พระอภิธรรม
ข้อความจาก wikipedia "สำนวนในการเขียนพระอภิธรรมปิฎกเป็น "ภาษาหนังสือ" แตกต่างจากสำนวนภาษาในพระวินัยปิฎกและพระสุตตันตปิฎก จึงมีผู้สันนิษฐานว่า พระอภิธรรมปิฎกนี้เป็นของแต่งขึ้นใหม่ภายหลัง" ข้อความนี้ อาจทำให้คนคิดว่า พระอภิธรรมไม่ได้เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัส อยากขอความรู้ในเรื่องนี้ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การศึกษาพระธรรม ไม่ว่าจะศึกษาในเรื่องใด หรือ จากใครกล่าว ก็ต้องตรวจสอบ กับพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าเข้ากันได้ไหม ด้วยหลักมหาปเทส ๔ คือ เมื่อได้ฟัง หรือ อ่านจากใครกล่าว หรือ หนังสือใดก็ตรวจสอบว่าเข้ากันได้ กับพระพุทธพจน์หรือไม่ ถ้าเข้ากันได้ คือ มีอรรถ เนื้อหาที่สอดคล้องกัน ก็เป็นพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง แม้จะเป็นสาวกกล่าวไว้ก็ตาม เพราะเนื้อหาไม่ขัดกัน แต่หากใครกล่าว หรือหนังสือใด กล่าวธรรมแต่ ไม่ตรงตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง คือ อรรถ เนื้อความ ไม่ตรงกัน ในที่นี้ ไมได้หมายถึงจะต้องมีพยัญชนะตรงกันทุกคำ แต่เนื้อหาของเรื่องราวนั้น อธิบายเนื้อความแล้ว ไม่เข้ากัน เช่น พระพุทธเจ้าแสดงอนัตตา แต่ผู้อื่นกล่าวว่า ทำได้ บังคับได้ นี่ก็ไม่ใช่พระพุทธพจน์ ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า สาวกในอดีตกล่าวว่า บังคับไม่ได้ ทำไม่ได้ ธรรมทำหน้าที่ แม้คำเหล่านี้ จะไม่มีคำที่ตรงตัวในพระพุทธพจน์ แต่เนื้อความ อธิบายแล้ว ก็หมายถึง ความเป็นอนัตตา ซึ่งตรงกันในอรรถที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ก็ถือว่า เป็นพระดำรัส เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า แม้สาวกหรือ ผู้นั้นจะเป็นคนกล่าว ไม่ใช่พระพุทธเจ้าก็ตาม ครับ ดังนั้น ก็ต้องยึดหลักมหาปเทส ๔ ว่าเข้ากันได้ กับ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงหรือไม่ ครับ กาจจรจะปฏิเสธ หรือ ยอมรับ ในสิ่งใด สิ่งหนึ่ง สำคัญ คือ จะต้องศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบ จึงจะปฏิเสธ หรือยอมรับได้ แม้แต่มีคนกล่าวว่า ๑+๑ เป็น สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเรียนคณิตศาสตร์ ก็อาจจะไม่รู้ และไม่ควรยอมรับ หรือปฏิเสธทันที ต่อเมื่อได้ศึกษาแล้ว จึงจะปฏิเสธ หรือยอมรับได้ แต่สำหรับผู้ที่ได้ศึกษาวิชาคณิตศาสตร์ ย่อมรู้ตามความเป็นจริงเช่นนั้นได้ ว่า ๑+๑ เป็น ๒ การจะเข้าใจพระอภิธรรม ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน อันเป็นธรรมที่แสดงถึงความละเอียดลึกซึ้งของธรรมอย่างยิ่ง และมีเหตุปัจจัยให้เกิดอย่างลึกซึ้ง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าอภิธรรมจะเป็นคำกล่าวของสาวก หรือพระพุทธเจ้าจึงไม่ศึกษา หรือปฏิเสธเพียงแค่นั้น เพราะตนเองยังไม่ศึกษาเหมือนอย่างว่า มีคนบอกว่าวิชาคณิตศาสตร์ ที่จะต้องใช้ในการเรียน ตั้งแต่มัธยม มหาวิทยาลัย และสำหรับประกอบอาชีพ แต่มีคนบอกว่า ๑+๑ เท่ากับ ๒ ก็ไม่เชื่อ และคิดเอาเองว่า คณิตศาสตร์ เป็นวิชาที่ นักวิชาการคนนี้คิด หรือนักวิชาการอีกคนคิด ไม่รู้ว่าเป็นคนไหนสรุปคือ เพราะไม่รู้ว่าเป็นคนไหนคิดจึงปฏิเสธทันทีว่า ๑+๑ เท่ากับ ๒ ไม่จริง และ ทั้งๆ ที่ตนเองก็ยังไม่ได้ศึกษาโดยละเอียดในวิชานั้น และเพียงไม่รู้ว่าวิชาคณิตศาสตร์ ใครเป็นคนคิดขึ้น ก็เลยปฏิเสธและดูหมิ่นวิชาคณิตศาสตร์ จึงไม่ยอมศึกษาและดูหมิ่น ทั้งๆ ที่ตนเองยังไม่ได้ศึกษา ย่อมไม่สมควร ฉันใด พระอภิธรรม หากผู้นั้นยังไม่ได้ศึกษา และไม่รู้ว่า เป็นคำสอนของสาวก หรือพระพุทธเจ้า เพราะไม่ได้เกิดจากการศึกษานั่นเอง จะปฏิเสธว่าพระอภิธรรม ไม่จริง และดูหมิ่นจึงไม่ศึกษาสมควรหรือไม่ นั่นก็ไม่เป็นเหตุ เป็นผล
ดังนั้น พระอภิธรรมควรค่าต่อการศึกษา แต่ไม่ลืมว่า คนที่เห็นคุณค่าคือ คนที่สะสม ศรัทธา และปัญญามาในอดีต เพราะพระธรรมไม่สาธารณะ กับ ทุกคน จึงเป็นธรรมดาที่ความเห็นผิด ย่อมมีมากกว่า ความเห็นถูก ดังนั้น จึงไม่สามารถบังคับ จัดการกับผู้ที่ไม่มีศรัทธาในพระธรรมได้ เพราะ บุคคลเหล่านั้น ย่อมหาเหตุผลที่จะปฏิเสธโดยที่ไม่ศึกษาก่อนเป็นธรรมดา จึงควรกลับมาที่ตนเองควรจะศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบ เพราะพระธรรมทุกคำมีค่า เพราะทำให้เกิดปัญญา อันเกิดจากการศึกษาด้วยตนเองเป็นสำคัญ ครับ
ขออนุโมทนา
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ
ความต่างกันระหว่าง พุทธวัจนะ และ พระอภิธรรม
มีกระแส เบี่ยงอภิธรรม เป็น สติปัฏฐาน ๔ อริยมรรคมีองค์ ๘ และอื่นๆ ไปเสีย
พระพุทธพจน์ [พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์]
ผู้คัดค้านพระอภิธรรม ได้รับผลอย่างไร
พระอภิธรรมเป็นคำสอนเรื่องสัจธรรม
พระอภิธรรมเป็นคำสอนที่ไม่มีผู้ใดแสดงได้
พระอภิธรรมที่เทศน์โปรดพุทธมารดา
ขออนุโมทนา ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตามความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพระวินัย พระสูตร หรือ พระอภิธรรม ก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงเลย พระวินัยเป็นเรื่องของพระบัญญัติต่างๆ ที่เกี่ยวกับความประพฤติเป็นไปทางกาย ทางวาจา ซึ่งมาจากจิตใจ ก็ไม่พ้นไปจากธรรม พระสูตร เป็นการแสดงพระธรรม ณ สถานที่ต่างๆ ปรารภบุคคลต่างๆ ยกธรรมประการต่างๆ ขึ้นแสดง ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมตามความเป็นจริงส่วนพระอภิธรรม เป็นการยกธรรมล้วนๆ ขึ้นแสดง ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน เป็นธรรมที่ละเอียดยิ่ง ซึ่งเมื่อได้ศึกษาพระอภิธรรม เข้าใจแล้วก็ทำให้ศึกษาพระวินัย พระสูตรเข้าใจได้ด้วย เพิ่มพูนความมั่นคงในความเป็นจริงของสภาพธรรมมากยิ่งขึ้น พระอภิธรรม ยาก แต่สามารถเข้าใจได้เมื่อได้เริ่มฟัง เริ่มศึกษา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ด้วยความละเอียดรอบคอบเท่านั้น ที่จะเป็นไปเพื่อขัดเกลาละคลายกิเลสในชีวิตประจำวัน สำคัญอยู่ที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกตั้งแต่ต้นว่า สิ่งที่มีจริงเป็นธรรม ไม่ว่าจะแสดงโดยพระวินัย พระสูตร และพระอภิธรรม ก็เพื่อเข้าใจธรรม ตามความเป็นจริงนั่นเอง พระธรรมทุกคำมีค่ามาก เพราะเป็นพระปัญญาตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ