ปิงคิยปัญหา ...วันเสาร์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

 
มศพ.
วันที่  27 ต.ค. 2556
หมายเลข  23925
อ่าน  1,603

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺสพุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิสงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••
... สนทนาธรรมที่ ...


มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)

พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ

วันเสาร์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ

ปิงคิยปัญหาที่ ๑๖

(ว่าด้วยการไม่เกิดอีก)

จาก...


[เล่มที่ 47] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้าที่ ๙๕๗


(ภาพแสดงบรรยากาศการสนทนาธรรมที่มูลนิธิฯ วันอาสาฬหบูชา ๒๒ ก.ค. ๒๕๕๖)

...นำสนทนาโดย...

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ คณะวิทยากร

[เล่มที่ 47] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ หน้าที่ ๙๕๗

ปิงคิยปัญหาที่ ๑๖

(ว่าด้วยการไม่เกิดอีก)

[๔๔๐] ปิงคิยมาณพ ทูลถามปัญหาว่า

ข้าพระองค์เป็นคนแก่ มีกำลังน้อย

ผิวพรรณเศร้าหมอง นัยน์ตาทั้งสองของ

ข้าพระองค์ไม่แจ่มใส หูสำหรับฟังก็ไม่

สะดวก ขอข้าพระองค์อย่าได้เป็นคนหลง

พินาศเสียในระหว่างเลย ขอพระองค์จง

ตรัสบอกธรรมที่ข้าพระองค์ควรรู้อันเป็น

เครื่องละชาติและชรา ในที่นี้เสียเถิด.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า ดูกร ปิงคิยะ

ชนทั้งหลายได้เห็นเหล่าสัตว์ผู้เดือด-

ร้อนอยู่เพราะรูปทั้งหลายแล้ว ยังเป็นผู้

ประมาท ก็ย่อยยับอยู่เพราะรูปทั้งหลาย

ดูกร ปิงคิยะ เพราะเหตุนั้น ท่านจงเป็นคน

ไม่ประมาท ละรูปเสียเพื่อความไม่เกิดอีก

ปิ. ทิศใหญ่สี่ ทิศน้อยสี่ ทิศเบื้องบน

ทิศเบื้องต่ำ รวมเป็นสิบทิศ สิ่งไรๆ ในโลก

ที่พระองค์ไม่ได้เห็น ไม่ได้ฟัง ไม่ได้ทราบ

หรือไม่ได้รู้แจ้ง มิได้มี ขอพระองค์จงตรัส

บอกธรรมที่ข้าพระองค์ควรรู้ อันเป็นเครื่อง

ละชาติและชราในอัตภาพนี้เถิด

พ. ดูกร ปิงคิยะ เมื่อท่านเห็นหมู่

มนุษย์ผู้ถูกตัณหาครอบงำแล้ว เกิดความ

เดือดร้อน อันชราถึงรอบข้าง ดูกร ปิงคิยะ

เพราะเหตุนั้น ท่านจงเป็นคนไม่ประมาทละ

ตัณหาเสีย เพื่อความไม่เกิดอีก.

จบปิงคิยมาณวกปัญหาที่ ๑๖

อรรถกถาปิงคิยสูตรที่ ๑๖

ปิงคิยสูตร มีคำเริ่มต้นว่า ชิณฺโณหมสฺมิ ดังนี้.

ในบทเหล่านั้น บทว่า ชิณฺโณหมสฺมิ อพโล วีตวณฺโณ ข้า-

พระองค์เป็นคนแก่ มีกำลังน้อย ผิวพรรณเศร้าหมอง คือ นัยว่า พราหมณ์นั้น

ถูกชราครอบงำมีอายุได้ ๑๒๐ ปีโดยกำเนิด มีกำลังน้อย คิดว่า เราจักทำ

ให้ถึงบทในที่นี้ กลับทำเสียในที่อื่น และมีผิวพรรณเศร้าหมอง ด้วยเหตุนั้น

ปิงคิยะจึงกล่าวว่า ชิณฺโณหมฺสฺมิ อพโล วีตวณฺโณ ดังนี้. บทว่า

มาหมฺปนสฺสํ โมมูโห อนฺตราย ข้าพระองค์อย่าได้เป็นคนหลงพินาศเสียใน

ระหว่างเลย คือ ข้าพระองค์ยังไม่ทำให้แจ้งซึ่งธรรมของพระองค์ ยังเป็น

ผู้ไม่รู้แจ้ง อย่าได้พินาศเสียในระหว่างเลย. บทว่า ชาติปราย อิธ วิปฺปหานํ

ธรรมเป็นเครื่องละชาติและชราในที่นี้ คือ ขอพระองค์จงทรงบอกธรรมเป็น

เครื่องละชาติและชรา คือ นิพพานธรรม ณ บาทมูลของพระองค์หรือ ณ

ปาสาณกเจดีย์นี้ ที่ข้าพระองค์ควรรู้เถิด.

บัดนี้ เพราะปิงคิยะกล่าวคาถาว่า ชิณฺโณหมสฺมิ เพราะเพ่งในกายฉะนั้น

พระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อให้ปิงคิยะนั้นละความเยื่อใยในกายเสียจึงตรัสว่า ทิสฺวาน

รูเปสุ วิหญฺญมาเน ชนทั้งหลายได้เห็นเหล่าสัตว์ผู้เดือดร้อนในเพราะรูป ดังนี้.

ในบทเหล่านั้น บทว่า รูเปสุ คือเพราะรูปเป็นเหตุเป็นปัจจัย. บทว่า

วิหญฺญมาเน คือ เดือดร้อนอยู่ด้วยกรรมกรณ์เป็นต้น. บทว่า รูปฺปนฺติรูเปสุ

ย่อมย่อยยับในเพราะรูปทั้งหลาย คือ ชนทั้งหลายย่อมย่อยยับย่อมลำบากด้วย

โรคทั้งหลายมีโรคตาเป็นต้น เพราะรูปเป็นเหตุ.

ปิงคิยะแม้ฟังข้อปฏิบัติที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสจนถึงพระอรหัตแล้วก็ยัง

ไม่บรรลุธรรมวิเศษ เพราะความชราและกำลังน้อย เมื่อจะสรรเสริญ

พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถานี้อีกว่า ทิสา จ ตสฺโส ทิศใหญ่สี่ดังนี้ จึงวิงวอน

ขอให้เทศนา. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงแสดงปฏิปทาจน

ถึงพระอรหัตแก่ปิงคิยะอีกจึงตรัสคาถาว่า ตณฺหาธิปนฺเน หมู่มนุษย์ถูกตัณหา

ครอบงำแล้วดังนี้เป็นต้น. บทที่เหลือในบททั้งปวงชัดเจนดีแล้ว.

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงพระสูตรแม้นี้ ด้วยธรรมเป็นยอดคือพระอรหัตนั่นแล.

อนึ่ง เมื่อจบเทศนาปิงคิยะได้ตั้งอยู่ในอนาคามิผล. นัยว่าปิงคิยะนั้น

คิดในระหว่างๆ ว่า พาวรีพราหมณ์ผู้เป็นลุงของเราไม่ได้ฟังเทศนาอันวิจิตร

เฉียบแหลมอย่างนี้ จะมีประโยชน์อะไรด้วยการฟังของเรา เพราะความ

ฟุ้งซ่านด้วยความเยื่อใยนั้นปิงคิยะจึงไม่ได้บรรลุพระอรหัต. ส่วนชฎิล ๑,๐๐๐

ที่เป็นอันเตวาสิกของปิงคิยะนั้นได้บรรลุพระอรหัต. ทั้งหมดทรงบาตรและจีวร

สำเร็จด้วยฤทธิ์ได้เป็นเอหิภิกขุ ด้วยประการฉะนี้.

จบอรรถกถาปิงคิยสูตรที่ ๑๖


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 27 ต.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

ปิงคิยปัญหาที่ ๑๖

(ว่าด้วยการไม่เกิดอีก)

ปิงคิยมาณพ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ากราบทูลถามพระองค์ถึงธรรม

ที่เป็นเครื่องละชาติและชรา

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ว่า สัตว์ทั้งหลายย่อมเดือดร้อนย่อยยับ

เพราะรูปเป็นเหตุ เพราะความประมาท จึงควรที่จะเป็นผู้ไม่ประมาท ละรูป

เพื่อจะได้ไม่เกิดอีก มนุษย์ทั้งหลายถูกตัณหาครอบงำ เกิดความเดือดร้อนเพราะ

ตัณหา จึงควรที่จะเป็นผู้ไม่ประมาท ละตัณหา เพื่อจะได้ไม่เกิดอีก

ในเวลาจบเทศนาปิงคิยมาณพได้บรรลุเป็นพระอนาคามีบุคคล ส่วนอันเตวาสิก

๑,๐๐๐ ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

กามคุณ 5 มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกอย่างไร กามโทษ 5 มีกล่าวไว้ไหม?

กิเลสตัณหา

ตราบใดที่ยังมีตัณหา

อาศัยพระศาสดา

การดับทุกข์อย่างแท้จริง

ผลของการฟังพระธรรม

ความประมาทเป็นหนทางสู่ความตายอย่างไร?

เอหิภิกขุ

ประโยชน์จริงๆ ของการฟังพระธรรม

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Wisaka
วันที่ 28 ต.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pamali
วันที่ 28 ต.ค. 2556

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ต.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
orawan.c
วันที่ 30 ต.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Jans
วันที่ 30 ต.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 1 พ.ย. 2556

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Charlie
วันที่ 2 พ.ย. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 3 พ.ย. 2556

ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ