มองมุมมุ่งธรรม ๐๓ - ทุกขณะในชีวิตเป็นธรรม
มองมุมมุ่งธรรม ๐๓
ทุกขณะในชีวิตเป็นธรรม
ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นหลักอบรมจิตใจให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ขณะที่สละวัตถุเพื่อประโยชน์สุขของคนอื่น แม้เพียงเล็กน้อย ขณะนั้นก็ไม่ใช่เรา เป็นอนัตตา เป็นธรรมทั้งหมด ขณะที่เป็นกุศลจิตก็ชั่วขณะสติเกิดระลึกเป็นไปในการให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น จึงไม่ใช่ตัวจริงๆ นี่เป็นปัญญา ถ้าเพิ่มขึ้นก็จะประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมที่ไม่ใช่ตัวตนในชีวิตประจำวันนี้เอง แต่ก็ต้องเป็นการอบรมเจริญปัญญาไปเป็นขั้นๆ อย่างสติในขั้นทาน สติในขั้นศีล สติที่เกิดระลึกได้เห็นโทษของอกุศล และขณะที่สติเกิดกับกุศลจิต ซึ่งเป็นไปในความสงบจากกุศล นี่คือชีวิตประจำวัน แต่ยังไม่เห็นธรรมถูกต้องตามความเป็นจริง คือยังไม่ถึงระดับขั้นที่จะละการยึดถือสภาพธรรมว่า เป็นตัวตน สัตว์ บุคคล ต้องมีการฟังพระธรรมอีกจนมีความเข้าใจถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่เป็นปรมัตถธรรม
เมื่อใช้คำว่า ปรมัตถธรรม บางท่านก็อาจคิดว่าสูงไป หรือยากที่จะเข้าใจได้ แต่ตามความเป็นจริงแล้วไม่ยากเกินความเข้าใจ เพราะเหตุว่า ปรมัตถธรรม มาจากคำภาษา บาลี ๓ คำ คือ ปรม อรรถ ธรรม ปรม = อย่างยิ่ง ปรม + อรรถ +ธรรม = ธรรมที่เป็นของจริงอย่างยิ่ง ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เป็นธรรมที่พิสูจน์ได้ เป็นธรรมที่มีอรรถ อย่างยิ่ง
ถ้าเข้าใจความหมายนี้ก็จะเห็นได้ว่า ทุกอย่างที่มีจริงในขณะนี้ เป็นปรมัตถธรรม เมื่อยังไม่เคยได้ยินได้ฟังคำนี้ ก็เลยไม่ทราบว่าเป็นปรมัตถธรรมอย่างไร จึงเห็นเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน แต่ตามความเป็นจริง ปรมัตถธรรมเป็นสภาพธรรมที่มีจริงที่สามารถจะรู้ได้ทางตา คือ มองเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา ทางหูได้ยินเสียง ทางจมูกได้กลิ่น ทางลิ้นลิ้มรส ทางกายรู้เย็น-ร้อน อ่อน-แข็ง ตึง-ไหวที่กระทบสัมผัส ทางใจก็คิดนึก ทุกๆ ขณะล้วนเป็นปรมัตถธรรม คือเป็นสภาพธรรมที่มีจริง ใครจะบอกว่าไม่มีปรมัตถธรรม กำลังเห็นจริงไหม ถ้าจริงก็เป็นธรรมอย่างหนึ่ง เป็นธาตุชนิดหนึ่ง เป็นของจริงชนิดหนึ่ง
ขอเชิญคลิกอ่านตอนต่อไป ...
๐๖ - สังฆทานที่ถูกต้องเป็นอย่างไร
๐๗ - บุญกิริยาวัตถุเป็นอย่างไร