อุปนิสสยปัจจัยทั้ง 3

 
papon
วันที่  18 พ.ย. 2557
หมายเลข  25792
อ่าน  9,160

เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน

ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยอนุเคราะห์ให้อรรถาธิบายเกี่ยวกับ "อุปนิสสยปัจจัยทั้ง 3" ด้วยครับ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 18 พ.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อุปนิสสยปัจจัย คือ ที่อาศัยที่มีกำลังจากการสะสมที่จะทำให้สภาพธรรมะนั้นเกิดขึ้นเป็นไปสภาพธรรมนั้นเป็นชีวิตประจำวันจริงๆ สภาพธรรมนั้นๆ จะเกิดขึ้นได้ ก็เมื่อมีสภาพธรรมอื่นที่เกิดร่วมด้วยนั่นเอง ต่างเป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน อาศัยกันและกันจึงเกิดขึ้น ถ้าปราศจากกันแล้วก็เกิดไม่ได้เลย อุปนิสสยปัจจัย มี 3 ดังนี้

1. ปกตูปนิสสยปัจจัย

2. อารมณูปนิสสยปัจจัย

3. อนันตรูปนิสสยปัจจัย

ปกตูปนิสสยปัจจัย เป็นสภาพธรรมที่มีกำลังจนสามารถเป็นปัจจัยให้เกิดสภาพธรรมอื่นที่เป็นจิต เจตสิกครับ ซึ่งปกตูปนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยที่กว้างขวางมากครับ ซึ่งสภาพธรรมที่เป็นปัจจัยที่ทำให้สภาพธรรมอื่นๆ เกิดนั้น ปัจจัยที่เป็นปกตูปนิสสยปัจจัย คือ จิต ๘๙ เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘ เป็นต้น ซึ่งปกตูปนิสสยปัจจัย มีหลายอย่างดังนี้ ครับ

1. กุศล เป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิด กุศลที่เป็นจิต เจตสิก เช่น สะสมการฟังธรรม ความเห็นถูกมา ก็เป็นปัจจัยให้เกิดกุศลจิต คือปัญญาเกิดได้อีกครับ หรือ กุศลขั้นการฟังเป็นปัจจัยให้เกิดกุศลขั้นสูงครับ

2. กุศล เป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิด อกุศล เช่น เพราะมีความเห็นถูก (ปัญญา) ทำให้เกิดมานะ ดูหมิ่นผู้อื่น เป็นต้น

3. กุศล เป็นปัจจัยให้เกิด อัพยากตะ ที่เป็นวิบากจิต

4. อกุศล เป็นปัจจัยให้เกิดอกุศล

5. อกุศล เป็นปัจจัยให้เกิดกุศล

6. อกุศล เป็นปัจจัยให้เกิด อัพยากตะ ที่เป็นวิบากจิต

7. อัพยากตะ เป็นปัจจัยให้เกิด อัพยากตะ

จะเห็นนะครับว่า ปกตูปนิสสยปัจจัย เป็นปัจจัยที่กว้างขวางครับ สภาพธรรมทั้งที่เป็นจิต เจตสิก รูปและบัญญัติด้วย

ความหมายของ อารัมมณูปนิสสยปัจจัย ธรรมที่เป็นจิต และ เจตสิกใดๆ ทำธรรมใดๆ ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นเกิดขึ้น ธรรมนั้นเป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นจิต เจตสิกนั้นๆ โดยอารัมมณาธิปติปัจจัย

อารัมมณูปนิสสยปัจจัย หมายถึง ธรรมที่เป็นอารมณ์หนักแน่น คือ จิตเจตสิก รูป ที่เกิดในวาระก่อนๆ และ นิพพาน เป็นปัจจัยมีกำลังอุปการะให้นามธรรม คือ จิต และเจตสิก เกิดภายหลัง

ขอเชิญคลิกฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ ฯ ได้ที่นี่ครับ

ชีวิตประจำวันเป็นไปตามปกตูปนิสสยปัจจัย

อารัมมณาธิปติปัจจัย - อารัมมณูปนิสสยปัจจัย - อุปนิสัย

อารัมมณาธิปติปัจจัย - อารัมมณูปนิสสยปัจจัย - นิพพาน

อนันตรูปนิสสยปัจจัย คือ การดับของสภาพธรรมดวงก่อนเป็นปัจจัย เป็นที่อาศัยที่มีกำลัง ทำให้สภาพธรรมอื่นเกิดดับสืบต่อ

ขอเชิญคลิกฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ ฯ ได้ที่นี่ครับ

อนันตรปัจจัย - อนันตรูปนิสสยปัจจัย

อนันตรูปนิสสยปัจจัยคือสภาพธรรมะในขณะนี้นั่นเอง

ทบทวนปัจจัย - อุปนิสสยปัจจัย

การศึกษาในส่วนของปัจจัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง ประโยชน์คือความเข้าใจถูก เข้าใจถึงความเป็นจริงของธรรม ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามปัจจัย ไม่ได้เกิดขึ้นเองลอยๆ โดยปราศจากปัจจัย ทำให้เข้าใจมั่นคงยิ่งขึ้นในความเป็นธรรมที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน

ขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 18 พ.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปัจจัย คือ สภาพที่ผลธรรมอาศัยเป็นไป เมื่อผลธรรมเกิดขึ้นเพราะอาศัยสิ่งใด สิ่งนั้น คือ ปัจจัย แสดงถึงความเป็นจริงของธรรม ที่เป็นปัจจัยให้สภาพธรรมอื่นๆ เกิดขึ้น โดยปัจจัยต่างๆ ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น

-อารัมมณูปนิสสยปัจจัย คือ สิ่งที่เป็นอารมณ์ และเป็นที่อาศัยที่มีกำลัง เป็นเหตุให้จิตและเจตสิก มีกำลัง

-อนันตรูปนิสสยปัจจัย คำอธิบายมีว่า เหมือนอนันตรปัจจัย คือ สภาพธรรม ได้แก่ จิตและเจตสิกซึ่งเกิดขึ้นและดับไป แล้วเป็นปัจจัยให้จิตและเจตสิกขณะต่อไปเกิดขึ้นติดต่อกัน ไม่มีระหว่างคั่น และมีกำลังมาก สำหรับอนันตรูปนิสสยปัจจัย เพราะฉะนั้นสำหรับอนันตรูปนิสสยปัจจัย องค์ธรรม คือสภาพธรรมที่เป็นปัจจัยเหมือนอนันตรปัจจัย ก็ได้แก่ จิตทุกดวง และเจตสิกทุกดวงที่เกิดก่อนๆ เว้นจุติจิตของพระอรหันต์ เป็นปัจจัยให้จิตทุกดวงและเจตสิกทุกดวงที่เกิดหลังๆ เกิดขึ้น

-ปกตูปนิสสัยปัจจัย นั้น คือ ความเป็นปัจจัยเป็นที่อาศัยที่มีกำลังโดยปกติที่ได้กระทำ คือ สะสมไว้เป็นปกติในชีวิตประจำวันจริงๆ เช่น จิตที่เป็นโลภมูลจิตขณะหนึ่งเกิดแล้วดับแล้ว สภาพธรรมที่เกิดกับโลภมูลจิตที่ดับไปแล้วนั้น สะสมสืบต่อในจิตดวงต่อๆ ไป เคยคิดอย่างนั้น เคยเห็นอย่างนั้น เคยกระทำอย่างนั้น ก็สะสมมีกำลังที่จะทำให้โลภมูลจิตอย่างนั้นเกิดอีก เป็นต้น จะเห็นได้ว่า แต่ละท่านมีความพอใจมีอัธยาศัยต่างๆ กันไป ก็เพราะเคยพอใจอย่างนั้น เคยสะสมเคยกระทำอย่างนั้นมาแล้ว จึงเป็นปกตูปนิสสยปัจจัย เป็นที่อาศัยที่มีกำลังโดยปกติที่เคยกระทำไว้แล้ว สะสมไว้แล้ว นั่นเอง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 18 พ.ย. 2557

แม้ขณะนี้ก็เป็นธรรมะที่เกิดจากเหตุปัจจัย หลายปัจจัย แล้วดับ มีแล้วไม่มี ทุกขณะ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Sam
วันที่ 19 พ.ย. 2557

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
สิริพรรณ
วันที่ 19 พ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
tanrat
วันที่ 20 พ.ย. 2557

กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เมตตา
วันที่ 20 พ.ย. 2557

...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ประสาน
วันที่ 21 พ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
peem
วันที่ 22 พ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
อนุโมทนา
วันที่ 24 พ.ย. 2557

สาธุ..ค่ะ.ฟัง และ อ่าน บ่อยๆ เพื่อเป็นปัจจัย ให้สังขารขันธ์ทำหน้าที่ของสังขารขันธ์

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 27 พ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ