ปฐมนาถสูตร - ธรรมอันกระทำที่พึ่ง ๑๐ ประการ - ๒๕-o๗-๒๕๕๘

 
มศพ.
วันที่  19 ก.ค. 2558
หมายเลข  26799
อ่าน  1,311

นโม ตสฺส ภควโต
อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต
อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต
อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••
... สนทนาธรรมที่ ...
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)

พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘
เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น.


ปฐมนาถสูตร
...จาก...
[เล่มที่ 38] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ หน้าที่ ๓๙

...นำสนทนาโดย...
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
และคณะวิทยากร

[เล่มที่ 38] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕หน้าที่ ๓๙

๗. ปฐมนาถสูตร

(ว่าด้วยธรรมอันกระทำที่พึ่ง ๑๐ ประการ)

[๑๗] ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มีที่พึ่งอยู่เถิด อย่าเป็นผู้ไม่มีที่พึ่งอยู่เลย บุคคลผู้ไม่มีที่พึ่ง ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ธรรมอันกระทำที่พึ่ง ๑๐ ประการนี้ ๑๐ ประการเป็นไฉน? ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมในปาฎิโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร มีปกติเห็นภัยในโทษมีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีศีล ...ฯลฯ...สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย นี้เป็นธรรมกระทำที่พึ่ง.

อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นพหูสูต ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ เป็นผู้สดับมาก ทรงจำไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฏฐิ ซึ่งธรรมอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุเป็นพหูสูต ฯลฯ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฏฐิ นี้เป็นธรรมกระทำที่พึ่ง.

อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี นี้ เป็นธรรมกระทำที่พึ่ง.

อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ว่าง่าย คือ ประกอบด้วยธรรมเครื่องกระทำความเป็นผู้ว่าง่าย เป็นผู้อดทน รับอนุสาสนีโดยเคารพ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ว่าง่าย คือ เป็นผู้ประกอบด้วยธรรมเครื่องกระทำความเป็นผู้ว่าง่าย เป็นผู้อดทน รับอนุสาสนีโดยเคารพ นี้เป็นธรรมกระทำที่พึ่ง.

อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้านในกิจที่ควรทำ ทั้งสูง ทั้งต่ำ ของเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ประกอบด้วยปัญญา เป็นเครื่องพิจารณา อันเป็นอุบายในกิจนั้น อาจทำ อาจจัดได้ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้านในกิจที่ควรทำอย่างไรทั้งสูงทั้งต่ำ ของเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ...ฯลฯ... อาจทำ อาจจัดได้นี้เป็นธรรมกระทำที่พึ่ง.

อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ใคร่ในธรรม เป็นผู้ฟังและแสดงธรรมอันเป็นที่รัก มีความปราโมทย์อย่างยิ่งในธรรมอันยิ่ง ในวินัยอันยิ่งดูกร ภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ใคร่ในธรรม เป็นผู้ฟังและแสดงธรรมอันเป็นที่รัก มีความปราโมทย์อย่างยิ่งในธรรมอันยิ่ง ในวินัยอันยิ่ง นี้เป็นธรรมกระทำที่พึ่ง.

อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย นี้เป็นธรรมการทำที่พึ่ง.

อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้สันโดษด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและเภสัชบริขารอันเป็นปัจจัยของคนไข้ ตามมีตามได้ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุเป็นผู้สันโดษด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และเภสัชบริขารอันเป็นปัจจัยของคนไข้ ตามมีตามได้ นี้เป็นธรรมกระทำที่พึ่ง.

อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีสติ คือ ประกอบด้วยสติเป็นเครื่องรักษาตนอย่างยิ่ง ระลึกได้ ตามระลึกได้ซึ่งสิ่งที่ทำคำที่พูดแล้วแม้นานได้ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีสติ คือ ประกอบด้วยสติเป็นเครื่อง รักษาตนอย่างยิ่ง ระลึกได้ ตามระลึกได้ซึ่งสิ่งที่ทำคำที่พูดแล้วแม้นานได้ นี้เป็นธรรมกระทำที่พึ่ง.

อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีปัญญา คือ ประกอบด้วยปัญญา อันเห็นความเกิดความดับ เป็นอริยะ ชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีปัญญา คือประกอบด้วยปัญญาอันเห็นความเกิดความดับ เป็นอริยะ ชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ นี้เป็นธรรมกระทำที่พึ่ง.

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงเป็นผู้มีที่พึ่งอยู่เถิด อย่าเป็นผู้ไม่มีที่พึ่งอยู่เลย (เพราะว่า) บุคคลผู้ไม่มีที่พึ่งย่อมอยู่เป็นทุกข์ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ธรรมกระทำที่พึ่ง ๑๐ ประการนี้แล.

จบปฐมนาถสูตรที่ ๗

อรรถกถาปฐมนาถสูตรที่ ๗

ปฐมนาถสูตรที่ ๗ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.

บทว่า สนาถา ความว่า มีญาติ คือ มีญาติพวกพ้องมากอยู่. ชนเหล่าใดทำที่พึ่ง เหตุนั้นชนเหล่านั้น ชื่อว่าผู้ทำที่พึ่ง อธิบายว่า กระทำให้มีที่พึ่ง ที่พำนักแก่ตน. ในบทว่า กลฺยาณมิตฺโต เป็นต้น ชื่อว่า มีกัลยาณมิตร ก็เพราะมีมิตรดี ที่สมบูรณ์ด้วยศีล เป็นต้น ชื่อว่า มีกัลยาณสหายก็เพราะชนเหล่านั้นเป็นสหายของเขา เพราะไปร่วมกันในอิริยาบถมียืนนั่งเป็นต้น. ชื่อว่า กัลยาณสัมปวังกะ ก็เพราะเอออวยโอนอ่อนในพวกกัลยาณมิตร ด้วยกายและใจ. บทว่า สุวโจ โหติ ความว่า ย่อมเป็นผู้ที่เขาพึงว่ากล่าวโดยง่าย ที่เขาพึงสั่งสอนได้ง่าย. บทว่า ขโม ได้แก่แม้ถูกว่ากล่าวด้วยคำหยาบคาย กักขฬะ ก็ทนได้ ไม่โกรธ. บทว่า ปทกฺขิณคฺคาหิ อนุสาสนึ ความว่า ไม่การทำเหมือนบางคนที่เมื่อถูกท่านโอวาทก็รับเอาข้างซ้าย [ไม่เคารพ]ตอบโต้หรือไม่ฟังเดินไปเสีย รับเอาเบื้องขวา [คือโดยเคารพ] ด้วยกล่าวว่า โอวาทพร่ำสอนเถิดท่าน เมื่อท่านไม่โอวาท คนอื่นใครเล่าจักโอวาทดังนี้.

บทว่า อุจฺจาวจานิ แปลว่า สูงต่ำ. บทว่า กึกรณียานิ ได้แก่ กิจกรรมที่ถามอย่างนี้ว่า ผมจะทำอะไร แล้วกระทำ. บรรดากิจกรรมสูงต่ำชื่อว่ากิจกรรมสูง ได้แก่ กิจกรรม เช่นว่า ทำจีวร ย้อมจีวร โบกปูน พระเจดีย์ กิจกรรมที่จะพึงทำในโรงอุโบสถ เรือนพระเจดีย์ และเรือนโพธิ์ อย่างนี้เป็นต้น. ชื่อว่ากิจกรรมต่ำ ได้แก่กิจกรรมเล็กน้อย เช่น ล้างบาตร ทาน้ำมันเป็นต้น. บทว่า ตตฺรุปายาย ได้แก่อันดำเนินไปในกิจกรรมนั้น. บทว่า อลํ กาตุ แปลว่า เป็นผู้สามารถทำได้เอง. บทว่า อลํ สํวิธาตุ แปลว่า ผู้สามารถจัดการได้.

ภิกษุชื่อว่า ธรรมกามะ เพราะมีความรักใคร่ธรรม อธิบายว่าย่อมรักพระไตรปิฎกพุทธวจนะ. บทว่า ปิยสมุทาหาโร ความว่า เมื่อผู้อื่นกล่าวอยู่ ก็ฟังโดยเคารพ ทั้งตัวเองก็ใคร่จะแสดงแก่ผู้อื่น. ในคำว่า อภิธมฺเม อภิวินเย นี้ พึงทราบ ๔ หมวด คือ ธรรม อภิธรรม วินัย อภิวินัย. ใน ๔ หมวดนั้น ชื่อว่า ธรรม ได้แก่ พระสุตตันตปิฎก ชื่อว่า อภิธรรม ได้แก่ปกรณ์ทั้ง ๗. ชื่อว่า วินัย ได้แก่วิภังค์ทั้งสอง[ภิกขุวิภังค์ ภิกขุนีวิภังค์] ชื่อว่า อภิวินัย ได้แก่ขันธกะและบริวาร. อีกนัยหนึ่ง ทั้งสุตตันตปิฎก ทั้งอภิธัมมปิฎก ชื่อว่า ธรรมทั้งนั้น. มรรคผล ชื่อว่า อภิธรรม วินัยปิฎกทั้งสิ้น ชื่อว่า วินัย การทำการระงับกิเลส ชื่อว่า อภิวินัย อธิบายว่า เป็นผู้มีความปราโมทย์อย่างโอฬารในธรรมอภิธรรม วินัย และอภิวินัยนั้นทั้งหมด ด้วยประการฉะนี้. บทว่า กุสเลสุธมฺเมสุ เป็นสัตตมีวิภัตติ ลงในอรรถตติยาวิภัตติ. อธิบายว่า เป็นผู้ไม่ทอดธุระ เพื่อต้องการบรรลุธรรมเหล่านั้น เพราะเหตุแห่งกุศลธรรมที่เป็นไปในภูมิ ๔.

จบอรรถกถาปฐมนาถสูตรที่ ๗.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 19 ก.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

ปฐมนาถสูตร ว่าด้วยธรรมอันกระทำที่พึ่ง ๑๐ ประการ

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ธรรมที่ทำให้มีที่พึ่ง ๑๐ ประการ ได้แก่

๑. มีศีล

๒. เป็นพหูสูต สดับตรับฟังพระธรรม

๓. มีมิตรดี

๔. เป็นผู้ว่าง่าย น้อมรับคำพร่ำสอนโดยเคารพ

๕. มีความขยัน ไม่เกียจคร้านในกิจที่ควรทำ

๖. เป็นผู้ใคร่ในธรรม

๗. เป็นผู้ปรารภความเพียร

๘. เป็นผู้สันโดษ

๙. มีสติ

๑๐. มีปัญญา

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

ศีล

อาศัยพระศาสดา

ลักษณะกัลยาณมิตร

กัลยาณมิตร หมายถึงเพื่อนที่ดี ไม่เกี่ยวกับทางธรรมได้หรือไม่

การเป็นผู้ว่าง่ายคืออะไรและทำอย่างไรครับ

แม้คนผู้เกียจคร้านนี้ ก็อยู่เป็นทุกข์ทั้งในปัจจุบันและสัมปรายภพ.

การทำความเพียรในพระพุทธศาสนา เพื่อการบรรลุธรรม

สันโดษ สันตุฏฐิกถา

สติ กับ สมาธิ

ปัญญาไม่สามารถเจริญขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น

กุศลธรรม [ถอดเทปสนทนาธรรมรายการบ้านธัมมะ]

มีกุศลเป็นที่พึ่ง
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ..

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
orawan.c
วันที่ 23 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 24 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 24 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chamaikorn
วันที่ 24 ก.ค. 2558

ขอบคุณ และขออนุโมทนาคะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ