ความจริงสามารถรู้ได้มีอยู่ทุกขณะ

 
เมตตา
วันที่  8 ธ.ค. 2566
หมายเลข  47053
อ่าน  669

สนทนาธรรม ณ แดนพุทธภูมิ วันอาทิตย์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ช่วงบ่าย

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 139

๘. มหาลิสูตร

ว่าด้วยเหตุปัจจัยแห่งความบริสุทธิ์

[๑๓๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน กรุงเวสาลี ครั้งนั้นแล เจ้ามหาลิลิจฉวีได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ท่านปูรณกัสสปพูดอย่างนี้ว่า เหตุไม่มี ปัจจัยไม่มี เพื่อความเศร้าหมองของสัตว์ สัตว์ทั้งหลายไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัย ย่อมเศร้าหมองเอง เหตุไม่มี ปัจจัยไม่มี เพื่อความบริสุทธิ์ของสัตว์ สัตว์ทั้งหลายไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัย ย่อมบริสุทธิ์เอง ในข้อนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างไร พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนมหาลิ เหตุมี ปัจจัยมี เพื่อความเศร้าหมองของสัตว์ สัตว์ทั้งหลายมีเหตุ มีปัจจัย ย่อมเศร้าหมอง เหตุมี ปัจจัยมี เพื่อความบริสุทธิ์ของสัตว์ สัตว์ทั้งหลายมีเหตุ มีปัจจัย ย่อมบริสุทธิ์.

ท่านอาจารย์: เห็นเมื่อกี๊นี้หมดแล้วยัง ดับแล้วยัง?

ชาวอินเดีย: ดับครับ

ท่านอาจารย์: ได้ยิน ดับแล้วยัง?

ชาวอินเดีย: ดับแล้ว

ท่านอาจารย์: คิด ดับแล้วยัง?

ชาวอินเดีย: ดับแล้ว

ท่านอาจารย์: ไม่ให้เกิดได้ไหม?

ชาวอินเดีย: ห้ามไม่ได้

ท่านอาจารย์: เพราะอะไร?

ชาวอินเดีย: เพราะบังคับไม่ให้เกิดไม่ได้

ท่านอาจารย์: เดี๋ยวนี้ปีติไหมที่ได้รู้ความจริง?

ชาวอินเดีย: ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะ ความจริงเป็นธรรมทั้งหมดตั้งแต่เกิดจนตาย สิ่งที่เกิดขึ้นดับแล้ว เพราะมีปัจจัยที่จะให้เกิด เพราะฉะนั้น ตายแล้วก็เกิดอีก เห็นอีก ได้ยินอีก เหมือนอย่างนี้

ความจริงสามารถที่จะรู้ได้ มีอยู่ทุกขณะ เพราะฉะนั้น เมื่อวานนี้หมดแล้ว เมื่อเช้านี้หมดแล้ว และทุกขณะที่มีขณะนี้ก็ดับไป แต่ก็มีปัจจัยทำให้อย่างอื่นเกิดขึ้นไม่มีวันจบสิ้น ตราบใดที่ยังมี ปัจจัย ที่จะทำให้เกิดขึ้น

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้า 225

คหปติวรรคที่ ๓

๑. เวสาลีสูตร

ว่าด้วยเหตุปัจจัยที่สัตว์ไม่ปรินิพพานและปรินิพพาน

[๑๙๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลาในป่ามหาวัน กรุงเวสาลี ครั้งนั้นแล อุคคคฤหบดีชาวกรุงเวสาลี ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ฯลฯ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เหตุปัจจัยอะไรหนอแล ที่สัตว์บางพวกในโลกนี้ไม่ปรินิพพานในปัจจุบัน อนึ่ง เหตุปัจจัยอะไร ที่สัตว์บางพวกในโลกนี้ปรินิพพานในปัจจุบัน พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า มีอยู่แล คฤหบดี รูปทั้งหลายอันบุคคลพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก อาศัยความใคร่ ชวนให้กำหนัด หากว่าภิกษุเพลิดเพลิน สรรเสริญ หมกมุ่นรูปนั้น เมื่อภิกษุนั้นเพลิดเพลิน สรรเสริญ หมกมุ่นรูปนั้นอยู่ วิญญาณอันอาศัยซึ่งตัณหานั้นย่อมมี อุปาทานอันอาศัยซึ่งตัณหานั้นก็ย่อมมี ภิกษุผู้มีอุปาทานย่อมไม่ปรินิพพาน ฯลฯ ธรรมารมณ์อันบุคคลพึงรู้แจ้งด้วยใจ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก อาศัยความใคร่ ชวนให้กำหนัด หากว่าภิกษุเพลิดเพลิน สรรเสริญ หมกมุ่นธรรมารมณ์นั้น เมื่อภิกษุนั้นเพลิดเพลิน สรรเสริญ หมกมุ่นธรรมารมณ์นั้นอยู่ วิญญาณอันอาศัยซึ่งตัณหานั้นย่อมมี อุปาทานอันอาศัยซึ่งตัณหานั้นก็ย่อมมี ภิกษุผู้มีอุปาทานย่อมไม่ปรินิพพาน ดูก่อนคฤหบดี เหตุปัจจัยนี้แล ที่สัตว์บางพวกในโลกนี้ไม่ปรินิพพานในปัจจุบัน.

[๑๙๒] ดูก่อนคฤหบดี รูปอันบุคคลพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก อาศัยความใคร่ ชวนให้กำหนัด หากว่าภิกษุไม่เพลิดเพลิน ไม่สรรเสริญ ไม่หมกมุ่นรูปนั้น เมื่อภิกษุนั้นไม่เพลิดเพลิน ไม่สรรเสริญ ไม่หมกมุ่นรูปนั้นอยู่ วิญญาณอันอาศัยซึ่งตัณหานั้นย่อมไม่มี อุปาทานอันอาศัยซึ่งตัณหานั้นย่อมไม่มี ภิกษุผู้ไม่มีอุปาทานย่อมปรินิพพาน ฯลฯ ธรรมารมณ์อันบุคคลพึงรู้แจ้งด้วยใจ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก อาศัยความใคร่ ชวนให้กำหนัด หากภิกษุไม่เพลิดเพลิน ไม่สรรเสริญ ไม่หมกมุ่นธรรมารมณ์นั้น เมื่อภิกษุนั้นไม่เพลิดเพลิน ไม่สรรเสริญ ไม่หมกมุ่นธรรมารมณ์นั้นอยู่ วิญญาณอันอาศัยซึ่งตัณหานั้นย่อมไม่มี อุปาทานอันอาศัยซึ่งตัณหานั้นย่อมไม่มี ภิกษุผู้ไม่มีอุปาทานย่อมปรินิพพาน ดูก่อนคฤหบดี เหตุปัจจัยนี้แล ที่สัตว์บางพวกในโลกนี้ปรินิพพานในปัจจุบัน.

จบ เวสาลีสูตรที่ ๑

ท่านอาจารย์: เริ่มเข้าใจมั่นคง ไม่มีเรา เป็นธรรมที่ต้องเกิด แล้วก็ดับ แล้วก็เกิด แล้วก็ดับ แต่ละหนึ่งเกิดแล้วก็ดับ แล้วไม่กลับมาอีกเลยในสังสารวัฏฏ์

ชาตินี้เกิดแล้วก็ต้องจบสิ้นด้วยความตาย จะเป็นคนนี้ต่อไปอีกไม่ได้เลยแม้สักขณะเดียว.

ขอเชิญอ่านได้ที่ ..

เกิดเพราะเหตุปัจจัย

ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตาแต่ไม่อิสระเพราะต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัย

ขอเชิญฟังได้ที่ ...

สภาพธรรมต้องมีเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้นได้

พระธรรมไม่ใช่เรื่องคิดเอง

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
siraya
วันที่ 9 ธ.ค. 2566

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 9 เม.ย. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ