อุชุปฏิปันโน - วิสาขาร้องเพลง - การงดเว้น - อดีตกรรม

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  16 ก.ย. 2556
หมายเลข  23618
อ่าน  1,671

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุุทธเจ้าพระองค์นั้น

จากการฟัง ชุด แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 0355

ขอเรียนถามดังนี้ค่ะ

๑. อุชุปฏิปันโน ประกอบด้วยคำใด แปลว่าอะไร เป็นธัมมะประการใดคะ

๒. การงดเว้น การละเว้น ภาษาบาลีคือคำใด แตกต่างกัน เป็นธัมมะประการใดคะ

๓. "วิสาขาร้องเพลง" มีเรื่องราวอย่างไร เป็นธัมมะประการใดคะ

๔. "อาศัยพระผู้มีพระภาคเท่านั้นที่ระลึกถึงอดีตกรรมได้" ผู้ที่ระลึกบางเรื่องในอดีตชาติก่อนๆ ได้ เป็นเพราะเหตุใด

ขอความละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยค่ะ

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาสำหรับคำอธิบาย และกุศลทุกประการของทุกท่านนะคะ ด้วยความเคารพ จาก ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี (ใหญ่ราชบุรี)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 16 ก.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

๑. อุชุปฏิปันโน ประกอบด้วยคำใด แปลว่าอะไร เป็นธัมมะประการใดคะ

อุชุปฏิปันโน แปลว่า ปฏิบัติตรง เป็นคุณธรรมของพระอริยงสงฆ์ เพราะเหตุว่า ท่านปฏิบัติธรรม ที่เป็นข้อปฎิบัติที่ตรงถูกต้อง นั่นคือ สัมมาปฏฺปทา ที่เป็นอริยมรรค มีองค์ 8 จนถึงการดับกิเลสได้ ข้อปฏิบัติที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงใน ขณะนี้ ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เป็นหนทางที่ตรง เพราะ ตรงต่อสภาพธรรมและตรงต่อ ความจริง และ สติ ปัญญที่เกิดขึ้น เป็นธรรมที่ตรง ไม่คดโกง ดั่งเช่นกิเลสที่คดโกง ดังนั้น อุชุปฏิปัณโณ การปฏิบัติตรง จึงเป็นคุณธรรม ที่ประเสริฐที่เป็นธรรมฝ่ายดี มี สติปัฏฐาน และ อริยมรรคมีองค์ ๘ ครับ

วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 301

ก็เพราะว่า สัมมาปฏิปทานั้น เป็นปฏิปทาตรง คือไม่คด ไม่โกงไม่งอ * อนึ่ง ปฏิปทา นั้นท่านเรียกว่าอริยญายะบ้าง และถึงซึ่งความนับ (ได้ชื่อ) ว่า สามีจิ เพราะเป็นปฏิปทาอันสมควรบ้าง เพราะเหตุนั้น พระอริยสงฆ์ผู้ดำเนินปฏิปทานั้น จึงได้ชื่อว่า อุชุปฏิปนฺโน (ปฏิบัติตรง) บ้าง ว่า ายปฏิปนฺโน (ปฏิบัติเป็นญายะ) บ้างว่า สามีจิปฏิปนฺโน (ปฏิบัติควร) บ้าง


ขอยกข้อความจากปันธรรม ดังต่อไปนี้

พระธรรมวินัยที่ได้ทรงแสดงไว้โดยละเอียดครบถ้วนทั้งพระวินัยปิฎก พระสุตตันต ปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก เพื่อเกื้อกูลพุทธบริษัทให้ศึกษา และเป็นผู้ตรงต่อธรรม วินัยจริงๆ การประพฤติปฏิบัติก็ต้องตรงต่อธรรมวินัย ผู้ที่จะเป็นพระอริยเจ้าต้องเป็น อุชุปฏิปันโน (ผู้ปฏิบัติตรง) ถ้าคดโค้ง หรือว่าคดโกง ไม่ตรงต่อธรรม ทั้งในความ เข้าใจทั้งในการประพฤติปฏิบัติ ก็ไม่สามารถที่จะเป็นอริยสาวกได้

อ้างอิงจาก ...ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๐๑

๒. การงดเว้น การละเว้น ภาษาบาลีคือคำใด แตกต่างกัน เป็นธัมมะประการใดคะ

การงดเว้น ที่เป็น วิรัติ หรือ วิรตี เป็นสภาพธรรมที่งดเว้นจากบาป ประการต่างๆ เช่น งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม เป็นต้น ซึ่งองค์ธรรมก็ได้แก่ วิรตีเจตสิก วิรตีเจตสิก วิรติ (การงด การเว้น การวิรัติ) + เจตสิก (สภาพที่เกิดกับจิต) เจตสิกที่ทำให้เกิดการงดเว้นจากบาป หมายถึง โสภณเจตสิก ๓ ดวง คือ สัมมาวาจา ๑ สัมมากัมมันตะ ๑ สัมมาอาชีวะ ๑

สัมมาวาจาเจตสิก เป็นสภาพที่งดเว้นจากวาจาทุจริต ๔๒

สัมมากัมมันตเจตสิก เป็นสภาพที่งดเว้นจากกายทุจริต ๓๓

สัมมาอาชีวเจตสิก เป็นสภาพที่งดเว้นจากอาชีพทุจริต ที่เป็นไปทางวาจา ๔ และทางกาย ๓

วิรตีเจตสิกทั้ง ๓ ดวงนี้ เกิดได้กับจิตเพียง ๑๖ ดวงเท่านั้น คือ เกิดได้กับมหากุศลจิต ๘ ดวง และโลกุตตรจิต ๘ ดวง วิรตีที่เกิดกับมหากุศลจิตจะเกิด ได้ทีละดวง ซึ่งเป็นไปในกุศลขั้นศีล เพราะอารมณ์ของวิรตีทั้ง ๓ นั้นต่างกันจึงเกิด ไม่พร้อมกัน ส่วนวิรตีที่เกิดกับโลกุตตรจิตจะต้องเกิดพร้อมกันทั้ง ๓ ดวง เพราะเป็น องค์ของอธิศีลสิกขาซึ่งทำกิจประหาณกิเลสเป็นสมุจเฉท และเพราะมีอารมณ์ คือ พระนิพพานอย่างเดียวกัน

๓. "วิสาขาร้องเพลง" มีเรื่องราวอย่างไร เป็นธัมมะประการใดคะ

นางวิสาขา ท่านเป็นผู้เลิศในการให้ทาน เป็นผู้ปรารถนา ตำแหน่งนี้ ตั้งแต่เมื่อ แสนกัปที่แล้ว เมื่อพระพุทธเจ้าองค์ก่อน เมื่อมาในสมัยพระพุทะเจ้าเรา ได้บรรลุเป็น พระโสดาบัน มีศรัทธา ทำบุญ มหาทาน ถวายกับ พระภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็น ประมุข และ ได้ถวายที่ดิน ทรัพย์ เพื่อสร้าง ปุพพาราม ที่เป็น วัดที่อยู่ของพระภิกษุ สงฆ์ และพระพุทธเจ้า เมื่อสร้างเสร็จ เกิดจิตโสมนัส ได้คิดว่า ความปรารถนา ตั้งใจ ของเราได้สำเร็จแล้ว ที่เราได้ทำบุญครั้งใหญ่ และ ได้ทำตามที่เคยปรารถนาไว้ เมื่อ สมัยพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ที่จะเป็นผู้เลิศในการให้ทาน เมื่อความปรารถนาท่าน สำเร็จ จึง ขับร้องด้วย คาถาที่ไพเราะว่า

"ความดำริของเราว่า เมื่อไร เราจักถวาย ปราสาทใหม่ ฉาบด้วยปูนขาวและดิน เป็นวิหารทาน ดังนี้ บริบูรณ์แล้ว. ความดำริของเราว่า เมื่อไร เราจักวายเตียงตั่งฟูกและหมอนเป็นเสนาสนภัณฑ์ ดังนี้ บริบูรณ์แล้ว ความดำริของเราว่า เมื่อไร เราจักถวายสลากภัต ผสมด้วยเนื้ออันสะอาด เป็น โภชนทาน ดังนี้ บริบูรณ์แล้ว ความดำริของ เราว่า เมื่อไร เราจักถวายผ้ากาสิกพัสตร์ ผ้าเปลือกไม้ และผ้าฝ้าย เป็นจีวรทาน ดังนี้ บริบูรณ์แล้ว ความดำริของเราว่า เมื่อไร เราจักถวายเนยใส เนยข้น น้ำผึ้ง น้ำมัน และน้ำอ้อย เป็นเภสัชทาน ดังนี้ บริบูรณ์แล้ว"

พระภิกษุได้ยินเสียงขับร้องของนางวิสาขา คิดว่านางเสียสติ ที่ขับร้องเป็นคาถา วนไปรอบปราสาทที่สร้างเสร็จ ภิกษุจึงกราบทูลเรื่องนี้ ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า ธิดาของเรา ไม่ได้เสียสติ แต่ เธอเกิดความดีใจ ที่กระทำบุญสำเร็จ ตามที่ตนได้ตั้ง ความปราถนาไว้ ซึ่งจะเป็นจิตประเภทอะไรที่ขับร้องนั้น ก็แล้วแต่ ซึ่งไม่สามารถจะ ไปรู้จิตของนางวิสาขาได้ หากแต่ว่าสามารถกล่าว ขับร้องด้วยกุศลจิต ที่ประกอบ ด้วยโสมนัสได้ เพราะเป็นการกล่าวถึง คุณความดี เป็นต้น ครับ

๔. "อาศัยพระผู้มีพระภาคเท่านั้นที่ระลึกถึงอดีตกรรมได้" ผู้ที่ระลึกบางเรื่องใน ในอดีตชาติก่อนๆ ได้ เป็นเพราะเหตุใด ขอความละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยค่ะ

- การระลึกชาติได้ ก็อาศัยเหตุปัจจัยหลายๆ ประการ ครับ อย่างการะลึกชาติได้ ของพระพุทธเจ้า เกิดจากปัญญาสูงสุด ที่ได้สมถภาวนาสูงสุด และ ปัญญาสูงสุด จึงระลึกชาติได้ไม่มีที่สิ้นสุด ส่วน พระอริยสาวกก็ระลึกได ตามกำลังของปัญญา แต่ ต้องด้วยกาเรจริญสมถภาวนา ส่วน บุคคลที่เป็นมนุษย์ แต่ระลึกชาติได้ถูกต้องจริงๆ เช่น เรื่องในพระสูตร ที่เศรษฐี ที่ขี้เหนีว ไม่ทำบุญและไปเกิดเป็นเด็กที่น่าตาน่ากลัว ก็ระลึกชาติได้ เพราะเหตุว่า สัญญาความจำที่มีกำลัง ในความติดข้องในทรัพย์สมบัติ ก็ทำให้ยังจำได้ว่าทรัพย์สมบัติอยู่ที่นี้ เพราะติดข้องมีกำลังมากแต่ก็ไมได้หมายความ ว่าจะระลึกชาติได้ทุกคน

กระผมขอยกตัวอย่าง ในชีวิตประจำวัน ครับ อย่างเช่น เรื่องบางเรื่องเราก็จำได้ บางเรื่องก็จำไม่ได้ เพราะอะไร อย่างเช่น เรื่องที่เราดีใจมากๆ หรือ เสียใจมากๆ เราก็มักจะจำได้ นึกขึ้นได้ เพราะอะไร เพราะ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดสัญญาเจตสิก และ มีความรู้สึกที่ชอบ ติดข้องมาก หรือ เสียใจมาก เป็นต้น แต่บางเหตุการณ์ที่ เป็นเหตุการณ์ทั่วไป ไม่ได้ติดข้อง หรือ ทุกข์ เสียใจ ดีใจมากก็จำไม่ได้ เช่น เมื่อ 15 วันที่แล้ว มื้อเที่ยงทานอาหารอะไร ก็นึกไมได้ เป็นต้น ครับ นี่ก็เป็นตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็นว่า การระลึกชาติได้ อาศัยเหตุปัจจัยหลายๆ ประการ แต่ การระลึก ชาติที่ รู้ของผู้อื่น เป็นต้นนั้น จะต้องเป้นผู้ที่เจริญสมถภาวนา ได้สูงสุด เป็นสำคัญ

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ

ตายแล้วฟื้น ....การระลึกชาติ... มงคลตื่นข่าว?

การระลึกชาติได้เป็นยังไง

คนที่สามารถมองเห็นวิญญาณหรือระลึกชาติได้เป็นคนที่มีญาณพิเศษหรือเปล่า

ขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 16 ก.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อุุชุปฏิปันโน มาจาก อุชุ (ตรง) รวมกับคำว่า ปฏิปันโน (ผู้ปฏิบัติ) แปลรวมกันได้ว่า ผู้ปฏิบัติตรง

อุชุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติตรง หมายถึง ตรงต่อพระธรรมคำสอน ตรงต่อสภาพธรรม ไม่คด ไม่งอ ไม่บิดเบี้ยว ประพฤติตามพระธรรมวินัย ซึ่งเป็นลักษณะของกุศลธรรม เป็นผู้ที่มีสัจจะ มีความจริงใจที่จะศึกษาเพื่อการละกิเลส พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของ สภาพธรรมตามความเป็นจริง เป็นไปเพื่อละกิเลส

-ความงดเว้น (วิรัติ) จากบาปอกุศลธรรม มีการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม เป็นต้นนั้น ต้องเป็นสภาพธรรมที่ดีงามเกิดขึ้นเป็นไป เห็นโทษเห็นภัยของอกุศลที่เกิดขึ้น จึงมีการงดเว้นจากสิ่งที่ไม่ดีเหล่านั้น เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจ บังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ถ้าหากว่าไม่อาศัยการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมแล้ว จะ ไม่มีเครื่องอุปการะเกือกูลที่ดีเลย มีแต่จะทำให้มีการประพฤติปฏิบัติผิด กระทำในสิ่งที่ผิด โดยที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นความผิดด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นแล้ว ความเข้าใจพระธรรม เป็นเครื่อง อุปการะเกื้อกูลที่ดี ให้มีความประพฤติเป็นไปในทางที่ถูกที่ควร แล้วละเว้นจากสิ่งที่ไม่ดี ทั้งหลายทั้งปวง

-บุคคลผู้ที่มีความเข้าใจธรรม มั่นคงในการเจริญกุศลประการต่างๆ แม้จะมีการขับร้อง เพลง ก็ไปกับด้วยสารธรรม พรรณาถึงกุศลธรรมประการต่างๆ จะแตกต่างกับเพลงทั่วไป ที่ส่วนใหญ่แต่งขึ้นแล้วกล่าวถึงในเรื่องกาม ความติดข้องเกื้อหนุนทำให้อกุศลเกิดมากขึ้น

-ประเด็นเรื่องระลึกชาติได้ ตามความเป็นจริงแล้ว ในภูมิมนุษย์ บุคคลผู้อบรมเจริญฌาน ได้อภิญญาก็สามารถที่จะระลึกชาติหนหลังได้ สำหรับในสวรรค์ เทวดา ก็สามารถที่จะระลึกชาติได้ ว่า ชาติก่อนไปทำอะไรมาจึงได้มาเกิดในสรรค์เพราะการเกิดเป็นเทวดา เกิดผุดขึ้นทันที (โอปปาติกะ) ช่วงระหว่างบุคคลใหม่ กับบุคคลเก่าต่อเนื่องกันทันที เหมือนหลับแล้วตื่นขึ้น จึงสามารถที่จะระลึกได้ ส่วนในอบายภูมิ โดยปกติ ผู้ที่เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานไม่สามารถที่จะระลึกชาติได้ แต่ถ้าเกิดเป็นสัตว์นรก เกิดเป็นเปรตและพวกอสุรกายจำพวกโอปปาติกกำเนิด (เกิดผุดขึ้นเป็นตัวทันที) ก็สามารถที่จะระลึกถึงกรรมในอดีตชาติของตนเองได้ กล่าวคือ จำได้ว่าตนเองกระทำกรรมอะไรมา จึงทำให้ได้เกิดมาเป็นอย่างนี้

สำคัญอยู่ที่ ไม่ใชว่าจะต้องระลีกชาติได้ แต่ขณะนี้ควรที่ะจได้สะสมแต่สิ่งที่ดีพร้อม กับฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 16 ก.ย. 2556

การงดเว้น คือ งดเว้นจาก บาป จากอกุศล การล่วงศีล ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 18 ก.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 19 ก.ย. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 27 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 7 มิ.ย. 2564

ขอเชิญอ่านเพิ่มเติม...

ประวัตินางวิสาขามิคารมารดา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ