ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๑๔ ญาจาง-ไซ่ง่อน-ดอนเมือง]

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  17 ก.ค. 2558
หมายเลข  26795
อ่าน  2,251

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

วันเดินทางกลับประเทศไทย

สนทนาธรรม จนนาทีสุดท้าย...

วันนี้เป็นวันที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะฯ เสร็จสิ้นภารกิจที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม และจะเดินทางกลับประเทศไทย หลังจากที่ได้เดินทางมาสนทนาธรรมที่ประเทศเวียดนาม ตามคำเชิญของชมรมบ้านธัมมะเวียดนาม (Vietnam Dhammahome) ตั้งแต่วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ จนถึงวันนี้ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เป็นระยะเวลาทั้งสิ้นรวม ๑๔ วัน ในการสนทนาธรรมทั้ง ๒ เมือง กล่าวคือ ที่ ดาลัด ตั้งแต่วันที่ ๑๐ - ๑๗ พฤษภาคม และที่ ญาจาง ตั้งแต่วันที่ ๑๗ - ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘

หลังรับประทานอาหารเช้า ทุกท่านเตรียมความพร้อมของสัมภาระที่จะนำกลับ โดยการตรวจเช็คน้ำหนักของกระเป๋าเดินทาง เพื่อไม่ให้มีน้ำหนักเกินกำหนดของสายการบิน คือ ท่านละ ๒๐ กิโลกรัม สำหรับการโหลดเข้าใต้ท้องเครื่องบิน หากเกิน ก็สามารถถือขึ้นเครื่องได้อีกท่านละ ๗ กิโลกรัม ซึ่งพบว่า กระเป๋าของท่านสุภาพสตรีในคณะฯ เต็มน้ำหนักพิกัดทุกท่าน ไม่สามารถแม้ที่จะรับน้ำปลาที่มีรสชาติอร่อยขึ้นชื่อของเวียดนาม ที่คุณชี่ (Chi) คหบดีผู้ใจบุญของญาจาง ที่นำมาฝากแม้อีกคนละขวดได้ ซึ่งทราบว่าจะฝากมากับคุณไฮ (Tran Thi Hai) สมาชิกชมรมบ้านธัมมะเวียดนามที่จะเดินทางมาทำกิจธุระที่ประเทศไทยในภายหลัง

การเดินทางกลับประเทศไทย คณะของเราต้องเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินภายในประเทศของญาจาง ที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร เพื่อเดินทางไปต่อเครื่องบินที่สนามบินนานาชาติไซ่ง่อน มายังสนามบินดอนเมืองอีกทีหนึ่ง โดยมีคุณ Tam Bach เดินทางมาอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน ที่สนามบินญาจาง พร้อมกับสมาชิกบ้านธัมมะเวียดนามอีกจำนวนหนึ่ง หลังการเช็คอินเสร็จสิ้น ระหว่างเวลารอขึ้นเครื่อง ทุกท่านก็ไม่ยอมพลาดโอกาสของการได้สนทนาธรรมกับท่านอาจารย์เลย

ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา คงจะสงสัยว่า ท่านเหล่านี้กำลังฟังอะไรกัน ก็ใครเลยจะรู้ว่า เสียงซึ่งมีค่าที่สุดในสังสารวัฏฏ์ คือ เสียงของพระธรรม ที่จะทำให้บุคคล เข้าใจความจริงในชีวิต บุคคลที่เริ่มเข้าใจธรรมะ ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ตามที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงมีพระมหากรุณาแสดงไว้ ย่อมรู้ถึงประโยชน์มหาศาลของ "คำ" ที่จะได้ฟัง "แต่ละคำ" ซึ่งความเข้าใจความจริง จากการได้ฟังแม้เพียงคำเดียว ย่อมทำให้เป็นผู้ที่ไม่สูญเปล่ากับการได้เกิดมาแล้วตายไป โดยที่ไม่ได้ฟัง คำจริง วาจาสัจจะ ที่ทำให้เข้าใจความจริง แม้เพียงคำเดียว ในชีวิต ภาพที่เห็น จึงทำให้รู้สึกชื่นชม อนุโมทนาในกุศลศรัทธาของเพื่อนสหายธรรมชาวเวียดนามทุกๆ ท่าน จริงๆ ครับ

(ขอเชิญคลิกชม คลิปวีดีโอ การสนทนาธรรมบางตอน ที่สนามบินญาจางในวันนั้น ได้ที่นี่...)

ข้อความจากกระทู้ ที่พักและเสบียงในการเดินทางไกล โดย kanchana.c

"...คนเดินทางไกลต้องมีที่พักริมทาง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนจากความเมื่อยล้า และเสบียงที่ใช้ให้มีกำลังเดินทางต่อไป เราทุกคนเดินทางกันดารอันแสนไกลในสังสารวัฏฏ์ เคยได้พักจากอกุศลที่เกิดเกือบทุกขณะหรือไม่? มีเสบียงที่จะให้มีกำลังเดินไปอย่างมีความสุขหรือไม่? ที่พัก คือ ปัญญา ที่ทำให้จิตได้พักจากอกุศลธรรม มื่อมีปัญญาแล้ว กุศลจิตและกุศลกรรมก็เกิดตามมา เป็นเสบียง ให้ผลเป็นวิบากที่เป็นสุข ทำให้สามารถเดินทางกันดารอันแสนไกลนี้ได้ ดังนั้น จึงต้องฟังพระธรรม ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้โดยละเอียดให้เข้าใจ เพื่อให้เกิดปัญญา ซึ่งเป็นที่พักทางใจ เป็นที่ให้เกิดเสบียงต่อไป (สรุปจากการสนทนากับท่านอาจารย์ วันที่ 19 เม.ย. 52)

[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ ๑๑

"บัดนี้ ท่านเป็นผู้มีวัยอันชรานำเข้าไปแล้ว, เป็นผู้เตรียมพร้อม เพื่อจะไปสำนักของพระยายม
อนึ่ง แม้ที่พักในระหว่างทางของท่าน ก็ยังไม่มี, อนึ่ง ถึงเสบียงทางของท่าน ก็หามีไม่, ท่านนั้นจงทำที่พึ่งแก่ตน, จงรีบพยายาม จงเป็นบัณฑิต ท่านเป็นผู้มีมลทินอันกำจัดได้แล้ว ไม่มีกิเลสเพียงดังเนิน จักไม่เข้าถึงชาติชราอีก."

ชีวิตของสัตว์โลกย่อมมีความตายเป็นที่สุด ไม่มีใครรู้ว่าความตายจะมีวันไหน เมื่อบุคคลตายไป ย่อมไม่มีใครนำสิ่งใดติดตามตัวไปได้ นอกจากกุศลและอกุศลกรรมที่ทำไว้ คนที่เดินทางพอจะมีที่พักระหว่างทางได้ เพื่อทำกิจธุระ แต่ผู้ที่จะจากไปสู่ความตาย ไม่สามารถขอให้พักหยุดรอก่อน แม้สักนาทีเดียว เพื่อที่จะให้ทานทำบุญ แต่ความตายย่อมพรากเขาไป เสบียงทางที่จะติดตามไปได้ คือกุศลกรรมที่ทำไว้ จึงไม่ประมาทในการเจริญทุกๆ ประการ อบรมปัญญา เพราะไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นที่พึ่งได้ นอกจากกุศลธรรมและปัญญาที่อบรมเจริญดีแล้ว

(ข้อความจากพระสูตร และ ความเห็นที่ ๑ โดย paderm จากกระทู้ ที่พักและเสบียงในการเดินทางไกล)

ท่านอาจารย์และคณะฯ เดินทางถึงสนามบินไซ่ง่อน โดยมีคุณชี (Chi) สมาชิกชมรมบ้านธัมมะเวียดนาม ที่พักอยู่ในไซ่ง่อน มาคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน พร้อมทั้งพาคณะฯ ไปรับประทานอาหารกลางวันที่ได้สั่งจองไว้ที่ร้านอาหารภายในสนามบินไซ่ง่อน และอยู่สนทนาธรรมกับท่านอาจารย์ จนนาทีสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลศรัทธาของคุณชี (Chi) ด้วยครับ

(ขอเชิญคลิกชมคลิปวีดีโอ การสนทนาธรรมบางตอน ที่สนามบินไซ่ง่อนในวันนั้น ได้ที่นี่...)

"...พวกคนเดินทาง ย่อมพักทำกิจนั้นๆ ในระหว่างทางได้ฉันใด คนไปสู่ปรโลกย่อมพักอยู่ฉันนั้นไม่ได้ เพราะคนไปสู่ปรโลกไม่อาจเพื่อจะกล่าวคำเป็นต้นว่า “ท่านจงรอสัก ๒-๓ วัน ข้าพเจ้าจะให้ทานก่อน จะฟังธรรมก่อน ก็บุคคลเคลื่อนจากโลกนี้แล้ว ย่อมเกิดในปรโลกทีเดียว, คำนั้น พระศาสดาตรัสหมายเอาเนื้อความนี้ ... (จาก...[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ หน้า ๑๑ -๑๒)

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น เป็นเครื่องเตือนพุทธบริษัท ทุกกาลสมัย ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง การที่จะเป็นผู้มีความเข้าใจถูก เห็นถูก ซึ่งจะเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมทั้งหลาย (เสบียงสำหรับเดินทางในสังสารวัฏฏ์) ย่อมจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น ในแต่ละวัน จึงควรที่จะเป็นโอกาสของการอบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูก ไปตามลำดับ เพราะเหตุว่า ความเข้าใจที่ถูกต้องนี้เอง จะเป็นเครื่องชำระล้าง ขัดเกลากิเลสทั้งหลาย ขัดเกลาความไม่รู้ ให้ออกไปจากจิตใจ ได้อย่างแท้จริง ในทางตรงกันข้าม ถ้าปล่อยให้ชีวิตในแต่ละวัน ดำเนินไปโดยที่ไม่ได้อบรมเจริญปัญญา โดยที่ไม่ได้สะสมเสบียงในการเดินทาง คือ กุศลทั้งหลาย เลย กล่าวได้ว่า เป็นการดำเนินชีวิตที่เต็มไปด้วยความประมาทมัวเมา เมิ่อวันสุดท้ายของภพนี้ชาตินี้มาถึง ก็จะจากโลกนี้ไป โดยที่ไม่สามารถจะขอร้องเพื่อที่จะพักสำหรับการเจริญกุศลได้เลย จึงต้องจากไปด้วยความเป็นผู้ไม่มีที่พึ่ง มีแต่จะเต็มไปด้วยกิเลสอกุศลประการต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์อย่างไม่มีวันจบสิ้น (การเดินทางไกลคือสังสารวัฏฏ์ เป็นทุกข์ ถ้าหากว่าไม่ได้อบรมเจริญปัญญาแล้ว จะถึงความพ้นทุกข์ได้อย่างไร?)

(ข้อความจากพระสูตร และ ความเห็นที่ ๓ โดย khampan.a จากกระทู้ ที่พักและเสบียงในการเดินทางไกล )

...ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม...

การเดินทางไปสนทนาธรรมที่ประเทศเวียดนามรวมเวลาทั้งสิ้น ๑๔ วัน ในครั้งนี้ของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ คณะฯ ได้สิ้นสุดลงด้วยความเรียบร้อยงดงาม เป็น ณ กาลครั้งหนึ่ง ของขณะอันเลิศที่สุดในสังสารวัฏฏ์ ที่บุคคลที่ได้เคยกระทำบุญไว้แต่ปางก่อนเท่านั้นจะพึงได้รับ ทั้งยังเป็นขณะอันวิเศษของการได้ฟังคำ ที่ทำให้ได้เข้าใจความจริง ที่ยากที่บุคคลจะได้ฟัง แสดงถึงความเป็นผู้ที่สะสมบุญคือการได้เคยฟังและเข้าใจพระธรรมมาแต่ปางก่อน จึงเป็นผู้ที่แม้อยู่ไกลเพียงไหน ก็ยังมีโอกาสได้ฟังคำจริง วาจาสัจจะ นี้ได้ ซึ่งความเข้าใจจากการฟังนี้ จะสะสมไปเป็นเสบียง เป็นที่พึ่งอันอุดมของบุคคล ตลอดการเดินทางอันกันดารยิ่งในสังสารวัฏฏ์ แต่มีความสุขด้วยปัญญา คือ ความเข้าใจความจริงของชีวิต ตามกำลังของแต่ละบุคคลที่สะสมมานั่นเอง

อนึ่ง โดยส่วนตัว การเดินทางในครั้งนี้ ได้สมประสงค์ตามเจตนาที่ข้าพเจ้าตั้งใจที่จะไปเพื่อบันทึกภาพและกิจกรรมการเดินทางไปเผยแพร่พระธรรมของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เวียดนาม สักครั้งหนึ่ง จากที่ไม่เคยคิดที่จะไปมาก่อน ซึ่งเมื่อได้ไปแล้ว ก็ได้พบแต่เรื่องที่ทำให้เกิดกุศลจิตและกุศลศรัทธามากขึ้นในพระศาสนา คือ คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เห็นถึงกุศลวิริยะและเมตตาอันยิ่งของ ท่าน อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ผู้เสียสละและทุ่มเทเวลาให้กับศาสนาจนหมดใจ ข้าพเจ้าไม่เคยลืมในคำที่ได้ยินจากปากของท่านอาจารย์ บนรถแท๊กซี่ตอนขากลับ หลังจากที่ท่านได้เมตตาไปเยี่ยมคุณต่วนซึ่งกำลังป่วยหนักและครอบครัว ในขณะสุดท้ายของชีวิตของบุคคลผู้เป็นที่รัก เป็นภาพของมิตรภาพอันอบอุ่น ลึกซึ้ง ของชาวไทยและชาวเวียดนามที่ยอดเยี่ยมที่สุด เท่าที่จะเคยได้พบ ทั้งยังเป็นภาพของความประทับใจที่จะตราตรึงอยู่ในหัวใจของทุกคนที่ได้เห็น เพราะการไปเยี่ยมไข้คุณต่วนในวันนี้ ทำให้ญาติสนิท มิตรสหายที่รักและทุกคนในครอบครัวของคุณต่วน ที่มีความหวั่นไหวในวาระสุดท้ายของคุณต่วนและแม้คุณต่วนเอง ที่ได้รอพบท่านอาจารย์ และ ได้ฟัง "คำ" เพียงไม่กี่คำแต่มีค่ายิ่งแก่คุณต่วน ในวาระสุดท้าย ซึ่งเมื่อข้าพเจ้าได้กล่าวคำกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ว่า ชีวิตของท่านอาจารย์ เป็นประโยชน์ต่อทุกๆ คนจริงๆ ท่านก็ได้กล่าวคำสั้นๆ แต่ลึกซึ้ง และประทับใจของข้าพเจ้าอย่างยิ่งว่า "ใช้ให้คุ้ม" เป็นวลีสั้นๆ แต่มีความหมายที่ลึกซึ้ง ถึงการใช้สรรพสิ่งที่มีใน "ทั้งหมดของชีวิต" ของท่านผู้มีนามว่า ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในชาตินี้ เพื่อความเข้าใจถูก ความเห็นถูก ของทุกๆ คน ในพระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่ง พระองค์นั้น

อนึ่ง การเดินทางไปเวียดนามในครั้งนี้ของข้าพเจ้าเอง เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก ที่ได้มีโอกาสอยู่ร่วมในการเจริญกุศลทุกประการของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ผู้ที่ข้าพเจ้าคิดอยู่บ่อยๆ ว่า ไม่น่าเชื่อว่าข้าพเจ้ายังโชคดีที่มีโอกาสได้ฟังคำจากท่าน ยังเป็นผู้หนึ่งที่มีโอกาสได้มีชีวิตอยู่ร่วมในสมัยของท่าน เพราะเหตุว่า เมื่อครั้งที่ท่านอาจารย์เริ่มบรรยายธรรมครั้งแรก เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๙ นั้น ข้าพเจ้ายังไม่เกิดและไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน แต่จะสำคัญอะไร ก็ในเมื่อขณะนี้ ข้าพเจ้าได้พบท่านแล้ว และยังมีโอกาสได้ฟังคำจากท่านอีกด้วย ชาตินี้ไม่เสียชาติที่ได้เกิดมาแล้ว ขอกราบแทบเท้าท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง ทั้งขอขอบพระคุณและอนุโมทนาคุณภรรยาและลูกๆ ที่ได้ให้การสนับสนุนในการเจริญกุศลของพ่อ ให้มีโอกาสช่วยงานของมูลนิธิฯ ตามกำลัง เท่าที่จะกระทำได้ เพื่อตอบแทนพระคุณแทบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งในพระคุณอันมากมายของท่าน ที่ได้ให้ความเข้าใจธรรมะ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดไม่แม้เพียงในโลกนี้ แต่เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดยิ่งกว่าทรัพย์สมบัติใดๆ ไม่ว่าจะในโลกไหนๆ ก็ตาม และ ขออนุโมทนาขอบพระคุณ ในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ที่ติดตามการรายงานกิจกรรมการสนทนาธรรมในที่ต่างๆ ของท่านอาจารย์โดยตลอดมา ด้วยนะครับ

กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของสมาชิกชมรม บ้านธัมมะเวียดนาม และ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ทุกท่าน ที่ร่วมเดินทางไปกับคณะฯ ในครั้งนี้ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 17 ก.ค. 2558

ขอเชิญคลิกชมตอนที่ผ่านมาทั้งหมด ได้ที่นี่ครับ....

ณ กาลครั้งหนึ่ง (สด) จากประเทศเวียดนาม ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๑ ดอนเมือง-ไซ่ง่อน-ดาลัด]

ณ กาลครั้งหนึ่ง (สด) จากประเทศเวียดนาม ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๒ ดาลัด]

ณ กาลครั้งหนึ่ง (สด) จากประเทศเวียดนาม ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๓ ดาลัด]

ณ กาลครั้งหนึ่ง (สด) จากประเทศเวียดนาม ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๔ ดาลัด]

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๕ ดาลัด]

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๖ ดาลัด]

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๗ ดาลัด]

ท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เยี่ยมไข้ผู้ป่วยหนักชาวเวียดนาม ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘

อันเนื่องมาจากการเดินทางไปเยี่ยมไข้ผู้ป่วยหนักชาวเวียดนาม ของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เดินทางไปร่วมในพิธีศพสมาชิกชมรมบ้านธัมมะเวียดนาม

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๘ ดาลัด-ญาจาง]

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๙ ญาจาง]

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๑๐ ญาจาง]

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๑๑ ญาจาง]

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๑๒ ญาจาง]

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ประเทศเวียดนาม ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ [วันที่ ๑๓ ญาจาง พักผ่อนและสนทนาธรรมก่อนกลับ]

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
napachant
วันที่ 17 ก.ค. 2558

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจิตต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของคุณวันชัย ภู่งาม

ขอบคุณและอนุโมทนาสหายธรรมชาวเวียดนามที่ให้ความเป็นมิตรทุกๆ ท่านและขออนุโมทนาทุกๆ ท่านที่ได้เจริญกุศลร่วมกันค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kanchana.c
วันที่ 18 ก.ค. 2558

ขอบคุณและอนุโมทนาน้องวันชัยสำหรับรายละเอียดเกือบทั้งหมดของการเดินทางไปสนทนาธรรมในครั้งนี้ ฝีมือการเขียนลื่นไหลอ่านเพลินประกอบด้วยธรรมที่เข้ากันสนิท แสดงถึงกุศลวิริยะในการค้นคว้า แถมประกอบด้วยภาพถ่ายสวยงามเล่าด้วยภาพได้เลย ผู้มีศิลปะเป็นมงคลเพราะอย่างนี้เอง เป็นประโยชน์แก่ผู้ติดตามอ่านอย่างยิ่ง ไม่น่ารีบจบเลย ความจริงยังมีเรื่องต่อที่สนามบินดอนเมืองอีกนะ ที่มีคุณแก้วตา เอนกพุฒิ เจริญกุศลรับส่งท่านอาจารย์ทุกครั้ง

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Phutporn
วันที่ 18 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
peem
วันที่ 18 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ปวีร์
วันที่ 21 ก.ค. 2558

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
rrebs10576
วันที่ 23 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
thilda
วันที่ 24 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
สิริพรรณ
วันที่ 29 ส.ค. 2560

กราบนอบน้อมพระรัตนตรัย

กราบบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ได้อ่านข้อความที่แสดงความจริงครั้งใด เหมือนใหม่ทุกครั้ง

แต่ละครั้งที่อ่่าน ก็เป็นความเข้าใจที่ไม่ใช่ครั้งก่อน

ค่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสิ้นสุดการเดินทางไกล

ที่ไม่ทราบจะเป็นเมื่อใด ชาติใด

แต่ชาตินี้ ได้ที่พึ่งพักพิงร่มเย็นระหว่างการเดินทาง

เป็นขณะที่ประเสริฐยิ่งค่ะ

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมเผยแพร่พระธรรม

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ