วรรคที่ ๓ แห่งเอกนิบาต ... วันเสาร์ที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๐
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••
... สนทนาธรรมที่ ...
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)
พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๐
คือ
วรรคที่ ๓ แห่งเอกนิบาต
...จาก...
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๓๓ หน้าที่ ๑๙๒
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๓๓ หน้าที่ ๑๙๒
วรรคที่ ๓ แห่งเอกนิบาต
[๑๙๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ปรารภความเพียรในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ชั่ว.
[๒๐๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้เกียจคร้านในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ดี ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ดีแล้ว.
[๒๐๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่เกียจคร้านในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ย่อมอยู่เป็นสุข ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ชั่ว.
[๒๐๒] ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ผู้ปรารภความเพียรในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ดี ย่อมอยู่เป็นสุข ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ดีแล้ว.
อรรถกถา
บทว่า โย อารทฺธวีริโย โส ทุกฺขํ วิหรติ ความว่า ผู้ประกอบเนืองๆ ซึ่งวัตรมีการทำให้เร่าร้อนด้วยความร้อน ๕ แห่ง การทำความเพียรด้วยการหมกในหลุมทราย การพลิกไปมาในแสงพระอาทิตย์ (คือนอนกลางแดด) เพราะความเพียรในการนั่งกระหย่ง เป็นต้น ย่อมอยู่เป็นทุกข์ในปัจจุบัน. เมื่อคนผู้นั้นนั่นแหละสมาทาน (วัตร) ในลัทธิภายนอกพระศาสนา (เขา) เกิดในนรกด้วยวิบากของการประพฤติตบะนั้น ชื่อว่า ย่อมอยู่เป็นทุกข์ในสัมปรายภพ.
บทว่า โย กุสีโต โส ทุกขํ วิหรติ ความว่า แม้คนผู้เกียจคร้านนี้ ก็อยู่เป็นทุกข์ทั้งในปัจจุบันและสัมปรายภพ.
ถามว่า อยู่เป็นทุกข์อย่างไร. ตอบว่า บุคคลใด จำเดิมแต่บวชมา ไม่มีการใส่ใจโดยแยบคาย ไม่เรียนพระพุทธวจนะ ไม่กระทำอาจริยวัตรและอุปัชฌายวัตร ไม่กระทำวัตร (คือการปัดกวาด) ลานพระเจดีย์และลานโพธิ์. บริโภคศรัทธาไทย (ของที่เขาให้ด้วยศรัทธา) ของมหาชนด้วยการไม่พิจารณา ประกอบเนืองๆ ซึ่งความสบายในการนอนตลอดวันในเวลาตื่นขึ้นมาก็ตรึกด้วยวิตก ๓ ประการ (คือกามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก) บุคคลนั้นย่อมเคลื่อนจากภิกษุภาวะความเป็นภิกษุโดย ๒-๓ วันเท่านั้น ชื่อว่าอยู่เป็นทุกข์ในปัจจุบัน ด้วยประการอย่างนี้ และก็เพราะบวชแล้วไม่กระทำสมณธรรมโดยชอบ
คุณเครื่องเป็นสมณะ (พรหมจรรย์) ที่บุคคล
จับต้องไม่ดี ย่อมคร่าไปนรก เหมือนหญ้าคาที่บุคคล
จับไม่แน่น (แล้วดึงมา) ย่อมบาดมือนั่นแหละ
ฉะนั้น.
เขาย่อมถือปฏิสนธิในอบายทีเดียว ชื่อว่าย่อมอยู่เป็นทุกข์ในสัมปรายภพ ด้วยประการอย่างนี้.
บทว่า โย กุสีโต โส สุขํ วิหรติ ความว่า บุคคลกระทำการประพฤติตบะอะไรๆ ในการประพฤติตบะ ซึ่งมีประการดังกล่าวแล้วตามเวลา นุ่งผ้าขาว ทัดทรงดอกไม้และลูบไล้ของหอม บริโภคโภชนะที่อร่อย นอนบนที่นอนอันอ่อนนุ่มตามเวลา ย่อมอยู่เป็นสุขในปัจจุบันและสัมปรายภพ ก็เพราะเขาไม่ยึดมั่นการประพฤติตบะนั้น จึงไม่เสวยทุกข์ในนรกมากยิ่ง เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่าอยู่เป็นสุขในสัมปรายภพ.
บทว่า โย อารทฺธวีริโย โส สุขํ วิหรติ ความว่า บุคคลปรารภความเพียร จำเดิมแต่กาลที่ได้บวชมา ย่อมกระทำให้บริบูรณ์ในวัตรทั้งหลาย เรียนเอาพระพุทธพจน์ การทำกรรมในโยนิโสมนสิการ ครั้นเมื่อเขานึกถึงการบำเพ็ญวัตร การเล่าเรียนพระพุทธพจน์และการทำสมณธรรม จิตย่อมเลื่อมใส เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน ด้วยประการฉะนี้. แต่เมื่อไม่อาจบรรลุพระอรหัตในปัจจุบันย่อมจะเป็นผู้ตรัสรู้เร็วในภพที่เกิด เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าอยู่เป็นสุขแม้ในสัมปรายภพ.
จบอรรถกถา.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
© ข้อความโดยสรุป ©
วรรคที่ ๓ แห่งเอกนิบาต
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า
-ผู้ที่ปรารภความเพียรในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ย่อมอยู่เป็นทุกข์
-ผู้เกียจคร้านในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ดี ย่อมอยู่เป็นทุกข์
-ผู้ที่เกียจคร้านในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ย่อมอยู่เป็นสุข
-ผู้ปรารภความเพียรในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ดี ย่อมอยู่เป็นสุข
(ตามข้อความที่ปรากฏในพระสูตรและอรรถกถา)
ขอเชิญคลิกศึกษาเพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นได้ที่นี่ครับ
สัมมาทิฏฐิ
มิจฉาทิฏฐิ
มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิดจากความเป็นจริงของธรรม
เพราะไม่ได้ฟังธรรม ย่อมเสื่อมรอบ
ความเสื่อมและความเจริญของปัญญา
ชุด แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 0229
ชุด แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 0230
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...