การฟังพระสัทธรรมเป็นของยาก
เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน
การได้อัตภาพเป็นมนุษย์ เป็นการยาก มีบทอุปมาเหมือนเต่าตาบอด และการฟังพระสัทธรรมเป็นของยากมีอุปมาในพระสูตรไหนไหมครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วย ครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ หน้าที่ 323-330
กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ กิจฺฉ มจฺจาน ชีวิต กิจฺฉ สทฺธมฺมสฺสวน กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท.
"ความได้อัตภาพเป็นมนุษย์ เป็นการยาก ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอยู่ยาก การฟังพระสัทธรรม เป็นของยาก การอุบัติขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นการยาก"
คลิกอ่านเนื้อหาเต็มๆ ในพระสูตรดังนี้ ครับ
ความได้อัตภาพเป็นมนุษย์ เป็นการยาก [เรื่องนาคราชชื่อเอรกปัตตะ]
และอีกสูตรหนึ่ง ครับ
[เล่มที่ 31] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้า๔๗๖-๔๗๘
๘. ทุติยฉิคคฬสูตร
ว่าด้วยการได้ความเป็นมนุษย์ แสนยาก
[๑๗๔๔] พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนมหาปฐพีนี้ มีน้ำเป็นอันเดียวกัน บุรุษโยนแอกซึ่งมีช่องเดียวลงไปในมหาปฐพีนั้น ลมทิศบูรพาพัดเอาแอกนั้นไปทางทิศประจิม ลมทิศประจิมพัดเอาไปทางทิศบูรพา ลมทิศอุดร พัดเอาไปทางทิศทักษิณ ลมทิศทักษิณพัดเอาไปทางทิศอุดร เต่าตา บอดมีอยู่ ในมหาปฐพีนั้น ต่อล่วงร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ เธอทั้งหลาย จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เต่าตาบอดนั้น ต่อล่วงร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ จะสอดคอให้เข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้น ได้บ้างหรือหนอ
ภิกษุทั้งหลาย กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้อที่เต่าตาบอด ต่อล่วง ร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ จะสอดคอเข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้นเป็นของยาก
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า ฉันนั้น ภิกษุทั้งหลาย การได้ความเป็นมนุษย์ เป็นของยาก พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติในโลก เป็นของยาก ธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้วจะรุ่งเรืองในโลก ก็เป็นของยาก ความเป็นมนุษย์นี้ เขาได้แล้ว พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติแล้วในโลก และธรรมวินัยที่ตถาคตประะกาศแล้ว ก็รุ่งเรืองอยู่ในโลก
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลาย พึงกระทำความเพียร เพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่านี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงว่า แผ่นดินทั้งหมดเต็มไปด้วยน้ำ การที่เต่าตาบอด ๑๐๐ ปี โผล่ขึ้นมาครั้งหนึ่ง แล้วจะสอดคอเข้าไปในแอกที่มีช่องเดียวซึ่งถูกลมพัด จากทิศทั้ง ๔ นั้น เป็นสิ่งที่เกิดได้ยาก เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากในโลก ดังนี้ คือ
-การได้เกิดมาเป็นมนุษย์
-การที่พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จอุบัติขึ้นในโลก
-การที่พระธรรมวินัยที่พระตถาคตประการแล้วจะรุ่งเรืองในโลก เมื่อได้สิ่งที่ยากเหล่านี้แล้ว จึงควรอย่างยิ่งที่จะเจริญความเพียรเพื่อตรัสรู้สัจจะทั้ง ๔ ตามความเป็นจริง ซึ่งในอรรถกาแสดงไว้ว่า การตรัสรู้สัจจะทั้ง ๔ ก็เป็นการยากอย่างยิ่ง ด้วย
* หมายเหตุ คำว่า ฉิคคฬะ หมายถึง ช่อง หรือ รู ในพระสูตรนี้ หมายถึง ช่องของแอก การที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เป็นผลของกุศลกรรม อย่างน้อยๆ ก็เพิ่มพูนความมั่นคงในเรื่องกรรมและผลของกรรมได้บ้าง เมื่อเหตุดี ผลก็ต้องดี ดังนั้น เมื่อได้อัตภาพ ความเป็นมนุษย์แล้ว จึงไม่ควรประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ด้วย สำหรับการเจริญกุศลในชีวิตประจำวันนั้นดีที่สุด คือไม่หวัง ความดีเป็นสิ่งที่ควรจะอบรมเจริญให้มีขึ้นในชีวิตประจำวัน เพราะเหตุว่าวันหนึ่งๆ อกุศลจิตเกิดบ่อยมาก แม้แต่ขณะที่กำลังฟังพระธรรมอยู่แท้ๆ อกุศลจิตก็ยังสามารถที่จะเกิดแทรกได้เลย (คงไม่ต้องกล่าวถึงขณะที่ไม่ได้ฟังพระธรรม) ถ้าไม่ได้เจริญกุศล ก็ย่อมเปิดโอกาสให้อกุศลเกิดหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ในส่วนใดก็ตาม ทั้งหมดทั้งปวงนั้นก็เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง และเพื่อความไม่ประมาทในชีวิต เพราะเหตุว่าในที่สุดแล้วทุกคนก็จะต้องตาย แต่ก่อนที่จะตาย ซึ่งก็ไม่สามารถจะรู้ได้ว่าเป็นวันใดเวลาใด นั้น ก็ควรที่จะได้ประโยชน์จากการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ให้มากที่สุด แสวงหาสิ่งที่เป็นสาระให้กับชีวิตให้มากที่สุด ประโยชน์หรือสาระที่ว่านั้น ได้แก่ ความเข้าใจพระธรรมตามความเป็นจริง อันเกิดจากการฟัง การศึกษาพระธรรมในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องสะสมเป็นที่พึ่งต่อไป พร้อมกับน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม (เป็นคนดีควบคู่ไปกับการฟังพระธรรม) จนกว่าจะถึงการดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาดในที่สุด ซึ่งจะต้องอาศัยกาลเวลาอันยาวนานในการอบรมเจริญปัญญา ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ ครับ
ไม่ควรล่วงเลยขณะที่ได้ฟังพระธรรม
แก้ว ๕ ประการ หาได้ยากในโลก [ปัญจกนิบาต]
ความปรากฏขึ้นที่หาได้ยาก [ฉักกนิบาต]
ไหนๆ ก็ต้องตาย ... ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจดีกว่า
ขณะ อย่าได้ล่วงเลยท่านทั้งหลายไปเสีย
ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง เราควรทำอะไร?
ควรที่จะได้ประโยชน์จากการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ให้มากที่สุด
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สำหรับผู้ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้น ต้องเป็นผลของกุศลกรรม ซึ่งเป็นการยากมากกับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่าผู้ที่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์นั้น (รวมถึงสุคติภูมิอื่นๆ คือ สวรรค์ ด้วย) มีเป็นส่วนน้อย แต่ที่เกิดได้โดยง่าย คือ เกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ
แต่สำหรับผู้ที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ นั้น มี ๒ ประเภทใหญ่ๆ คือ ได้ศึกษาพระธรรมกับ ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ตามความเป็นจริงแล้ว บุคคลผู้ที่เห็นประโยชน์ของความเข้าใจพระธรรม ก็จะไม่ละเลยโอกาสของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ตนเองมีความเข้าใจธรรม เข้าใจสิ่งที่มีจริงเพิ่มขึ้น จะทำให้เป็นผู้ได้สะสมปัญญาต่อไป เป็นผู้ไม่ตายไปพร้อมกับความไม่รู้ เพราะได้สะสมปัญญานั่นเอง ส่วนผู้ที่ไม่ได้ฟังพระธรรม นั้น มีเยอะมากทีเดียว ควรที่จะได้พิจารณาว่าแม้ผู้ที่จะได้ฟังพระธรรม บ้าง กิเลสอกุศลก็เกิดขึ้นมาก คงไม่ต้องพูดถึงเลยว่าถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมแล้ว กิเลสอกุศลจะมากสักแค่ไหน และจะสะสมต่อไปอีกมากมายสักเท่าใด
ชีวิตเหลือน้อยเต็มทีแล้ว ควรที่จะได้ตระหนักถึงคุณค่าของความเข้าใจพระธรรม ว่า มีคุณค่ามหาศาล เพราะธรรมเป็นการตรัสรู้และทรงแสดงโดยบุคคลผู้เลิศ ผู้ประเสริฐที่สุดในโลก คือ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเหตุว่า ถ้าไม่เริ่มที่การฟัง การศึกษาในครั้งแรกๆ ก็จะไม่มีการฟัง การศึกษาในครั้งต่อๆ ไป อย่างแน่นอน ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้น ที่จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงสำหรับชีวิต ดีแล้วที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งจะได้มีโอกาสฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ให้เข้าใจต่อไป [ดีกว่าเกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ] กว่าที่อกุศลนานาประการจะค่อยๆ ละคลายลงไปได้ ก็ด้วยความเข้าใจเพิ่มขึ้น นั่นเอง ครับ
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...