สัจจะ...สัจจกิริยา (ตอนที่ ๕)

 
เมตตา
วันที่  26 ธ.ค. 2554
หมายเลข  20238
อ่าน  6,613

เมื่อก่อนข้าพเจ้าก็เป็นผู้หนึ่ง เมื่อมีภัยอันตรายจะมาถึงตัว ก็จะทำสัจจกิริยาเพื่อให้ตนจะได้พ้นจากภัย เพราะเคยได้อ่านพระสูตร ได้แสดงถึงพระโพธิสัตว์ได้ทำสัจจกิริยาแล้ว ผลก็เป็นไปตามที่ปรารถนา สำหรับข้าพเจ้าเองนั้นยังไม่ได้เข้าใจความจริงความลึกซึ้งของธรรมเลย หวังแต่ผล โดยเหตุยังไม่มี

สัจจกิริยานั้นจะให้ผลตามที่ต้องการจริงหรือ เมื่อเหตุมี ผลย่อมมีสมควรแก่เหตุนั้นๆ สัจจกิริยานั้นเป็นกุศล ผลของกุศลจึงต้องมี ท่านอาจารย์ได้บรรยายไว้ในหนังสือบารมีในชีวิตประจำวันไว้ ดังนี้

ก่อนที่จะกระทำสัจจกิริยา ผู้นั้นต้องระลึกถึงคุณของสัจจะ ต้องเป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ เห็นคุณของสัจจะ และเป็นผู้ที่บำเพ็ญสัจจบารมี ไม่ใช่ว่าใครก็ตาม ลำบากตกทุกข์ได้ยาก ก็จะใช้สัจจกิริยาโดยที่ไม่รู้ว่าสัจจะคืออะไร และก็ไม่เข้าใจด้วยว่าสัจจะมีคุณอย่างไร เพียงแต่ได้ฟังว่า ถ้ากล่าวสัจจกิริยาแล้วผลจะเป็นไปตามความปรารถนา ความจริงจะเป็นเช่นนั้นไม่ได้ เพราะกำลังของกุศลต้องขึ้นอยู่กับกำลังของความรู้ประโยชน์ของสัจจะ และต้องเป็นผู้ที่บำเพ็ญสัจจะด้วย ถ้าเป็นผู้ที่สะสมสัจจบารมี รู้ประโยชน์เห็นคุณของสัจจะ และบารมีอื่นๆ มีกำลัง เมื่อถึงคราวที่จะกล่าวสัจจะ ผลก็ย่อมเป็นไปได้ แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน ต้องแล้วแต่กำลังของกุศลนั้นๆ ด้วย

ขอกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 26 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เซจาน้อย
วันที่ 26 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 26 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 26 ธ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pat_jesty
วันที่ 26 ธ.ค. 2554

รบกวนสอบถามเพื่อความเข้าใจชัดเจนขึ้นอีกนิดหนึ่งค่ะ ว่า "สัจจกิริยา" คืออะไรคะ หมายถึงการกระทำ กิริยาอาการ หรืออย่างอื่นคะ

ขอบคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 26 ธ.ค. 2554

เรียน ความเห็นที่ 5 ครับ

สัจจกิริยา คือการกระทำด้วยสัจจะ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจ โดยความเป็นผู้ตรง โดยการแสดงออกทางวาจาด้วยการกระทำที่เป็นสัจจะ ความจริง เช่น กล่าวด้วยวาจาตามความเป็นจริงที่เป็นสัจจะ โดยการกล่าว่า ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยคิดเบียดเบียนสัตว์เลย ด้วยวาจาสัจจะนี้ ขอความสวัสดี จงมีกับมารดาผู้ป่วยอยู่ เป็นต้น คือเป็นการกล่าววาจาสัจจะ ความจริง ที่มีอยู่ในตน

หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง พระโพธิสัตว์ เกิดเป็นลูกนก ถูกไฟป่าไหม้ ท่านไม่เห็นคุณอย่างอื่น จึงตั้งใจทำสัจจกิริยา คือการกระทำด้วยสัจจะ ด้วยการกล่าวความจริงด้วยวาจา โดยกล่าวด้วยวาจาที่ว่า

ปีกของเรามีอยู่ แต่บินไปไม่ได้ เท้าของเรามีอยู่ แต่ยังเดินไม่ได้ มารดาบิดาก็พากันบินออกไปแล้ว แน่ะไฟ จงกลับไปเถิด

ซึ่งพร้อมกับกล่าวจบ ไฟก็ไม่ลามมาถึงพระโพธิสัตว์ หยุดอยู่ตรงนั้นนั่นเอง ด้วยคุณ คือการกล่าวความจริง กล่าววาจาสัจจะที่เป็นความจริง อันเป็นสัจจกิริยา คือการกระทำด้วยสัจจะครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
daris
วันที่ 26 ธ.ค. 2554

ขอกราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pat_jesty
วันที่ 26 ธ.ค. 2554

อ้อ ... เข้าใจแล้วค่ะ ตอนแรกที่อ่าน ก็คิดว่าน่าจะมีความหมายทำนองนี้ แต่ไม่ได้กล่าวไว้ชัดเจน จึงเรียนถามผู้รู้ให้แน่ใจ ไม่อยากคิดเอง เดี๋ยวจะเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนน่ะค่ะ
ขอบพระคุณคุณผเดิม พี่เมตตา และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 27 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.ผเดิม เป็นอย่างมากค่ะ กำลังค้นหาอยู่แต่ไม่พบพระโพธิสัตว์สมัยที่เกิดเป็นลูกนกว่า ท่านทำสัจจกิริยาอย่างไร ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

ขอยกตัวอย่างอีกพระสูตร ที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นฤาษี ชื่อว่า กัณหทีปายนะ

[เล่มที่ 74] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้า 494

อรรถกถากัณหทีปายนจริยาที่ ๑๑

พึงทราบวินิจฉัยในอรรถกถากัณหทีปายนจริยาที่ ๑๑ ดังต่อไปนี้.

บทว่า กณฺหทีปายโน อิสิ คือดาบสมีชื่อว่า กัณหทีปายนะ.

ได้ยินว่า พระโพธิสัตว์ในกาลนั้นชื่อว่า ทีปายนะ …

บทว่า อนภิรโต จรึ อห คือเราอยู่ประพฤติพรหมจรรย์อย่างไม่ยินดี ในเสนาสนะสงัดและในธรรมอันเป็นอธิกุศล. ครั้นบวชแล้วพระมหาสัตว์ยินดีประพฤติพรหมจรรย์อยู่ ๗ วันเท่านั้น. ต่อจากนั้นก็อยู่อย่างไม่ยินดี.

ก็เพราะเหตุไร พระมหาบุรุษในอัตภาพหลายแสนมีอัธยาศัยในเนกขัมมะยินดีอยู่พรหมจรรย์ แต่ในจริยานี้ไม่ยินดีพรหมจรรย์นั้น. เพราะความหวั่นไหวแห่งความเป็นปุถุชน. ก็เพราะเหตุไร จึงไม่ครองเรือนใหม่เล่า เพราะครั้งแรกเห็นโทษในกามทั้งหลาย ด้วยมีอัธยาศัยในเนกขัมมะจึงบวช เมื่อเป็นดังนั้นพระมหาบุรุษจึงเกิดความไม่ยินดีด้วยมิได้ใส่ใจโดยแยบคาย.

[เล่มที่ 74] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้า 501

พราหมณ์ผู้เป็นสหายของเราได้พาภรรยาและบุตรต่างถือสักการะสำหรับต้อนรับแขก รวม ๓ คนมาหาเรา เรานั่งเจรจาปราศัยกับสหายและภรรยาของเขาอยู่ในอาศรมของตน. เด็กโยนลูกข่างเล่นอยู่ ทำงูเห่าให้โกรธแล้ว ทีนั้นเด็กนั้นเอามือควานหาลูกข่างไปตามปล่องจอมปลวก ควานไปถูกเอาหัวงูเห่าเข้า พอมือไปถูกหัวของมัน งูก็โกรธอาศัยกำลังพิษ เคืองจนเหลือจะอดกลั้น ได้กัดเด็กในทันที พร้อมกับถูกงูกัด เด็กล้มลงที่พื้นดิน ด้วยกำลังพิษกล้า เหตุนั้น เราเป็นผู้ได้รับทุกข์ หรือเรามีความรักจึงเป็นทุกข์ เราได้ปลอบมารดาบิดาของเด็กนั้นผู้มีทุกข์เศร้าโศกให้สร่างแล้ว ได้ทำสัจกิริยาอันประเสริฐสุด.

ครั้งหนึ่งพระโพธิสัตว์ชื่อกัณหทีปายนะ ได้ช่วยพยาบาลเพื่อนชื่อมัณฑัพยะดาบสซึ่งถูกเสียบเหลาให้หาย ต่อมามัณฑัพยะดาบสได้พาบุตรและภริยาพร้อมของสักการะเดินทางมาหาท่านกัณหทีปายนะระหว่างนั่งคุยกัน ลูกของเพื่อนได้เล่นลูกข่าง ลูกข่างได้ตกไปที่จอมปลวก เด็กเอามือควานหาลูกข่างก็ถูกงูเห่ากัด เด็กก็ล้มลงเพราะพิษงูที่แรง พระโพธิสัตว์ได้ปลอบมารดาบิดาของเด็กนั้นให้หายสร่าง แล้วได้ทำสัจจกิริยาว่า ...

เราต้องการบุญ ได้ประพฤติพรมหจรรย์ มีจิตเลื่อมใสอยู่ ๗ วันเท่านั้น. ต่อแต่นั้นมา การประพฤติของเรา (ด้วยจิต) ไม่เลื่อมใส ๕๐ ปีเศษ. เราไม่ปรารถนาจะประพฤติเสียเลย ด้วยความสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่เด็กนี้เถิด พิษจงระงับ ยัญญทัตตกุมารจงเป็นอยู่.

พร้อมกับเมื่อเราทำสัจกิริยา เด็กหวั่นไหวด้วยกำลังพิษไม่รู้สึกตัว ได้ฟื้นกายหายโรค ลุกขึ้นได้.

... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยค่ะ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เมตตา
วันที่ 27 ธ.ค. 2554

การศึกษาพระธรรม จุดประสงค์ที่สำคัญที่สุด ก็เพื่อเข้าใจ ความเข้าใจเป็นปัญญา ปัญญาเท่านั้นที่จะเป็นเหตุให้กุศลธรรมขั้นต่างๆ เจริญขึ้นตามลำดับ กุศลธรรมต่างๆ จะเกิดขึ้นได้นั้น ไม่ใช่เกิดจากการทำ แต่เกิดจากความเข้าใจธรรม การพิจารณาธรรมโดยแยบคาย สะสมการพิจารณาธรรม ไตร่ตรองธรรมโดยละเอียดรอบคอบ ความเข้าใจธรรมจึงจะเป็นปัจจัยให้กุศลธรรมขั้นต่างๆ ค่อยๆ เจริญขึ้นได้ โดยไม่มีตัวตนคิดที่จะทำ แต่เป็นธรรมะปฏิบัติธรรมะค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
jaturong
วันที่ 27 ธ.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
วิริยะ
วันที่ 27 ธ.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
intra
วันที่ 27 ธ.ค. 2554

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
kinder
วันที่ 27 ธ.ค. 2554
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
j-atosa
วันที่ 28 ธ.ค. 2554

สาธุค่ะ กำลังศึกษาอยู่กับคำว่าสัจจกิริยาอยู่พอดี

กราบขอบพระคุณพี่เมตตานะคะและท่านอาจารย์ทุกๆ ท่านค่ะ

แล้วสัจจกิริยาตอนที่ ๑-๔ มีมั้ยคะ รบกวนขอลิงก์ด้วยได้มั้ยคะ จะได้ศึกษาให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นค่ะ

กราบขอบพระคุณค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
เมตตา
วันที่ 28 ธ.ค. 2554

เรียน น้อง j-atosa

ต้องขออนุโมทนาในกุศลวิริยะในการศึกษาพระธรรมค่ะ

หัวข้อกระทู้ว่าสัจจะ ... สัจจกิริยา (ตอน ๕)

สัจจกิริยา มีแค่ตอนเดียวค่ะ ส่วนอีก ๔ ตอน ก็เป็นหัวข้อเกี่ยวกับ เรื่องสัจจะ ... ดังนี้ค่ะ

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

สัจจะ...สัจจะในอกุศล (ตอนที่ ๔)

สัจจะ...คุณของสัจจะ (ตอนที่ ๓)

สัจจะ...พึงรักษาวจีสัจจะ (ตอนที่ ๒)

สัจจะ...สัจจาธิษฐาน (ตอนที่ ๑)

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
j-atosa
วันที่ 29 ธ.ค. 2554

ขอบพระคุณมากค่ะพี่เมตตา

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
peem
วันที่ 17 ก.พ. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ