประเทศกัมพูชา
- พ.ศ. ๒๕๔๑, พ.ศ. ๒๕๔๓, พ.ศ. ๒๕๔๕ สนทนาธรรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
- พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้รับเชิญจากคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมสภาผู้แทนราษฎร ให้บรรยาย เชิงอภิปราย เรื่อง “การสนทนาธรรม เพื่อการรู้จักตนเอง”
- พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับเชิญไปสนทนาธรรมที่ประเทศภูฏาน
- พ.ศ. ๒๕๔๓ สนทนาธรรมที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา จนถึงปัจจุบัน
ผลงาน
- หนังสือ, เทป, แผ่นซีดี, แผ่นเอ็มพี ๓ ตามแนวทางพระไตรปิฎก จากการบรรยายธรรมและการสนทนาธรรม
เกียรติประวัติ
- พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้รับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในฐานะที่ได้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา
- วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๔๕ ได้รับปริญญาศาสนศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พุทธศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
- วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๐ ได้รับรางวัลสตรีดีเด่นในพระพุทธศาสนา เนื่องในวันสตรีสากลขององค์การสหประชาชาติ
- วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๑ ได้รับปริญญาศาสนศาตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพุทธศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
- วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๒ ได้รับโล่และประกาศเกียรติคุณรางวัลพุทธคุณูปการ ระดับกาญจนเกียรติคุณ ลงนามโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ประธานคณะกรรมการผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช) และ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาและประธานผู้แทนราษฎร ดำเนินการโดยคณะกรรมมาธิการ การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมสภาผู้แทนราษฎร
ปัจจุบัน
-ประธานกรรมการ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
ขออนุโมทนา
กราบขอบพระคุณอาจารย์ผเดิมครับ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่ท่านได้กรุณาเกื้อกูลให้ผู้อื่นมีความเข้าใจธรรมมากว่าครึ่งศตวรรษ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์ ทรงเป็นบุคคลผู้เลิศ ผู้ประเสริฐที่สุดในโลก กว่าที่พระองค์จะได้ตรัสรู้นั้น ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาเป็นเวลาที่นานมาก พระคุณของพระองค์นั้นมีมากมาย พระองค์ทรงอุบัติขึ้นในโลกเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง ด้วยการทรงแสดงพระธรรม ประกาศความจริงให้สัตว์โลกได้เข้าใจตามความเป็นจริง เป็นผู้หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง พระบารมีทั้งหมดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญมาก็เพื่อที่จะอุปการะเกื้อกูลแก่สัตว์โลก ที่จะได้ตรัสรู้ตามพระองค์ เป็นสาวก ผู้ที่เป็นสาวก ไม่ว่าจะระดับใดก็ตาม ล้วนต้องเป็นผู้ที่ได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง และที่สำคัญ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ทรงแสดงนั้น ไม่มีความแตกต่างกันเลย เหมือนกันทั้งหมด แสดงถึงสิ่งที่มีจริงทุกอย่างทุกประการตามความเป็นจริง และเป็นพระธรรมที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ได้ฟัง ได้ศึกษา และมีความเข้าใจ อย่างแท้จริง เพราะเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อละอกุศล เป็นไปเพื่อดับทุกข์โดยประการทั้งปวง เป็นไปเพื่อการไม่เกิดอีกในสังสารวัฏฏ์
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นี้ คือ พระสมณโคดม ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอดระยะเวลาสี่อสงไขยแสนกัปป์ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานอย่างยิ่ง เพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าซึ่งจะได้เกื้อกูลสัตว์โลกให้หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลก จึงทรงแสดงพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้โปรดเวไนยสัตว์ ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา ทรงพร่ำสอนอยู่บ่อยๆ เนืองๆ ก็เพื่อให้ผู้ฟังมีความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงจนกระทั่งสามารถดับกิเลสทั้งปวงได้ในที่สุด มีผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง มากมาย นับไม่ถ้วน ครับ
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นผู้ที่เกิดมาเพื่อศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง และ เผยแพร่พระธรรม เพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นอย่างแท้จริง ตั้งแต่ที่ท่านเริ่มศึกษาพระธรรม ปี พ.ศ. ๒๔๙๖ และ ผ่านมาอีก ๓ ปี คือ ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ก็เริ่มเผยแพร่พระธรรม จนถึงปัจจุบันนี้ คุณประโยชน์มากมายที่ท่านได้กระทำไว้ในพระพุทธศาสนา ทั้งหมดนั้น ก็เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกของผู้ที่มีโอกาสได้ฟัง เป็นสำคัญ
"ห้าสิบกว่าปี ที่อุทิศทั้งกายและใจ ไม่ว่าอยู่หนแห่งใด มุ่งทำประโยชน์ไป ไม่เคยเหนื่อยล้า ที่ทำอย่างนี้ ไม่หวังสิ่งใดตามมา นอกจาก หนึ่งเดียวคือว่า ผู้ฟังนั้นเกิดปัญญา"
(บางตอนจาก ... กราบเท้าบูชาคุณ)
ท่านอาจารย์สุจินต์ เกิดมาเพื่อชนทั้งหลายไม่ว่าอยู่หนแห่งใด ไม่เคยละเว้นโอกาสสอนพร่ำ สอนสิ่งมีจริง ไม่มีตัวตนอยู่เป็นประจำ ธรรมะทุกคำ ย้ำให้เข้าใจ อย่าได้ลืมหลง
ขอกราบบูชา พระคุณท่าน ที่มีมากล้น เป็นผู้ขจัดความมืดมน คือ ความไม่รู้ ให้เบาบางลง คอยเติมปัญญา แทนอวิชชา อย่างมั่นคง เตือนให้รู้ จุดประสงค์ การศึกษาสำหรับทุกคน
(บางตอนจาก .... เพราะมีท่านอาจารย์)
สิบสามมกรา พอศอ สองสี่หกเก้า เป็นบุญของพวกเรา ผู้ใฝ่ใจศึกษาธรรม เป็นวันที่ ผู้มีบุญค้ำจุนหนุนนำ ได้เกิดมาเพื่อศึกษาพระธรรม และเผยแพร่ ด้วยจิตไมตรี กาลเวลา ผ่านไป อย่างไม่สูญเปล่า ตั้งแต่ปี สองสี่เก้าเก้า เรื่อยมาจนถึงบัดนี้ ทั้งเช้าทั้งเย็น บำเพ็ญเพื่อประโยชน์ทุกที่ ทำให้ผู้สะสมมาดี ได้ฟังธรรม อบรมปัญญา
ท่านอาจารย์สุจินต์ ผู้หญิงหมายเลขหนึ่ง ทุกคนต่างซาบซึ้ง สรรเสริญในความเมตตา เสียสละยิ่งกว่าใคร เป็นผู้ให้ตลอดเวลา มอบให้ สิ่งที่มีค่า อันยิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทอง อายุมั่นขวัญยืน ทุกวันคืน เป็นสุขสบาย นี่คือ ความจริงจากใจ ของหญิงชายลูกศิษย์ทั้งผอง มอบผ่าน ถ้อยคำ เรียงร้อยด้วยใจกลั่นกรอง สิบนิ้วขอประคอง น้อมก้มกราบบูชาพระคุณ.
(ทั้งหมดจาก .... ผู้หญิงหมายเลขหนึ่ง)
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...