วรรคที่ ๓ แห่งเอกนิบาต ... วันเสาร์ที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๙

 
มศพ.
วันที่  5 มิ.ย. 2559
หมายเลข  27856
อ่าน  1,147

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••

... สนทนาธรรมที่ ...

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)
พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๙

วรรคที่ ๓ แห่งเอกนิบาต
(ว่าด้วยบุคคลคนเดียวที่เกิดขึ้นแล้วทำความพินาศแก่โลก เป็นต้น)

...จาก...

[เล่มที่ 33] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ ๑๙๑


[เล่มที่ 33] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ ๑๙๑

วรรคที่ ๓
(ว่าด้วยบุคคลคนเดียวที่เกิดขึ้นแล้วยังความพินาศแก่โลก เป็นต้น)

[๑๙๑] ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุคคลคนเดียว เมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้น เพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล ไม่เป็นความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความพินาศมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความทุกข์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย บุคคลคนเดียวคือใคร คือ บุคคลผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นวิปริต เขาทำให้คนเป็นอันมากออกจากสัทธรรมแล้ว ให้ตั้งอยู่ในอสัทธรรม ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุคคลคนเดียวนี้แล เมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล ไม่เป็นความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความนิพาศมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความทุกข์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

[๑๙๒] ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุคคลคนเดียว เมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้น เพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อประโยชน์แก่ชนเป็นอันมาก เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย บุคคลคนเดียวคือใคร คือ บุคคลผู้เป็นสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นไม่วิปริต เขาทำให้คนเป็นอันมากออกจากอสัทธรรมแล้ว ให้ตั้งอยู่ในสัทธรรม ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุคคลคนเดียวนี้แล เมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อประโยชน์แก่ชนเป็นอันมาก เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

[๑๙๓] ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราไม่เล็งเห็นธรรมอย่างอื่นแม้ข้อหนึ่ง ซึ่งจะมีโทษมากเหมือนอย่างมิจฉาทิฏฐินี้เลย ดูกร ภิกษุทั้งหลาย โทษทั้งหลายมีมิจฉาทิฏฐิเป็นอย่างยิ่ง

[๑๙๔] ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราไม่เล็งเห็นบุคคลอื่นแม้คนเดียวที่ปฏิบัติเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล ไม่เป็นความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความพินาศมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความทุกข์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เหมือนกับโมฆบุรุษชื่อว่ามักขลินี้เลย ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุคคลพึงทิ้งลอบไว้ที่ปากอ่าว เพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความทุกข์ เพื่อความเสื่อมความพินาศแก่ปลา เป็นอันมาก แม้ฉันใด โมฆบุรุษ ชื่อว่า มักขลิ ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล เป็นดังลอบสำหรับดักมนุษย์ เกิดขึ้นแล้วในโลก เพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความทุกข์ เพื่อความเสื่อม เพื่อความพินาศแก่สัตว์เป็นอันมาก

[๑๙๕] ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ชักชวนเข้าในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ๑ ผู้ที่ถูกชักชวนแล้วปฏิบัติเพื่อความเป็นอย่างนั้น ๑ คนทั้งหมดนั้น ย่อมประสบสิ่งมิใช่บุญเป็นอันมาก ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ชั่ว

[๑๙๖] ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ชักชวนเข้าในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ดี ๑ ผู้ที่ถูกชักชวนแล้วปฏิบัติเพื่อความเป็นอย่างนั้น ๑ คนทั้งหมดนั้น ย่อมประสบบุญเป็นอันมาก ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ดีแล้ว.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 5 มิ.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
© ข้อความโดยสรุป ©
วรรคที่ ๓
(ว่าด้วยบุคคลคนเดียวที่เกิดขึ้นแล้วยังความพินาศแก่โลก เป็นต้น)


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า
-บุคคลแม้จะเป็นเพียงคนเดียว ก็เป็นบุคคลที่เกิดมาเพื่อความพินาศแก่ชนเป็นอันมาก ได้แก่ คนที่มีความเห็นผิด เผยแพร่ความเห็นผิด ทำให้คนออกจากพระสัทธรรม ตั้งอยู่ในอสัทธรรม

-บุคคล แม้จะเป็นเพียงคนเดียว ก็เป็นบุคคลที่เกิดมาเพื่อความเจริญแก่ชนเป็นอันมาก คือ คนที่มีความเห็นถูก เผยแพร่ความจริง ทำให้คนออกจากอสัทธรรม ตั้งอยู่ในพระสัทธรรม

-สิ่งที่มีโทษมากอย่างยิ่ง คือ ความเห็นผิด

-ตัวอย่างบุคคลผู้มีความเห็นผิด ซึ่งเกิดมาแล้ว ก่อให้เกิดความพินาศแก่ชนหมู่มาก คือ เจ้าลัทธิชื่อ มักขลิ

-บุคคล ๒ ประเภท ที่ประสบสิ่งที่มิใช่บุญเป็นอันมาก คือ คนที่ชักชวนผู้อื่นในลัทธิความเห็นที่ไม่ใช่พระธรรมคำสอนที่ทำให้เข้าใจความจริง และ คนที่ประพฤติปฏิบัติตามที่ผู้อื่นชักชวนอย่างนั้น

-บุคคล ๒ ประเภท ที่ประสบบุญเป็นอันมาก คือ คนที่ชักชวนผู้อื่นในพระธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง และ คนที่น้อมประพฤติปฏิบัติตามที่ผู้อื่นชักชวนอย่างนั้น

ขอเชิญคลิกศึกษาเพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นได้ที่นี่ครับ

สัมมาทิฏฐิ
มิจฉาทิฏฐิ
มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิดจากความเป็นจริงของธรรม
เพราะไม่ได้ฟังธรรม ย่อมเสื่อมรอบ
ความเสื่อมและความเจริญของปัญญ

ชุด แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 0229
ชุด แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 0230

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 6 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
papon
วันที่ 7 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Guest
วันที่ 8 มิ.ย. 2559

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 8 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ศิริวงศ์
วันที่ 8 มิ.ย. 2559

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ประสาน
วันที่ 9 มิ.ย. 2559

สาธุๆ ๆ อนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
orawan.c
วันที่ 10 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 12 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ