ฆ่าตัวตายเป็นบาปหรือไม่?

 
นิ้ง
วันที่  10 ก.ย. 2558
หมายเลข  26998
อ่าน  3,415

เคยได้ยินหลายๆ คนพูดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายว่าเป็นบาป ไม่ได้ผุดได้เกิด ตายยังไง ตรงไหน ก็ต้องทำแบบเดิมซ้ำๆ ไป 500 ชาติ

ข้อความนี้เป็นจริง/เท็จประการใด ขอความกระจ่างด้วยค่ะ

ขออนุโมทนาและกราบขอบพระคุณ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 10 ก.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การฆ่าตัวตาย ไม่ใช่บาปสูงสุด ครับ ตามที่เราเข้าใจกัน เพราะ บาปสูงสุดที่ทำให้ผล คือ ความทุกข์ทรมาน คือ ตกนรก นับชาติไม่ถ้วน คือ การทำอนันตริยกรรม คือ การทำสงฆ์ให้แตกกัน การทำโลหิตของพระพุทธเจ้าให้ห้อเลือด การฆ่าพระอรหันต์ การฆ่ามารดา การฆ่าบิดา กรรมเหล่านี้ที่ทำ เป็นบาปร้ายแรง มีโทษมาก ทำให้ตกนรก นับชาติไม่ถ้วน ครับ ส่วนการฆ่าตัวตายเกิดจากอกุศลที่เป็นโทสะที่มีกำลัง จึงฆ่าตัวตาย แต่ไม่ได้เป็นกรรมหนัก บาปหนักร้ายแรงที่จะทำให้ตกนรกมากมาย ครับ และก็ไม่เป็นอกุศลกรรมบถ ที่เป็นปาณาติบาตด้วย เพราะ ไม่ได้ฆ่าสัตว์อื่น แต่ฆ่าตนเองและไม่ใช่ว่า การฆ่าตัวตาย จะทำให้ต้องไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ต้องเกิดแน่นอน เพราะยังมีกิเลส ที่สำคัญ สัตว์โลก ย่อมสำคัญว่า การไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด เป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะการได้เกิด ย่อมได้รับสิ่งต่างๆ ที่ดี ยังอยากเกิดอยู่ แต่ความเป็นจริง การไม่ผุดเกิด คือ ไม่เกิดอีก เป็นสิ่งที่ดีที่เป็นความจริงเพราะไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน ทั้งทุกข์กาย และ ใจ เพราะมีการเกิด เป็นเหตุ ครับ และการฆ่าตัวตาย ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องมาฆ่าตัวตายอีก 500 ชาติ ไม่มีที่สิ้นสุด ครับ แล้วแต่ครับว่า จะฆ่า หรือไม่ฆ่า ตามเหตุปัจจัยของแต่ละชาติเป็นสำคัญ

ที่สำคัญ ทุกชีวิตต่างก็ดำเนินไป จะมีชีวิตอยู่ยืนยาว หรือ สั้น ไม่มีใครบังคับได้ ตามเหตุปัจจัย ตามกรรมของแต่ละคน แต่ชีวิตในขณะนี้ ที่มีเวลายังเหลืออยู่ เป็นชีวิตที่มีค่าหรือไม่ เป็นชีวิตที่แสวงหาสิ่งที่ดี สะสมต่อไป และเป็นประโยชน์กับตนเองจริงๆ หรือไม่ คือ ชีวิตที่สะสมคุณความดี สะสมปัญญา สะสมกุศลธรรม เพราะหากแม้มีชีวิตยืนยาว แต่ไม่ประกอบคุณความดี สะสมปัญญา จากการฟังพระธรรม ชีวิตนั้นก็สูญเปล่าจากสิ่งที่เป็นสาระของชีวิตจริงๆ เพราะเกิดมาก็ด้วยความไม่รู้ ตายไปก็ด้วยความไม่รู้อีก ก็ไม่สามารถจะพ้นจากการเกิด ที่นำมาซึ่งทุกข์ประการต่างๆ ได้เลย

เพราะฉะนั้น ชีวิตที่มีค่า ที่มีเวลาพอให้เหลืออยู่ จึงควรเจริญกุศล อบรมปัญญาเท่าที่ทำได้ ตามเหตุปัจัยที่ควรจะเป็น เพราะ เมื่อปัญญาเจริญขึ้น ก็ย่อมรู้ในสิ่งที่ควร ไม่ควร แม้แต่การจะตัดสินปัญหาชีวิตให้ถูกต้องว่า ควรที่จะแก้ปัญหา หรือ จะหลีกหนีปัญหา โดยการฆ่าตัวตายหรือไม่ ครับ ปัญญาจะเป็นเครื่องนำทางว่า ชีวิตที่เกิดเป็นมนุษย์ก็แสนยาก ควรหรือที่จะละทิ้งชีวิต เพียงแค่ปัญหา ที่เพียงความคิดในเวียนใจของเรา เวลาที่เหลืออยู่ อยู่กับปัญหาด้วยความเข้าใจขึ้น ด้วยการศึกษาพระธรรมและใช้เวลาที่เหลืออยู่ที่มีประโยชน์ที่สุด คือ ความเจริญขึ้นของกุศลธรรม ฟังพระธรรมเป็นสำคัญ ครับ ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

บาปที่หนักที่สุด คือการกระทำแบบใด

มีคนคิดฆ่าตัวตาย

ปาณาติบาต....และเรื่องของการฆ่าตัวตาย

การฆ่าตัวตาย

เหตุแห่งการฆ่าตัวตาย?

เหตุที่คนฆ่าตัวตาย

การฆ่าตัวตายเป็นปาณาติบาตหรือไม่

มีชีวิตอยู่ทำความดี ดีกว่าฆ่าตัวตาย

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 10 ก.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ฆ่าตัวตาย ไม่เป็นปาณาติบาต เพราะไม่ใช่การฆ่าผู้อื่น แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ ควรที่จะได้พิจารณาว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า การเกิดเป็นมนุษย์ เป็นสิ่งที่ได้แสนยาก เพราะจะต้องได้ด้วยผลของกุศล ไม่ได้จำกัดว่าจะเป็นผลของกุศลประเภทใด ขึ้นอยู่กับว่ากุศลประเภทใดจะให้ผล ซึ่งไม่พ้นไปจากความดีในชีวิตประจำวัน ทั้งทาน ศีล และการอบรมเจริญปัญญา ถ้าเทียบกันระหว่างสุคติภูมิ กับ อบายภูมิแล้ว การไปเกิดในอบายภูมิ ไปได้ง่ายกว่าสุคติภูมิจริงๆ ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเปรียบเทียบไว้ด้วยข้ออุปมาฝุ่นที่ปลายพระนขา (เล็บ) ที่พระองค์ทรงช้อนขึ้นมา กับ ฝุ่นที่ผืนแผ่นดิน ว่า ผู้ที่เกิดเป็นมนุษย์ มีเป็นส่วนน้อย เหมือนกับฝุ่นที่อยู่ปลายพระนขาของพระองค์ ส่วนผู้ที่ไปเกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ มีมาก เหมือนกับฝุ่นที่ผืนแผ่นดิน จึงควรอย่างยิ่งที่จะได้สาระประโยชน์จากการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ด้วยการตั้งใจศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความดี เป็นที่พึ่งต่อไป

ก่อนฟังพระธรรม ไม่มีความเข้าใจอะไรเลย แต่พอเริ่มฟังเริ่มศึกษา ก็จะทำให้เข้าใจว่า ตราบใดก็ตามที่ยังมีกิเลส อยู่ ตายแล้วเกิดทันที เป็นบุคคลใหม่ในชาติใหม่ทันที ขึ้นอยู่กับว่าจะเกิดเป็นอะไร ในภูมิใด ตามควรแก่กรรมที่นำเกิด ถ้าอกุศลกรรมนำเกิด ก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ ถ้ากุศลกรรมนำเกิด ก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิ เกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นเทวดา ดังนั้น ใครก็ตามที่กล่าวว่า ไม่ได้ผุด ไม่ได้เกิด นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะบุคคลประเภทเดียวเท่านั้นที่ตายแล้วไม่เกิดอีก คือ พระอรหันต์ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
tanrat
วันที่ 11 ก.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Jarunee.A
วันที่ 22 ส.ค. 2566

ขอบคุณค่ะ และขออนุโมทนาต่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ