นั่งสมาธิดูลมหายใจเข้าหายใจออก
นั่งไปซักพักดูลมไปจิตตั้งมั้นเป็นดวงกลมสว่างกลางหน้าผาก แล้วก็วิ่งไปวิ่งมา มีหลายสีวิ่งไปตามร่างกายแต่ไม่เห็นร่างกาย วิ่งออกไปในจักรวาร เห็นอาทิตย์พระจันทร์วิ่งกลับเข้ามา แล้วหายไปเปลี่ยนเป็นเวทนาความเจ็บร่างกายตรงนั่นก็ดูตรงนั้นพอตรงนั้นหาย ก็เป็นตรงนี่้ พอตรงนี้หายก็กลายเป็นดวงวิ่งรวมตัวอยู่ในร่างกาย แล้วผมต้องทำยังไงต่อครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระพุทธศาสนา คือ คำสั่งสอน ของผู้รู้ ดังนั้น คำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง จึง
เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญา ปัญญา คือ ความรู้ อวิชชา คือ ความไม่รู้ เป็น
อกุศล ดังนั้น สิ่งใดก็ตามที่ทำแล้ว ทำให้ไม่รู้มากขึ้น มีแต่ความสงสัย ที่สำคัญ ทำ
ให้ผิดปกติในชีวิตประจำวัน นั่นไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าครับ
การปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา จึงไม่ได้หมายถึง การนั่งสมาธิ แต่ การปฏิบัติธรรม
ในพระพุทธศานา เป็นการระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ว่าเป็นธรรม
ไม่ใช่เรา
หากเราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วเกิดความผิดปกติเกิดขึ้น เราควรจะทำสิ่งนั้นต่อหรือ
ไม่ครับ ไม่แน่นอนครับ เพราะเราเริ่มรู้ว่า มันผิดปกติไป ทำให้มีแต่ความเสียหาย ใน
การงานที่ทำ เพราะทำแล้วผิดปกติ ฉันใด การอบรมปัญญาในพระพุทธศาสนา ที่ถูก
ต้อง ย่อมไม่ผิดปกติ แต่รู้ความจริงที่มีในชีวิตประจำวัน หากทำแล้วผิดปกติ ผู้ที่ศึกษา
สนใจในพระพุทธศาสนา จึงควรสำเหนียกว่า สิ่งที่ทำนั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะได้เกิด
ความผิดปกติมากขึ้นจากเดิมแล้วครับ เริ่มต้นใหม่ ในสิ่งที่ถูก แม้ช้า ดีกว่า ทำต่อไป
แล้วก็เกิดความผิดปกติ
ซึ่งกุศล และ ปัญญา จะผิดปกติไม่ได้เลย นอกความความไม่รู้และอกุศลทีเกิดขึ้นใน
ขณะนั้น ทำให้เกิดความผิดปกติ มีได้ยินเสียงต่างๆ เป็นต้นครับ
ขอเชิญคลิกอ่านกระทู้ต่อไปนี้นะครับ มีประโยชน์มากเลย
สำหรับผู้ที่อยากจะปฏิบัตินั่งสมาธิ
เชิญคลิกอ่านนะครับ มีประโยชน์มาก ครับ
สมาธินั้น...แค่ไหนจึงเป็นมิจฉาสมาธิ แค่ไหนจึงเป็นสัมมาสมาธิ.
เชิญคลิกฟังที่นี่ครับ
นั่งสมาธิเป็นการปฏิบัติธรรมไหม
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ถ้าไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ ด้วยความติดข้องต้องการ นั่น ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง
ไม่ใช่หนทางที่จะเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกเลย
หนทางเดียว ที่จะทำให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังมีกำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง นั้น ต้องฟังพระธรรม ต้องศึกษาพระธรรมที่
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ด้วยความตั้งใจจริงๆ เพราะพระธรรมทั้งหมดนั้น
แสดงให้ผู้ฟังผู้ศึกษาได้เข้าใจตามความเป็นจริง และสภาพธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงนั้น
มีจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องไปทำอะไรที่ผิดปกติขึ้นมาในการที่จะรู้ธรรม ต้องเป็นปกติจริงๆ ไม่ใช่ผิดปกติ แม้แต่ในเรื่องของ สมาธิ ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าได้ศึกษาอย่างละเอียดแล้ว จะไม่เข้าใจผิดเลย จะไม่เข้าใจผิดว่าสมาธิเป็นรูปแบบของการปฏิบัติ
ก็ขอให้ตั้งต้นที่การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ด้วยความตั้งใจ พิจารณาไตร่ตรอง
ในเหตุในผล ให้เข้าใจเป็นปัญญาของตนเองจริงๆ จากที่เคยผิดพลาดพลั้ง ก็จะ
ค่อยๆ ถอยกลับจากสิ่งที่ผิดนั้น เมื่อได้เข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว และจะเห็นถึงความ
น่าอัศจรรย์ของพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ว่าเป็นไปเพื่อความ
เข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งออกจากสังสารวัฏฏ์ ไม่มีคำสอนแม้
แต่บทเดียว ที่ส่งเสริมให้ไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ เป็นไปไม่ได้เลยที่พระสัมมาสัม
พุทธเจ้า จะสอนให้คนไม่รู้ มีแต่ทรงสอนให้เข้าใจถูกเห็นถูกเป็นปัญญาของแต่ละ
คนจริงๆ ถ้ามีความตั้งใจที่จะฟัง ที่จะศึกษาด้วยความจริงใจแล้ว ความเข้าใจก็จะ
ค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ ครับ.
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...