พูดตามหรือเข้าใจตาม
ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การที่จะมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งได้จริงๆ ไม่ใช่เพียงการกล่าวธรรมตามที่ได้ฟังมาโดยที่ไม่เข้าใจธรรม แต่จะเป็นที่พึ่งได้จนสามารถดับทุกข์ได้ ไม่ต้องมาเกิดอีกเลย ก็ต้องศึกษาพระธรรมเพื่อเข้าใจความจริงที่พระสัมสัมสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ อบรมเจริญปัญญา เพื่อให้เกิดความเข้าใจถูกความเห็นถูกต้องในสิ่งที่มีจริงกำลังปรากฏทุกขณะ เพื่อค่อยๆ ละคลายกิเลสคือความไม่รู้ และความติดข้องซึ่งเป็นเหตุของทุกข์ที่เป็นเหตุให้ต้องเกิดแลัวตาย ตายแล้วเกิดต่อไปไม่สิ้นสุดอยู่ในสังสารวัฏฏ์. การอบรมเจริญปัญญาเพื่อเข้าใจความจริงเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยคุณความดีต่างๆ มีความเพียรมีความอดทนที่จะฟังความจริงต่อไป เป็นผู้ตรงต่อความจริงจึงจะรู้ความจริงได้ ท่านอาจารย์กล่าวไว้ไพเราะมาก ว่า ไม่หวั่นไหวในความจริงที่จะรู้ได้ไม่ว่ายามเจ็บไข้ได้ป่วยหรือขณะที่กำลังสนุกสนาน ไม่ว่ายามใด ความจริงสามารถรู้ได้ด้วยปัญญาที่ได้อบรมแล้ว การอบรมเจริญปัญญาเพื่อขัดเกลากิเลสอกุศลทั้งหลาย ทั้งหมดต้องอาศัยคุณความดีต่างๆ ซึ่งเป็นบารมี จึงจะสามารถค่อยๆ เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏได้ จนกระทั่งประจักษ์แจ้งความจริงดับกิเลสเป็นลำดับขั้น จนดับกิเลสหมดสิ้นเป็นสมุจเฉท การที่จะดับกิเลสได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกิเลสอกุศลสะสมมามีมาก เพราะเหตุนี้ในวันหนึ่งๆ อกุศลจึงเกิดมาก กุศลเกิดน้อยมากหรือไม่เกิดเลย จึงต้องอาศัยการอบรมบารมีทั้งหลาย แม้แต่พระโพธิสัตว์ก่อนที่จะตรัสรู้ความจริงจนถึงที่สุดเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์บำเพ็ญพระบารมียาวนานถึง ๔ อสงไขยแสนกัปป์ จึงดับกิเลสได้หมดสิ้น พระคุณอันยิ่งใหญ่นี้ เตือนว่า เราจะศึกษาธรรมเพื่อเข้าใจความจริงที่ลึกซึ้งหรือจะเพียงพูดตามโดยไม่เข้าใจความจริง.
[เล่มที่ 74] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ หน้าที่ 650
ปกิณณกกถา
อธิษฐานธรรม
อนึ่ง พึงทราบการสงเคราะห์ด้วยอธิษฐานธรรม ๔ แห่งบารมีเหล่านั้น แม้ ๖ อย่างด้วยประการฉะนี้ จริงอยู่อธิษฐานธรรม ๔ โดยรวมบารมีทั้งหมดไว้ คือ สัจจาธิษฐาน จาคาธิษฐาน อุปสมาธิษฐาน ปัญญาธิษฐาน ในอธิษฐานธรรมเหล่านั้น
ชื่อว่า อธิษฐาน เพราะเป็นเหตุตั้งมั่น. หรือเป็นที่ตั้งมั่น หรือเพียงตั้งมั่นเท่านั้น.
ชื่อว่า สัจจาธิษฐาน เพราะสัจจะและอธิษฐาน. หรือเพราะเป็นที่ตั้งแห่งสัจจะ หรือเพราะมีสัจจะเป็นอธิษฐาน. แม้ในอธิษฐานธรรมที่เหลือก็เหมือนอย่างนั้น. ในอธิษฐานธรรมนั้นโดยไม่ต่างกัน สัจจาธิษฐาน เพราะกำหนดบารมีทั้งปวง สมควรแก่ปฏิญญาของพระมหาสัตว์ ผู้อนุเคราะห์สรรพสัตว์สะสมบุญญาภินิหารในโลกุตตรคุณ.
จาคาธิษฐาน เพราะสละสิ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อสัจจะ
อุปสมาธิษฐาน เพราะสงบจากสิ่งไม่เป็นคุณของบารมีทั้งปวง.
ปัญญาธิษฐาน เพราะเป็นผู้ฉลาดในอุบายอันเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ด้วยอธิษฐานธรรมเหล่านั้น.
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
ขอเชิญคลิกฟังได้ที่ ...
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ 231
.........พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงบำเพ็ญทานบารมี ทรงบำเพ็ญศีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารมี ขันติบารมี สัจจบารมี อธิฏฐานบารมี เมตตาบารมี และอุเบกขาบารมี ทรงบำเพ็ญบารมี ๓๐ ถ้วนคือ บารมี ๑๐ เหล่านี้ อุปบารมี ๑๐ ปรมัตถบารมี ๑๐ ทรงบริจาคมหาบริจาค ๕ เหล่านี้ คือ บริจาคอวัยวะ ๑ บริจาคตน ๑ บริจาคทรัพย์ ๑ บริจาคภริยา ๑ บริจาคราชสมบัติ ๑ โดยทำนองเดียวกับที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายมีพระวิปัสสีเป็นต้น เสด็จมาอย่างใด แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าของเราทั้งหลาย ก็เสด็จมาอย่างนั้น เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่า ตถาคต.
ขอเชิญคลิกฟังได้ที่ ...
การสะสมบารมีนั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร พอ.6331
ศึกษาธรรมเพื่อเข้าใจเป็นบารมี พอ.5282
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ