เรื่องภิกษุไม่ถนอมบริขาร ... วันเสาร์ที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙

 
มศพ.
วันที่  6 พ.ย. 2559
หมายเลข  28336
อ่าน  1,252

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••

... สนทนาธรรมที่ ...

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)

พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ

วันเสาร์ที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙

คือ

เรื่องภิกษุไม่ถนอมบริขาร

...จาก...

[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ ๒๔

[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ ๒๔

๕. เรื่องภิกษุไม่ถนอมบริขาร

ข้อความเบื้องต้น

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่ง ผู้ไม่ถนอมบริขาร ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "มาวมญฺเญถ ปาปสฺส" เป็นต้น


ของสงฆ์ใช้แล้วควรรีบเก็บ

ได้ยินว่า ภิกษุนั้น ใช้สอยบริขาร มีเตียงและตั่งเป็นต้น อย่างใดอย่างหนึ่ง ในภายนอกแล้ว ทิ้งไว้ในที่นั้นนั่นเอง บริขารย่อมเสียหายไป เพราะฝนบ้าง แดดบ้าง พวกสัตว์มีปลวกเป็นต้นบ้าง ภิกษุนั้น เมื่อพวกภิกษุกล่าวเตือนว่า "ผู้มีอายุ ธรรมดาบริขาร ภิกษุควรเก็บงำมิใช่หรือ?" กลับกล่าวว่า "กรรมที่ผมทำนั่นนิดหน่อย ผู้มีอายุ บริขารนั่นไม่มีจิต ความวิจิตรก็ไม่มี" ดังนี้แล้ว (ยังขืน) ทำอยู่อย่างนั้นนั่นแลอีก ภิกษุทั้งหลายกราบทูลกิริยา (การกระทำ) ของเธอ แด่พระศาสดา

พระศาสดา รับสั่งให้เรียกภิกษุนั้นมาแล้ว ตรัสถามว่า "ภิกษุ ข่าวว่า เธอทำอย่างนั้นจริงหรือ?" เธอแม้ถูกพระศาสดาตรัสถามแล้ว ก็กราบทูลอย่างดูหมิ่นอย่างนั้นนั่นแหละว่า "ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้อนั้นจะเป็นอะไร ข้าพระองค์ทำกรรมเล็กน้อย บริขารนั้น ไม่มีจิต ความวิจิตร ก็ไม่มี"

อย่าดูหมิ่นกรรมชั่วว่านิดหน่อย

ทีนั้น พระศาสดาตรัสกับเธอว่า "การที่ภิกษุทั้งหลาย ทำอย่างนั้นย่อมไม่ควร ขึ้นชื่อว่าบาปกรรม ใครๆ ไม่ควรดูหมิ่นว่า นิดหน่อย; เหมือนอย่างว่า ภาชนะที่เขาเปิดปากตั้งไว้กลางแจ้ง เมื่อฝนตกอยู่ ไม่เต็มได้ด้วยหยาดน้ำหยาดเดียวโดยแท้ ถึงกระนั้น เมื่อฝนตกอยู่บ่อยๆ ภาชนะนั้น ย่อมเต็มได้แน่ๆ ฉันใด บุคคลผู้ทำบาปกรรมอยู่ ย่อมทำกองบาปให้ใหญ่โตขึ้นโดยลำดับ ได้อย่างแน่ๆ ฉันนั้น เหมือนกัน" ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า

"บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบาป ว่า บาปมีประมาณน้อย จักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลง (ทีละหยาดๆ) ได้ฉันใด ชนพาล เมื่อสั่งสมบาปแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบาปได้ ฉันนั้น"

แก้อรรถ

บรรดาบทเหล่านั้น

บทว่า มาวมญฺเญถ ความว่า บุคคลไม่ควรดูหมิ่น

บทว่า ปาปสฺส แปลว่า ซึ่งบาป

บาทพระคาถาว่า น มตฺตํ อาคมิสฺสติ ความว่า บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบาปอย่างนั้นว่า "เราทำบาปมีประมาณน้อย เมื่อไร บาปนั่นจักเผล็ดผล?"

บทว่า อุทกุมฺโภปิ ความว่า ภาชนะดินชนิดใดชนิดหนึ่ง ที่เขาเปิดปากทิ้งไว้ในเมื่อฝนตกอยู่ ย่อมเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลงแม้ทีละหยาดๆ โดยลำดับได้ ฉันใด บุคคลเขลา เมื่อสั่งสมคือเมื่อพอกพูนบาปแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบาปได้ฉันนั้นเหมือนกัน

ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้นแล้ว แม้พระศาสดา ก็ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ว่า "ภิกษุลาดที่นอน (ของสงฆ์) ไว้ในที่แจ้งแล้ว ไม่เก็บไว้ตามเดิมต้องอาบัติชื่อนี้" ดังนี้แล

เรื่องภิกษุไม่ถนอมบริขาร จบ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 6 พ.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

เรื่องภิกษุไม่ถนอมบริขาร

ภิกษุรูปหนึ่งใช้บริขารแล้วไม่เก็บ บริขารย่อมเกิดความเสียหาย แม้จะถูกภิกษุทั้งหลายกล่าวเตือนแล้ว ก็ยังขืนทำอีก เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลความประพฤติของภิกษุรูปนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ทรงสอบถาม แล้วได้ตรัสว่า ภิกษุไม่ควรทำอย่างนั้น เพราะว่าบาปกรรม ใครๆ ไม่ควรดูหมิ่นว่านิดหน่อย อุปมาเหมือนกับภาชนะที่เขาเปิดปากตั้งไว้กลางแจ้ง เมื่อฝนตกอยู่ ไม่เต็มได้ด้วยหยาดน้ำหยาดเดียว แต่เมื่อฝนตกอยู่บ่อยๆ ภาชนะนั้นย่อมเต็มได้แน่ๆ ฉันใด บุคคลผู้ทำบาปกรรมอยู่ ย่อมทำกองบาปให้ใหญ่โตขึ้นโดยลำดับได้อย่างแน่ๆ ฉันนั้น (ตามที่ปรากฏในพระสูตร)

ขอเชิญคลิกศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

พระภิกษุในพระธรรมวินัย

กิเลสตัณหา

กองทัพกิเลส

อกุศลที่เหนียวแน่น

พระภิกษุเป็นเพศที่แตกต่างไปจากคฤหัสถ์

หากล่วงละเมิดพระบัญญัติ จะเป็นอาบัติไหม?

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
abhirak
วันที่ 11 พ.ย. 2559

กราบอนุโมทนาแด่อาจารย์ทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 12 พ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 27 ธ.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ