อยากตาย
อยากตายแต่กลัวตายทั้งๆ ที่มีความเชื่อ มีความตายทุกๆ ขณะเบี่อหน่ายกับความทุกข์ๆ ช่วยตอบที
อยากไปก็เท่านั้น... ถ้ายังไม่ถึงเวลาตาย ทำยังไงก็ไม่ตายหรอกค่ะ จุติจิตจะเกิดได้ ก็ต้องมีเหตุปัจจัย แล้วตายไปก็ใช่ว่าความทุกข์จะหมด เกิดใหม่ ความทุกข์อาจจะมากกว่าเก่าด้วยซ้ำ เมื่อชาตินี้ ท่านได้เกิดเป็นมนุษย์ และได้พบพระพุทธศาสนา จงใช้โอกาสอันประเสริฐนี้ อบรมเจริญปัญญา สะสมต่อไปในทุกๆ ชาติ เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ต้องเกิดอีกทุกข์อีกไงค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การตาย ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาให้พ้นทุกข์ ทุกข์มีได้เพราะเกิดและมีกิเลส หนทางเดียว คือเข้าใจความจริงของทุกข์ที่เกิดขึ้น ค่อยๆ อบรมปัญญาไปครับ ชีวิตที่เกิดเป็นมนุษย์ หาได้ยาก และเราก็พบพระพุทธศาสนาและแนวทางที่ถูกต้องแล้ว อย่าประมาท เป็นธรรมดาที่ต้องมีทุกข์ แต่ต้องรู้ว่าทุกข์เกิดจากอะไร และดับที่เหตุนั้น แม้จะนานก็ตาม อดทนที่จะฟังพระธรรมต่อไป ส่วนเรื่องกลัวตายก็เป็นธรรมดาเพราะเรามากไปด้วยกิเลส ครับ
ขออนุโมทนา
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ....
ข้อคิดวันนี้ บัณฑิตแม้ประสบทุกข์ก็ไม่ทิ้งธรรม
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ที่อยากตายเพราะว่าขณะนั้นอยากได้อะไรแล้วไม่ได้สมปรารถนา จึงอยากตาย ขณะที่อยากตายเป็นโทสะ เป็นอกุศลธรรม อยากตายแต่กลัวตายทั้งๆ ที่มีความเชื่อ มีความตายทุกๆ ขณะเบี่อหน่ายกับความทุกข์ๆ ๆ ๆ ช่วยตอบที
อ่านข้อความข้างต้นแล้วเหมือนเป็นกุศล เหมือนเข้าใจธรรมะ แต่ขณะใดกุศล จิตไม่เกิด ขณะนั้นไม่เข้าใจธรรมะ ไม่ใช่ปัญญา แต่เป็นตัวตนที่เข้าใจธรรมะ ธรรมะเป็นเรื่องยากมากๆ แม้แต่การศึกษาธรรมะกับทางมูลนิธิฯซึ่งเป็นแนวทาง ที่ถูกต้องแล้วมีท่านอาจารย์ค่อยแนะนำ ผู้ศึกษาธรรมะ หรือแม้แต่กระผมเองก็ อาจจะเข้าใจคำสอนผิดได้ แต่ก็ต้องศึกษาและฟังพระธรรมต่อไป ความเข้า- ใจก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องอดทน (ขันติเป็นตบะอย่างยิ่ง) แม้จะนานเพียงใดก็ ตาม เพราะเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะออกจากทุกข์ได้
เพราะไม่รู้ความจริง เพราะมีเรา จึงได้แต่คิดไปตามจิตปรุงแต่ง สุขอยู่ที่ไหน ทุกข์อยู่ที่นั่น ทุกข์อยู่ที่ไหน ธรรมอยู่ที่นั่น ธรรมดามันเป็นของมันตามธรรมชาติ เป็นโอกาสสะสมกุศล ขณะยังมีลมหายใจอยู่ เมื่อต้องการพ้นทุกข์ ก็ต้องหาวิธีค่ะ เมื่อยังไม่รู้ก็ต้องศึกษาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่คุณพระรัตนตรัย
คนเรานั้น จะตายหรือไม่ตาย อยู่ที่กรรม ชีวิตเมื่อพบพระธรรมที่ถูกต้องแล้ว ควรเห็นคุณค่าในพระธรรม คนเรานั้นรักชีวิตของตนมากที่สุด รักตนแล้ว ทำไมถึงฆ่าตน คนเรานั้นเพราะไม่ได้สิ่งที่เราต้องการ จึงควรที่จะค่อยๆ ศึกษาพระธรรมดีก่วา ชีวิตอาจค่อยๆ ดีขึ้นกว่านี้ก็ได้
มักได้ยินคนบ่นอยู่เสมอว่า "อยากจะตายให้พ้นๆ ทุกข์ไป"แต่ครั้นพอมีเหตุเจ็บป่วยเข้าจริงๆ ก็เห็นว่าไม่อยากตายกันเป็นส่วนมาก กลัวตายมากด้วยระวังจะเป็นการ หนีเสือปะจรเข้ นะคะเพราะการตายจากชาตินี้ไปด้วยโมหะ เห็นท่านว่ามีทุคติเป็นที่ไปอย่างเบาะๆ ก็ได้อัตภาพเป็นสัตว์เดรัจฉานแม้นจะมีหูได้ยินเสียง แต่จะมีโอกาสได้ฟังธรรมะและศึกษาพระธรรมอย่างมนุษย์นั้น..หมดกันแล้วที่จะมีโอกาสได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ยิ่งยากแสนยากเข้าไปใหญ่อย่าเพิ่งท้อถอยเลยนะคะ เพราะอัตภาพมนุษย์นี้ในกาลสมัยที่พระธรรมของพระพุทธเจ้า ยังอยู่ครบ คงไม่ได้มาง่ายๆ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ด้วย
ขออนุโมทนากับทุกความคิดเห็นค่ะ
ขอบคูณทุกๆ คนที่ชว่ยตอบปัญหาคุณ อิสระ ไตรสรณคมณ์ แล้วเจอกัน หวังงว่าสักวันผมคงขอคุณช่วยผมคลายทุกข์ อยากหาเพื่อนสักคน
ความทุกข์ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมีเหตุปัจจัยที่แตกต่างกัน เหตุผลเดียว คือ ขาด ปัญญา ที่มองไม่เห็นว่าทุกข์นั้นมีมาพร้อมกับการเกิดของตัวตน หากตราบใดที่ยังมีตัว เราของเรา ทุกข์นั้นก็จะยังอยู่กับเรา หนทางเดียวตือศึกษาพระธรรม อ่าน ฟัง คิด พิจารณา แม้กายจะลำบากขออย่าให้ใจต้องลำบาก สิ่งเดียวที่จะช่วยใจไม่ลำบาก คือ พระธรรม ความตายไม่ต้องรีบร้อนเพราะมีอยู่กับกายนี้ หันมาละกิเลสดีกว่า ว่าจะละ คลาย ได้อีกเท่าไรก่อนที่จะต้องทิ้งกายไป ขอเป็นกำลังใจให้ก้าวข้ามเหตุการณ์นี้ได้
"......สังขารเหล่านั้นก็อุปมาดังเมล็ดพรรณผักกาด (ที่คนวางลง) บนปลายเข็ม (พอถูกปลายเข็มก็ตกไปพลัน) อนึ่ง เมื่อ (สังขาร) ธรรมทั้งหลายเกิดแล้ว ความแตกดับก็รุมล้อมธรรมเหล่านั้นไว้ มันจึงมีความแตกทำลายเป็นธรรมดา (ในตัวมัน) ไม่ปนกับธรรมก่อนๆ มันมาโดยไม่เห็น แตกดับแล้วก็ถึงซึ่งความไม่เห็น มันเกิดขึ้นและเสื่อมสิ้นไป ดังความเกิดขึ้นแห่งสายฟ้าในอากาศ ฉะนั้น"
ขออนุโมทนาคุณไตรสรณคมน์
ข้อความที่ยกมามีความไพเราะชัดเจนมากครับ
ขอบพระคุณครับ