....เทวบุตรมาร...
ขอคำอธิบายเพิ่มเติมคะ...จาก ปรมัตถทีปนี อรรถกถาขุททกนิกาย อุทาน เล่มที่ 1 ภาคที่ 3 อรรถกถาทุติยกามสูตร หน้า 674 (เล่มที่44) มีข้อความว่า จริงอยู่ บุคคลที่ถูกกิเลสมารผูกพันไว้ ด้วยอารมณ์ใด ก็เป็นอันชื่อว่า ถูกเทวบุตรมารผูกพันไว้ด้วยอารมณ์นั้น ไม่เข้าใจคะ...ตรงที่กล่าวว่า...ก็เป็นอันชื่อว่า ถูกเทวบุตรมารผูกพันไว้ๆ อย่างไรคะ ขอบคุณค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมละเอียดลึกซึ้งมาก แม้แต่คำว่ามาร ที่เป็นเทวบุตรมารก็มีหลากหลายนัย โดยทั่วไปเรามักเข้าใจว่าหมายถึงเทวดาไม่ดีที่เป็นพญามาร แต่อีกนัยหนึ่ง เทวปุตตมาร ในอรรถกถาที่ผู้ถามถามมามีอีกนัยที่ว่า เทวปุตตมาร คือ ผูกสัตว์ไว้ให้ถึงความพินาศ ดังเช่น กิเลสมาร เพราะฉะนั้น กิเลสเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ทำความพินาศกับจิต และถูกเทวปุตตมารครอบงำไว้ ไม่ให้พ้นไป เพราะยังความพินาศเกิดขึ้นเช่นเดียวกับเทวปุตตมาร ครับ ดังเช่นมารกล่าวว่า
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นได้ที่นี่ครับ
กิเลสมาร ขันธมาร อภิสังขารมาร มัจจุมารและเทวบุตรมาร...คืออะไร
มาร ๕ [ข้าศึกทั้งปวง...ตอนที่ ๑]
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กิเลสประการต่างๆ เป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต เมื่อเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ก็เป็นเครื่องตัดหรือทำลายซึ่งกุศลธรรม ไม่สามารถทำให้กุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นไปในขณะนั้นได้เลย ยกตัวอย่าง กิเลสมาร ๓ ประเภท คือ โลภะ โทสะ โมหะ เมื่อโลภะเกิดขึ้นก็ติดข้องในสิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ปล่อย ไม่สละ ไม่ยอมให้จิตเป็นกุศล และ ไม่ปล่อยให้ออกไปจากสังสารวัฏฏ์ โลภะเป็นเหตุให้วนเวียนไปในสังสารวัฏฏ์ไม่สิ้นสุด โทสะเป็นกิเลสมาร ขณะที่โทสะเกิดขึ้น คุณความดีเกิดไม่ได้ จิตของผู้ถูกโทสะครอบงำย่อมไม่น้อมไปสู่กุศลธรรมเลย มีแต่ความขุ่นข้องหมองใจ ไม่พอใจ เมื่อสะสมมีกำลังมากขึ้นก็ถึงขั้นล่วงเป็นทุจริตกรรมประทุษร้ายผู้อื่นให้เดือดร้อน โมหะเป็นกิเลสมาร ขณะที่มีโมหะ ขณะนั้นมืดมิด ไม่สามารถรู้สภาพธรรมที่มีจริงตามความเป็นจริงได้ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ไม่รู้ว่าอะไรเป็นคุณเป็นโทษ และตราบใดที่ยังมีโมหะอยู่ก็ย่อมเป็นเหตุให้อกุศลประการต่างๆ เกิดตามมาอีกมากมาย ทำให้วนเวียนในสังสารวัฏฏ์ต่อไป นี้เพียง ๓ ประเภทใหญ่ๆ ที่เป็นกิเลสมาร แต่เมื่อกล่าวโดยรวมแล้ว กิเลสทุกประเภท เป็นมารทั้งหมด เพราะขัดขวาง ตัดรอนโอกาสแห่งกุศลธรรมของตนเองโดยส่วนเดียว และเมื่อถูกกิเลสครอบงำ ก็เหมือนกับถูกเทวปุตตมาร คอยขัดขวางไม่ให้เป็นไปในทางที่เป็นกุศล คอยส่งเสริมให้อยู่ในวัฏฏะต่อไป ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...