ผู้ที่เคยบวช รักษาศีล ต่อมา ฆ่าตัวตาย เค้าอยู่ที่ไหนเหรอคะ
บวชตลอดเลยค่ะ ตอนเด็กทุกซัมเมอร์
เคยถามเค้าเคยบอกว่าวัดเงียบดี
ต่อมาเค้าโตขึ้น ไม่สามารถแก้ปัญหาโดยไม่คิดเรื่องนี้ได้ ก่อเป็นความเครียดมา รุนแรงจนกระทั่งเค้าทำการฆ่าตัวตายมาสำเร็จ แม้หลังๆ เค้าโชว์มีความไม่เลื่อมใสในศาสนา เกิดจากมีข่าวไม่งามของบุคคลที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมในวัด และ อื่นๆ เคยตักเตือน ให้พิจารณาแล้วด้วยเช่นเดียวกัน เป็นบุคคลที่มารยาทดีกับผู้อื่น พูดดี ต่อ ผู้อื่น แต่กับตัวเองจะเป็นอีกแบบนึง สงสารน้องมากค่ะ
ตอนนี้พยายามทำบุญไปให้ แต่จิตไม่นิ่ง ทำไม่ค่อยถูก อยากช่วยเค้าค่ะ
ขอคำแนะนำ
อีกอย่างนึงพระองค์ที่ปฏิบัติบางท่านที่เป็นที่น่านับถือ ได้บอกว่าต้องวิปัสสนาเท่านั้น ไม่แน่ใจว่าเป็นการตีความที่ผิดของผู้ที่นมัสการหรือไม่
หนังสือธรรมะ ที่สอนจริงๆ ต้องหาได้ที่ใดคะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความตายเป็นสิ่งธรรมดาของสัตว์โลก ที่เมื่อเกิดแล้วก็มีความตายเป็นธรรมดา ซึ่งภพภูมิข้างหน้าของบุคคลอื่น ไม่สามารถที่จะล่วงรู้ได้เลย ว่าบุคคลนั้น ไปเกิดในภพภูมิอะไร ที่ไหน เพราะ ต้องเป็นผู้มีปัญญา มีพระพุทธเจ้า เป็นต้น ที่จะทรงรู้ว่าบุคคลนั้นที่ตายจากโลกนี้ไป ไปเกิดเป็นอะไร ครับ
สัตว์ทั้งหลายจึงมีกรรมเป็นของๆ ตน ตราบใดที่ยังมีกิเลส ก็ยังเกิดอกุศลจิต เกิดการกระทำที่ไม่ดีได้เป็นธรรมดา แม้แต่การฆ่าตัวตาย ก็เป็นธรรมดาที่ยังจะต้องมี ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชนที่ยังหนาด้วยกิเลส ไม่เว้นแม้แต่พวกเราทั้งหลาย ที่ก็จะต้องเคยฆ่าตัวตายมาแล้วในอดีตนับชาติไม่ถ้วน ในสังสารวัฏฏ์ที่ยาวนาน นับชาติไม่ได้ ครับ
ประโยชน์ ในการพิจารณา ความจริงที่เกิดขึ้นไม่ว่ากับใคร คือ น้อมเข้ามาในตนเองว่า แม้เราก็ยังเต็มไปด้วยกิเลส และ ยังทำสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ เป็นธรรมดา และ ก็ไม่พ้นไปจากความตายเลย ตราบใดที่ยังมีเหตุ คือ กิเลสที่ยังมีอยู่ ควรศึกษา อบรมปัญญาของตนเองเป็นสำคัญ ไม่ประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ มากขึ้น และ ทำกุศลกับ ผู้ที่จากไปแล้ว ด้วยการทำบุญประการต่างๆ มีการให้ทาน เป็นต้น แล้วอุทิศส่วน
กุศลไปให้กับผู้ที่ตายไปแล้ว หากผู้ที่จากไปแล้วอยู่ในฐานะที่จะสามารถได้รับส่วนบุญได้ คือ เกิดเป็นเปรต เป็นต้น ก็ย่อมได้รับประโยชน์ ครับ
การร้องไห้ หรือ ความเศร้าโศกไม่เป็นประโยชน์กับผู้ตาย แต่การอุทิศส่วนกุศลไปให้ ย่อมเป็นประโยชน์ ครับ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้าที่ 568
๘. อนนุโสจิยชาดก
[๖๑๑] ถ้าบุคุคลจะพึงเศร้าโศก ถึงความตาย อันจะไม่เกิดมีแก่สัตว์ ผู้เศร้าโศกนั้น ก็ควรจะเศร้าโศกถึงตน ซึ่งจะต้องตกไปสู่อำนาจของมัจจุราชทุกเมื่อ.
[๖๑๒] อายุสังขารหาได้เป็นไปตามเฉพาะสัตว์ที่ยืน นั่ง นอน หรือเดินอยู่ เท่านั้น ก็หาไม่ วัยย่อมเสื่อมไปทุกขณะ ที่ยังหลับตาและลืมตาอยู่.
[๖๑๓] เมื่อวัยเสื่อมไปอย่างนั้นหนอ ในตน ซึ่งเป็นทางอันตรายนั้นหนอ ต้องมีความพลัดพรากจากกันโดยไม่ต้องสงสัย หมู่สัตว์ที่ยังเหลืออยู่ ควรมีเมตตาเอ็นดูกัน ส่วนที่ตายไปแล้ว ไม่ควรจะต้องเศร้าโศกถึง.
ส่วนประเด็นเรื่องการทำบุญไปให้ผู้ตาย จะต้องวิปัสสนาเท่านั้น อันนี้ไม่ตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ครับ
กุศลทุกๆ ประการ ไม่ว่าทาน ศีล ภาวนา สามารถอุทิศส่วนกุศลไปให้กับผู้ที่จากโลกนี้ไปได้ ครับ
ส่วนประเด็นเรื่องต้องการหาอ่านหนังสือ
เชิญคลิก อ่าน หนังสือ ดาวน์โหลดได้ที่นี่ ครับ
ขออนุโมทนา ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
บุคคลที่เกิดมาแล้ว ย่อมไม่พ้นไปจาก ความตาย ได้เลย ไม่มีใครสามารถเอาชนะความความตายได้ด้วยเวทมนต์คาถา ด้วยการสู้รบ หรือ แม้ด้วยทรัพย์ เมื่อเป็นเช่นนี้ บุคคลที่เห็นประโยชน์ของตน ย่อมมีความเข้าใจที่ถูกต้องว่าสิ่งที่ควรทำ คือ ประพฤติธรรม ไม่ประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ เท่าที่จะเป็นไปได้ สำคัญคือ ตรงนี้ คนอื่นไม่สามารถช่วยอะไรได้
ไม่มีใครสามารถทราบได้ว่าความตายจะมาถึงเมื่อไหร่ ความเป็นผู้ไม่ประมาทนั้นดีที่สุด เพราะเมื่อความตายมาถึง ไม่สามารถจะทำการต่อรองหรือผัดเพี้ยนได้ว่า จงรอก่อน ขอฟังธรรมก่อน ขอทำดีก่อน เป็นต้น
เพราะฉะนั้น มีชีวิตอยู่ก็เพื่อที่จะได้สะสมความดีและอบรมเจริญปัญญาต่อไป ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ....
คนที่สะสมความโกรธจนมีกำลัง และ ชอบฆ่าสัตว์ ทำให้อายุสั้น ทำให้ฆ่าตัวตายได้ และ ส่วนมากตายไปเกิดในอบายภูมิ แต่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าใครไปเกิดที่ไหน นอกจาก พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ว่าใครตายแล้วไปเกิดที่ไหน ค่ะ
สงสารน้องเหลือเกิน ป้า และ แม่ ทำใจไม่ได้เลย สิ่งที่เราทำจะไปสู่เค้าหรือไม่
ไปวัดมา แต่มีความวุ่นวาย ผู้คนที่ไปเค้าก็มาบอกว่าน้องไปเพราะเราส่วนนึง (เล่าให้เค้าฟังคร่าวๆ อ่ะคะ เรื่องที่เค้าเครียด) บอกว่าน้องไปเพื่อเตือนเราให้เข้าวัด เราฟังแล้วก็ไม่พอใจในใจ เพราะเรามาเพื่อน้อง แต่เค้ามาบอกว่าน้องไปเพื่อเรา
นั่งสมาธิ สวดมนต์ แผ่เมตตา เค้าก็มาตามพูดให้เราทำนั่นทำนี่เหมือนเป็นการทำงานของเรา ทำให้เรายิ่งไม่สงบ
ทำบุญยากเหลือเกิน เมื่อทำยาก ก็ยิ่งสงสารน้องไปอีก น้องเค้าต้องพึ่งเรา จะให้เราเข้มแข็งได้อย่างไร ยากเย็นเหลือเกิน
วิญญาณที่ตายไปด้วยเหตุนี้ บ้างก็ว่ายังไม่รู้ว่าตัวเองตาย ๗ วัน บ้าง ๓ วันบ้าง ๔๙ วันบ้าง
สรุปคือ เป็นอย่างไรเหรอคะ เพราะที่มีการเขียนตอบกันไปมาในเว็บ คือ จิตดับ เกิด (เร็วมาก) แล้วแต่จิตช่วงสุดท้ายก่อนตาย
แล้วสรุปเป็นอย่างไร
ศาสนาพุทธ มีเรื่องผีเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ยากแก่การเข้าใจ ผีมีจริงหรือไม่ แล้วเค้าอยู่ยังไง เรื่องเจ้าที่เจ้าทาง มีจริงหรือไม่ ขอความกระจ่างได้ไหมคะ
เรียนความเห็นที่ 5 ครับ
เมื่อตายแล้วเกิดทันที ครับ ไม่มีวิญญาณล่องลอย ส่วนที่เห็นเป็นผี ก็คือ บุคคลที่เกิดแล้วทันที ไปเกิดเป็นเปรต เป็นต้น ส่วนเจ้าที่เจ้าทาง ก็อาจเป็นเทวดาชั้นต้นก็ได้ แต่เราไม่สามารถรู้ได้ ครับ
สรุปได้ว่า วิญญาณล่องลอยไม่มี ตายแล้วเกิดทันที สำหรับผู้ที่เป็นปุถุชน ครับ
สรุปแล้วผี ที่แท้คือ เปรตนั่นเอง เปรตไม่ใช่ตัวสูงปากเล็กเหรอคะ หรือเรียกผีเป็นเปรตหมด
ผลบุญที่เค้าทำ เค้าได้รับตรงนี้ไหม ส่วนที่เราทำไปให้ การให้ทาน ต้องสวดมนต์ หรือ ส่งส่วนกุศลให้อย่างไร
เรียนความเห็นที่ 7 ครับ
เปรตมีหลากหลายลักษณะครับ และ สามารถเนรมิตรูปร่างกายต่างๆ ได้ ครับ
ส่วนการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ก็สามารถทำบุญโดยทำบุญให้ทานแล้วอุทิศ
บอกในใจได้ โดยไม่ต้องสวดมนต์ ครับ ถ้าเปรตรับรู้และอนุโมทนาก็ได้รับส่วนบุญ ครับ
แล้วการฆ่าตัวตาย ที่บอกว่าทำซ้ำๆ ย้ำๆ อยู่ไม่จบสิ้น นั้นคือ อย่างไรคะ
กล่าวว่า เมื่อตายไปแล้ว แต่ก็จะกระทำอยู่อย่างนั้นร่ำไป ใช่หรือไม่คะ
เรียนความเห็นที่ 9 ครับ
ไม่จำเป็นครับ ว่าเมื่อฆ่าตัวตายแล้ว จะต้องทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่จบสิ้น ตามแต่เหตุปัจจัยในแต่ละชาติ เพราะ ในสังสารวัฏฏ์ สัตว์โลกที่เป็นปุถุชน ก็เคยฆ่าตัวตายด้วยกันมาแล้วทั้งนั้น จะรู้ หรือ ไม่รู้ก็ตาม ด้วยอำนาจของกิเลส ครับ แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องมาฆ่าตัวตายอีก ติดต่อกันไปไม่มีที่สิ้นสุด ครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ
แล้วคนที่ตายไปแล้ว เค้ามาอยู่ใกล้ๆ เราไหมคะ เค้าเห็นเราไหมคะ สถานที่ใดที่เค้า
เข้าไม่ได้ วัด ที่ที่มีศาลพระภูมิ เวลาเราพูดกับเค้า เค้าได้ยินไหมคะ
เรียนความเห็นที่ 11 ครับ
เป็นสิ่งที่ไม่สามารถรู้ได้ ครับ
สิ่งที่สำคัญ คือ การอุทิศส่วนกุศลไปให้ และ เราก็ไม่รู้ว่าเขาเกิดในภพภูมิใดแน่นอน หากเกิดในนรก ก็ไม่สามารถมาหาได้ ครับ
นรกที่ว่า คือ สถานที่ใด แล้วที่มีคนเห็นในสถานที่ต่างๆ เป็นเรื่องคิดไปเอง หรือ เป็นภูมินรกของเขาเหรอคะ
เรื่องร่างทรง ที่วิญญาณเข้ามาเป็นเรื่องเชื่อถือได้หรือไม่
การแก้กรรมเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ใครที่ให้คำตอบกรรมของแต่ละบุคคลคะ
เรียนความเห็นที่ 13 ครับ
นรกที่ว่า คือ สถานที่ใด แล้ว ที่มีคนเห็นในสถานที่ต่างๆ เป็นเรื่องคิดไปเอง หรือเป็นภูมินรกของเขาเหรอคะ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ
นรก สวรรค์ ภพภูมิอื่น ที่มองไม่เห็น จะอธิบายกับผู้อื่นได้ไงว่ามันมีอยู่จริงๆ
เรื่องร่างทรง ที่วิญญานเข้ามาเป็นเรื่องเชื่อถือได้หรือไม่
เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ
การแก้กรรมเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ใครที่ให้คำตอบกรรมของแต่ละบุคคลคะ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ
การแก้กรรมด้วยวิธีทำบุญ ทำสังฆทาน แก้ได้หรือ
กรรมเก่าให้ผลในชาตินี้ได้หรือไม่ จะแก้กรรมได้หรือไม่
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
ขอสอบถามการจุดธูป ขอให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว มาเข้าฝันได้หรือไม่
การฝันในทางพระพุทธศาสนา มีเรื่องใดที่ถือเป็นจริงได้บ้าง
ขอสอบถาม การทำบุญวันศีล หรือ วันที่เป็น ๑๔ ค่ำ วิญญาณมารอรับผลบุญใช่หรือไม่ วันอื่นๆ ที่ไม่ใช่วันศีล เค้าทำบุญอุทิศไปให้เค้าไม่ค่อยได้ ใช่หรือไม่ แจ้งด้วยค่ะ
เรียนความเห็นที่ 17 ครับ
เปรต มีอยู่ตลอดเวลา ไม่เลือกวัน ครับ เพราะฉะนั้น เปรตไม่ต้องรอก็มีอยู่แล้ว ก็สามารถอุทิศวันไหนก็ได้ หากเปรตรู้ ที่เป็นญาติก็เกิดกุศลจิตอนุโมทนาได้ ครับ