การคบคน

 
xiaxian99
วันที่  28 มี.ค. 2559
หมายเลข  27606
อ่าน  13,200

การจะพบคนที่หลากหลายประเภท ในวันหนึ่งๆ นั้นคงจะเลือกไม่ได้ว่าจะพบเจอแต่คนประเภทนี้ๆ

การคบ หมายถึง การคล้อยตาม หากคบคนพาล ก็คือการคล้อยตามอกุศลทั้งหลาย และการคบบัณฑิตก็คือการคล้อยตามในกุศล

เพราะแท้จริงแล้ว คน ไม่มี มีเฉพาะสภาพธรรมต่างๆ เพื่อนมีความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพิ่มเติม ประการใดเกี่ยวกับหัวข้อข้างต้นบ้างครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 28 มี.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การคบหาสมาคม มี ๒ ประเภทใหญ่ๆ คือ การคบหรือสมาคมกับคนพาลและการคบหรือการสมาคมกับบัณฑิต ตามปกติในชีวิตประจำวัน ชีวิตของคนเราต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นๆ ในสังคมเป็นธรรมดา เนื่องจากว่าเราไม่ได้อยู่ลำพังแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ประการที่สำคัญคือ เมื่อได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ มีความเข้าใจพระธรรมมากขึ้น ย่อมเข้าใจว่ากุศลและกุศลในชีวิตประจำวัน ย่อมเกิดจากเหตุปัจจัย ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ มีเหตุปัจจัยจึงจะเกิดขึ้น เหตุปัจจัยที่ว่านั้น มีทั้งเหตุปัจจัยภายในคือการสะสมมาของแต่ละบุคคล รวมทั้งเหตุปัจจัยภายนอกคือการคบมิตร หรือ การคบคน ด้วย

บุคคลที่พลาดโอกาสในการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมในชาตินั้น อย่างเช่นพระเจ้าอชาตศัตรู ได้กระทำกรรมอันหนัก ก็มาจากการได้คบหาสมาคมกับผู้ที่เป็นคนพาล คือพระเทวทัต ทำให้คล้อยตามในความประพฤติที่ผิด

จะเห็นได้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงมงคลไว้ เริ่มต้นด้วย ๒ ประการ คือ การไม่คบคนพาล และ การคบบัณฑิต เป็นมงคลอันสูงสุด, คนพาล คือ บุคคลที่ไม่ดีทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ มักจะแนะนำผู้อื่นไปในทางผิด ชักจูงไปในทางเสื่อม เช่น แนะนำให้กระทำทุจริตกรรมประการต่างๆ เป็นต้น เมื่อคบกับคนพาลเสพคุ้นกับคนพาลมากขึ้น เพราะความเข้าใจของเราที่ยังไม่มั่นคงพอ ย่อมทำให้หวั่นไหวเปลี่ยนแปลงได้ คล้อยตามไปได้โดยง่าย การอยู่ร่วมหรือคบกับคนพาล นำมาซึ่งกุศลธรรมและความเสื่อมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ถ้าเราคบบัณฑิต ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความเห็นถูก (มีปัญญา) แนะนำในสิ่งที่เป็นประโยชน์และห้ามจากสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ กล่าวคือ ให้ออกจากกุศล แล้วให้ตั้งมั่นอยู่ในกุศล ก็ย่อมทำให้เรามีความเจริญยิ่งขึ้นในกุศลธรรม แต่สิ่งที่ควรพิจารณา คือ ผู้มีปัญญาเท่านั้นจึงจะรู้ว่าใครเป็นพาลหรือบัณฑิต อุปมาเหมือนกับผู้มีตาดีทั้งสองข้าง ย่อมจะรู้ได้ว่าใครเป็นคนตาดีและใครเป็นคนตาบอด

ดังนั้น ในชีวิตประจำวัน ควรอย่างยิ่งที่จะคบบัณฑิตผู้มีปัญญา ผู้เป็นกัลยาณมิตรสูงสุด คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คบด้วยการฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงด้วยความเคารพและมีความจริงใจที่จะประพฤติปฏิบัติตามด้วย การคบบัณฑิต กัลยาณมิตรผู้มีปัญญา ย่อมนำมาซึ่งความเจริญทั้งปวง ไม่นำความเสื่อมมาให้เลยแม้แต่น้อย ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

ควรคบแต่บัณฑิต ไม่ควรคบคนพาล

คบบัณฑิต คอยเกื้อกูลในทางธรรมอยู่เสมอๆ

คบคนพาล ย่อมเป็นทางที่จะนำเราไปสู่ความเสื่อม

หนทางของคนพาล กับ บัณฑิต

อรรถกถา อกิตติจริยาที่ ๑ .. การไม่คบคนพาล การคบบัณฑิต

คนพาลเห็นโลกนี้เป็นปกติ

การไม่คบคนพาล การคบบัณฑิต เป็นอุดมมงตล

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 28 มี.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ในชีวิตประจำวัน โดยปกติของผู้ที่ยังหนาแน่นไปด้วยกิเลส เต็มไปด้วยอกุศลนานาประการ อกุศลจิตเกิดบ่อยมากเป็นพื้นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครใครก็ตาม พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงนั้นแสดงให้เห็นว่าใครเป็นบุคคลที่ควรคบ หรือ ไม่ควรคบ เพราะว่าบุคคลที่เราคบนั้น เป็นส่วนที่จะทำให้ชีวิตของเราเป็นไปในทางกุศล หรือ ทางอกุศล เป็นไปในทางเสื่อมหรือเป็นไปในหนทางแห่งความเจริญ ได้ แต่แม้อย่างนั้น พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็ยังส่องให้เห็นถึงประการหนึ่งที่สำคัญ คือ เพื่อน้อมพิจารณาตนเองว่าตนเองมีลักษณะเป็นอย่างไร มีกิเลสอกุศลอันวิจิตรมากน้อยเพียงไร พร้อมที่จะขัดเกลาให้เบาบางลงบ้างหรือยัง ด้วยความเข้าใจถูกเห็นถูก ดังนั้น จึงต้องอาศัยปัญญาเท่านั้น ที่จะทำให้เข้าใจสภาพธรรมทั้งหลายทั้งปวง ตามความเป็นจริงได้ ไม่ต้องหาความเป็นมิตรแท้จากบุคคลอื่น แต่เริ่มได้ที่ตัวเราเอง คือ มีความเป็นมิตร มีความหวังดีต่อบุคคลอื่น ไม่หวังร้ายต่อผู้อื่น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 29 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
jirat wen
วันที่ 29 มี.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
kullawat
วันที่ 2 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ก.ไก่
วันที่ 17 มี.ค. 2564

สาธุ

ไม่ต้องหาความเป็นมิตรจากบุคคลอื่น

เริ่มต้นที่ เ ร า มีความเป็นมิตร มีควาทหวังดี

ต่อบุคคลอื่น ไม่ทำร้ายบุคคลอื่น

สาธุ สาธุ สาธุ

17.03.64, 05:56

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 17 มี.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ