ในขณะที่หลับสนิทจริงๆ ...
อย่างหนึ่งที่ทราบคือเมื่อตื่น จิตขึ้นวิถีก็ยังคงเป็นบุคคลเดิมในชาตินี้ ครับ แต่ถ้าตายไปแล้วก็คงไม่ตื่น สิ้นสุดความเป็นบุคคลในชาตินี้ทันที
อยากทราบความคิดเห็นท่านอื่นครับ
ในขณะที่หลับสนิท ต่างกับขณะที่ตายไปแล้ว คือขณะหลับสนิท ยังมี จิต เจตสิก จิตตชรูป กรรมชรูป อาหารชรูป อุตุชรูปเป็นไปอยู่ แต่จิตไม่รับรู้อารมณ์ในโลกนี้ ขณะที่ตายไปแล้ว ร่างกายเหลือเพียงอุตุชรูปเท่านั้น ไม่มีการรับรู้อารมณ์เช่นกัน เมื่อเกิดขึ้นในภพใหม่ ย่อมมีการตามยึดถือในสิ่งที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัสและคิดนึกว่า เป็นเรา ของเราอีก เพราะยังดับกิเลสไม่ได้ ย่อมเป็นเช่นนี้แล
ไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือว่าเสียชีวิต (จุติจิตเกิด) เหมือนกัน ตรงที่ทั้งสองขณะเป็นธรรมะ ไม่มีเรา และก็ไม่มีทรัพย์สินของเรา มีแต่เพียงสภาพธรรมที่เกิดดับตามเหตุปัจจัยอย่างรวดเร็ว และที่ ต่างกัน ก็เพียงแต่ว่า ตอนตายแล้ว ภวังคจิตที่รู้อารมณ์เดียวกันกับปฏิสนธิจิตที่ดับไปแล้วในชาตินั้น ไม่มีโอกาสเกิดได้อีก ส่วนตอนที่ยังไม่ตาย ยังมีการเกิดขึ้นของภวังคจิตที่ทำกิจดำรงภพชาติความเป็นบุคคลนั้นไว้ และก็มีการเกิดขึ้นของจิตที่เป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้างวิบากบ้าง กิริยาบ้าง ในวิถีจิตทางทวารต่างๆ (สำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์) ที่ยังมีความจำได้ว่าเป็นเรา เป็นทรัพย์สมบัติของเรา ก็เพราะผู้ที่เป็นปุถุชน ยังมีปัจจัยให้โลภมูลจิตที่เกิดร่วมกับทิฏฐิเจตสิกเกิดได้ จึงมีการยึดถือสิ่งต่างๆ ด้วยความเห็นผิดว่าเป็นเราหรือเป็นของๆ เรา โดยมีสัญญาที่เกิดร่วมกับจิตในขณะนั้น ทำกิจ "จำผิด" ว่าสิ่งต่างๆ ที่ตนครอบครองไว้นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เที่ยง งาม มีตัวตนและเป็นสุข ซึ่งแท้ที่จริงแล้วทั้งหมดเป็นลักษณะของความเห็นผิด ที่จะนำไปสู่การประพฤติปฏิบัติผิดไปจากสัมมามรรคมีองค์ ๘ ทั้งหมด ที่เป็นอย่างนี้ เพราะมีสาเหตุสำคัญมาจากอวิชชา คือความไม่รู้นั่นเองครับ
คลิกฟังที่นี่ครับ --> 4720 ภวังคจิตคืออะไร
2709 การเข้าใจภวังคจิตในชีวิตประจำวัน 3538 ภวังคจิตเกิดต่อจากปฏิสนธิจิต 4343 โลภะชอบทุกอย่างแม้ภวังคจิต