ความตายเป็นของแน่
สำหรับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะฟังเรื่องของความตายโดยลักษณะต่างๆ และ รู้ว่า ความตายเป็นของแน่ ควรที่สติจะระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏบ่อยๆ เนืองๆ
แต่อกุศลที่ได้สะสมมามากก็ทำให้เป็นผู้หลงลืมสติอยู่เสมอ และมีความยินดีพอใจในสิ่งที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายเป็นประจำ และ ยังมีโทสะ ความขุ่นเคืองใจ เวลากระทบกับสิ่งที่ไม่น่าพอใจทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ โดยที่ไม่สามารถให้กิเลสหมดไปได้อย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ฟัง ทั้งๆ ที่รู้ เพราะฉะนั้น เป็นเรื่องที่จะต้องฟัง และอบรมเจริญปัญญา และเห็นโทษของอกุศลจริงๆ
ที่มา อ่าน และฟังเพิ่มเติม
กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
ผู้ฟัง : ท่านอาจารย์ แต่คนมักจะกลัวก่อนตาย ที่ทรมาน
ท่านอาจารย์ :ก็ขอเล่าถึงพี่เขยเป็นมะเร็ง สบายมากเลย อยู่โรงพยาบาล ทานไอศครีมก็ได้ อะไรก็ได้ทุกอย่างแล้วก็ตาย เป็นมะเร็งที่ไม่ทำให้เกิดความเจ็บ ดีไหม แล้วจะกลัวอะไร
เพราะฉะนั้น เรากลัวอะไร กลัวกรรมซึ่งเป็นเหตุให้เกิดผลใช่ไหม และกรรมนั้นก็มาจากกิเลส ก็ต้องเห็นโทษของกิเลส เพราะฉะนั้น ถ้าตราบใดที่ยังไม่เห็นโทษของกิเลสจะพ้นสิ่งที่ไม่น่าพอใจไม่ได้..
ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรม ไม่มีทางที่จะเข้าใจอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริงได้เลย ความไม่รู้ เป็นหัวหน้าของกิเลสทั้งหมด ไม่รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด ก็ทำในสิ่งที่ผิดๆ คืออกุศลกรรม แล้วที่ไม่รู้ที่น่ากลัวคือ ไม่รู้ว่า สภาพธรรมกำลังเป็นไปที่แสดงว่ากำลังตายทุกขณะนั้น คืออย่างไร แม้จิตสุดท้ายในชาตินี้ จะเกิดขึ้นวันใดเวลาใด ที่ไหน เป็นสิ่งที่บังคับบัญชาไม่ได้ จึงเป็นผู้ประมาทไม่ได้สะสมสิ่งที่มีค่าสาระ
ดังนั้น แทนที่จะกลัวตาย ควรอาศัยเวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ศึกษาพระธรรมสะสมความเข้าใจความจริง เจริญกุศลทุกประการ เป็นเพื่อนเป็นมิตรเป็นแสงส่องในการเดินทางไกลในสังสารวัฎฎ์
ศึกษาเพิ่มเติมที่
ความไม่รู้เกิดจากสิ่งใด
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอบพระคุณมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาในธรรมทาน