สนทนาธรรมข้ามปีที่ไซ่ง่อน 12 ลาที มิใช่ลาก่อน ... ไซ่ง่อน
ลาที มิใช่ลาก่อน ... ไซ่ง่อน
ตั้งใจว่าจะจบแล้ว แต่ช่างภาพกิตติมศักดิ์ได้ส่งภาพไปให้คุณวันชัยแล้ว และบีบบังคับให้ เขียนอีกตอนหนึ่งเพื่อจบอย่างสมบูรณ์เมื่อลาสหายธรรมเวียดนามที่สนามบิน ไม่ทราบว่า งานนี้นักเขียนกับช่างภาพใครใหญ่กว่ากัน
ต้องออกจากโรงแรมตอน 07.00 น. จึงถูกปลุกให้ตื่นตอนตีห้า มารับประทานอาหารเช้าตอน 6 โมงเช้า เดินไปห้องอาหาร ผ่านเครื่องดนตรีพื้นเมืองเวียดนามที่ถูกผ้าคลุมไว้ เพราะยังเช้า เกินไปที่จะบรรเลงให้แขกของโรงแรมฟัง ทำให้นึกถึงนักดนตรีที่มาบรรเลงเครื่องดนตรีนี้ที่ทำ ด้วยไม้ไผ่ เรียกว่าตรึง (ตามที่เขาออกเสียง ตะ - หรึง) เขาถามพวกเราว่ามาจากที่ไหน พอรู้ว่า มาจากเมืองไทย ก็บรรเลงเพลงลอยกระทง แมวกับหนู ของเบิร์ด ธงชัย และอีกเพลงหนึ่งจำ ชื่อไม่ได้ทุกวัน วันหนึ่งท่านอาจารย์ได้นั่งโต๊ะใกล้เครื่องดนตรี เขาบรรเลงเพลงไทยให้เราฟัง ตลอดเวลา พวกเราตบมือให้กำลังใจและทิปด้วย ท่านอาจารย์เมตตาแสดงความสนใจด้วย การไปลองเล่นเครื่องดนตรี คนเล่นดีใจมาก แต่วันนี้เราจะกลับแล้ว เขายังไม่มาทำหน้าที่ คงจะไม่พบกันอีก
ถึงสนามบิน 07.30 น. คนแน่นสนามบินเหมือนที่ดอนเมือง ต้องเข้าคิวยาว ระหว่างเข้าแถวรอ ชาวอินเดียเห็นโลโก้ มศพ. ที่กระเป๋าสะพายของช่างภาพและเสื้อท่านอาจารย์ “Do good and Study Dhamma” จึงสนทนากับท่านอาจารย์ถึงมูลนิธิ
พวกเรามีเวลาพักก่อนขึ้นเครื่อง สนทนากันด้วยไมตรีจิตเป็นกลุ่มๆ เวลา 11 วันที่ไซ่ง่อนคน ไทยและต่างชาติ 29 คนที่ติดตามท่านอาจารย์ครั้งนี้รู้จักสนิทสนมกันมากขึ้น เพราะต่างก็ ตั้งใจมาเจริญกุศลทุกประการ โดยเฉพาะมาฟังธรรมให้เข้าใจมากขึ้น บางคนก็เป็นวิทยากร อย่างคุณนีน่า วัน กอร์คอม ผู้เขียนหนังสือ “จดหมายเกี่ยวกับวิปัสสนา” ที่คุณ Tam Bach ได้ ศึกษาและเป็นจุดเริ่มต้นในการเผยแพร่พระธรรมในเวียดนาม คุณโจนาธาน แอบบ๊อท คุณซา ราห์ พรอคเตอร์ แอบบ๊อท หม่อมเบตตี้ ยุคล ณ อยุธยา ที่เหลือต่างก็ตั้งใจมาฟังพระธรรมให้ เข้าใจขึ้น อย่างคุณไพน่าจากอเมริกาและคุณแอนน์จากแคนาดา คุณทอม ชาวอิสราเอลที่ อพยพไปอยู่อเมริกา ทำงานมูลนิธิช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นโรคเอดส์ให้ได้รับการศึกษาสูงขึ้น ท่านมากับคุณเบฟ ภรรยาชาวอเมริกาใต้ (ใกล้ๆ กับเวเนซูเอลล่า จำชื่อประเทศไม่ได้ แต่บอก ว่าเป็นเกาะเล็กๆ )
คุณทอมพูดภาษาไทยชัดมาก เพราะเคยมาอยู่เมืองไทย 10 ปี ตอนนี้เวลา หน้าหนาวที่อเมริกาก็จะอพยพหนีหนาวมาอยู่เชียงใหม่ปีละหลายเดือน คุณทอมและภรรยา เป็นคนมีอัธยาศัยดีมาก ชอบช่วยเหลือ สมกับทำงานมูลนิธิช่วยเหลือเด็ก คุณเดวิด แม้ขาไม่ดี แต่ก็ใจสู้ นั่งรถเข็นไปฟังธรรมด้วย คุณโรเบิร์ต ชาวนิวซีแลนด์ ตามมาทีหลังพร้อมกับภรรยา ญี่ปุ่น ลูกสาว และลูกชายเล็กๆ อายุไม่ถึง 2 ขวบมาร่วมฟังและกลับก่อน แต่ก็ยังเป็นเจ้าภาพ อาหารกลางวัน 1 มื้อ
กลุ่มคนไทยก็ไม่ธรรมดา คุณสุภาพรรณและสามี คุณธีรพงศ์ รับอาสา ดูแลเรื่องเงิน เพราะเป็นงานที่ถนัด และก็ทำได้ดีมาก เงินที่เก็บสำหรับรับประทานอาหารเย็น ร่วมกันและค่าทิปต่างๆ เธอทำบัญชีรายงานเรียบร้อยราวกับเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีผู้ถือหุ้น มากมาย มีเงินเหลือและเธอบริจาคเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือการจัดสนทนาธรรมครั้งนี้และ กิจกรรมต่างๆ ของชมรมบ้านธัมมะเวียดนาม ที่มีการสนทนาธรรมอาทิตย์ละ 3 วัน ท่านพลเรือ โทนพดล ไม่เคยขาดการฟังสนทนาธรรมแม้แต่ครั้งเดียว แล้วยังเปิดห้องให้สนทนาพิเศษใน ตอนเย็นจนถึงสองทุ่มด้วย คุณเผ่าทิพย์ คุณเมตตา คุณกฤษณา คุณสุภาพรรณ คุณยุพิน ช่วย ดูแลเครื่องดื่มบำรุงกำลังและคลายความเมื่อยล้าให้ท่านอาจารย์ คุณพี่กระเช้ารัตน์ คอยรับ ท่านอาจารย์และพี่จี๊ดหน้าห้องเพื่อไปทานข้าวเช้าทุกวัน คุณมารศรีช่วยติดต่อประสานกับชาว ต่างชาติ ที่ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนสามีของเธอที่ล่วงลับไปแล้วทั้งนั้น คุณปริญญาเก็บข้อมูลต่างๆ รายงานในกระดานสนทนา อาจารย์ฉัตรชัยและ รศ. สงบ เป็นช่างภาพสมัครเล่น น้องป๊อบ วุฒิ เดชา เป็นผู้ฟังการสนทนาธรรมตลอดเวลา คุณเบญจมาสเป็น entertainer ให้กลุ่มที่ไม่ฟัง ธรรมมีเสียงหัวเราะด้วยอารมณ์ขันของเธอ คุณเล็ก จิราภรณ์ ศรีสมุทร เป็นคนประสานงานกับ สหายธรรมเวียดนาม เพราะเธอสามารถใช้ภาษามือกับเวียดนามได้ดี น้องซุงและน้องติ๋ม อายุ น้อยกว่าเพื่อน ให้ทำหน้าที่ดูแลนับยอดลูกทัวร์ เวลาไปศึกษานอกสถานที่ เพราะป้าๆ นับเลข ไม่ถ้วนแล้ว มีใครบ้างที่ยังไม่ได้กล่าวถึง อ้อ ตัวเอง ทำหน้าที่ผู้จัดจากเมืองไทย ผู้รายงาน ข่าวสดและแห้ง
น่าจะครบทุกคนแล้วนะ ถ้าไม่ครบก็ขออภัย เพราะวิตกเจตสิกไม่เกิดนึกถึงชื่อ คนที่ขาดไปนั่นเอง แต่คิดว่าคงครบแล้ว อ้อ ขาดคนสำคัญรองจากท่านอาจารย์ คือ พี่จี๊ด สุจิตต์ อึ้งภากรณ์ ที่ติดตามไปดูแลท่านอาจารย์ทุกที่ พี่จี๊ดเป็นหน้าเป็นตาให้กลุ่มของเรา เวลาไปไหนๆ คนจะชมพี่จี๊ดเสมอ ไปตลาดเบนถั่นด้วยกัน แม่ค้ามามุงดูแล้วก็ชมว่า สวย เรา บอกว่า เป็นเจ้าหญิงเมืองไทย พี่จี๊ดทำให้ต่างชาติรู้ว่า คนไทยสวยๆ ก็มีเหมือนกันนะ ที่ด่าน ตรวจคนเข้าเมืองของเวียดนาม เจ้าหน้าที่สาวดูอายุพี่จี๊ดแล้วก็บอกคนใกล้ๆ ให้ดูว่า คนอายุ 86 ยังสวยขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อ (เดาจากกิริยา ฟังไม่ออกหรอก)
ลืมคนสำคัญจริงๆ ถ้าไม่ได้บุคคลผู้นี้งานเขียนจะไม่น่าอ่านเลย ท่านคือ คุณวันชัย ภู่งาม ที่ คอยรับภาพจากตากล้องสมัครเล่นส่งไปทางไลน์นับร้อยๆ ภาพ แล้วเลือกภาพที่เหมาะสม ประกอบเรื่อง และอีกคนคือน้องเบน บุญยวีร์ รัชนี ที่ช่วยสอนเทคนิคต่างๆ ในการส่งไลน์ ตั้งแต่เมืองไทยจนถึงไซ่ง่อน และที่ทำสำเร็จเพราะเมืองไซ่ง่อนมีไวไฟทุกแห่ง แรงด้วย ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
เครื่องดีเลย์เล็กน้อย แต่ก็มาถึงดอนเมืองก่อนเวลา คือ 11.10 น. พบคุณแก้วตา อเนกพุฒิ มา รอรับท่านอาจารย์แล้ว ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ
อีกภพหนึ่งในไซ่ง่อน เวียดนามก็สิ้นสุดลง ได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา สะดวกสบาย ตื่นขึ้นมาก็ อาบน้ำแต่งตัว ลงไปทานอาหารเช้า แล้วก็ไปฟังธรรม ออกจากห้องฟังธรรมก็ไปทานอาหาร กลางวัน แล้วจะไปช็อปปิ้งหรือเที่ยวชมเมือง นอนหลับพักผ่อนตอนบ่าย แล้วก็ฟังธรรม ไป ทานอาหารเย็น หรือจะพักผ่อนก็ตามสบาย ไม่ต้องทำอาหาร ล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน ซักเสื้อผ้า ซึ่งเป็นชีวิตปกติประจำวัน คิดว่าจะมีความสุข แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ความสุขไม่ได้ อยู่กับการใช้ชีวิตสะดวกสบาย มีคนคอยรับใช้ ไม่ต้องทำงาน แต่ความสุขอยู่ที่ได้เข้าใจความ จริงว่า ทุกอย่างเป็นธรรมะที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย เกิดเมื่อปรากฏ เกิดแล้วก็ดับไปทันที ไม่ กลับมาอีก จึงไม่เป็นเรา ไม่เป็นของเรา แต่เพราะไม่รู้จึงยึดมั่นในสิ่งที่ดับไปแล้วว่า เที่ยง เป็นสุข และเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นเรา เป็นของเรา จึงยังเป็นทุกข์ เพราะคิดว่าเรายังต้อง ทำงาน เราเหนื่อย ยังไม่ได้เป็นธรรมะแต่ละหนึ่งจริงๆ
กราบท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่พยายามพร่ำสอนบ่อยๆ เนืองๆ ด้วยเมตตา เพื่อให้ รู้ความจริงนี้ซึ่งเหมือนใหม่เสมอ เพราะฟังแล้วก็ลืม ฟังอีกก็เหมือนยังไม่เคยฟังมาก่อน เพราะ ยังไม่เข้าไปในใจเลย ยังอยู่ที่หนังกำพร้าที่กำลังจะลอก ถูกมือลูบก็หลุดไปแล้ว ทำอย่างไรได้ สะสมมาน้อย ก็ต้องฟังต่อไปจนกว่าจะเข้าใจว่า เป็นธรรมะ ไม่มีเราจริงๆ
... อ่านย้อนหลัง ...
ขออนุโมทนาในการเผยแผ่พระธรรมอันประเสริฐของทุกๆ ท่าน
ขอบพระคุณท่านผู้เขียน (อาจารย์แดง ขอเรียกพี่แดงก็แล้วกันนะครับ) และทีมงาน ที่ทำให้ผู้ที่ไม่ได้ร่วมเดินทางไปเจริญกุศลด้วยในครั้งนี้
ได้ติดตามอ่านเรื่องราว ได้เห็นภาพบรรยากาศที่สอดแทรกหัวข้อธรรม ผมชื่นชอบหัวข้อธรรมที่เป็นไปตามปกติธรรมดาที่พี่แดงนำมาเขียนให้อ่านมาก รู้สึกได้ว่าเป็นการถ่ายทอดด้วยความจริงใจจากผู้ที่ได้ศึกษามาเป็นเวลานาน ทั้งยังให้ข้อมูลการเดินทางตามสถานที่ต่างๆ ตลอดทริป ซึ่งบางครั้งตัวเองรู้สึกว่าสนใจ ที่จะติดตามมากกว่าอยากจะติดตามธรรมที่ท่านอาจารย์แสดงซะมากกว่า พอให้ระลึกได้นิดๆ หน่อยๆ ว่าช่างเป็นไปตามการสะสมของอกุศลที่มีมากมายจริงๆ
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่แดงและ อาจารย์สงบ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณวันชัย ผู้เรียบเรียงภาพ
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
🌾🌾🌾
สนทนาธรรมข้ามปีที่ไซ่ง่อน 12 ตอนก็จบไปแล้ว ด้วยการติดตามการายงานข่าวของพี่แดง อย่างเพลิดเพลิน บางช่วงก็ต้องอมยิ้มในอารมณ์ขันของพี่แดง บางช่วงก็รู้สึกซาบซึ้ง ในศรัทธาของชาวเวียดนาม และความเมตตาของท่านอาจารย์ท่ีมีต่อทุกคน แม้จะไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วยในครั้งนี้ แต่เมื่อติดตามดูภาพและเสียงของพี่แดง (คิด) ก็เหมือนอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ค่ะ ...
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาพี่แดงด้วยความเคารพค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของทุกๆ ท่านด้วยค่ะ